รู้จักเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์สำหรับชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเรามักจะเห็นมันตามบ้านหรือที่พักอาศัย ปั้มน้ำมัน และห้างสรรพสินค้า มักติดตั้งในรูปแบบ Home Use หรือการชาร์จจากไฟบ้าน (Wall Charger) และรูปแบบของการให้บริการที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station)
ซึ่งในปัจจุบัน ความแตกต่างของกระแสไฟฟ้าที่เครื่องชาร์จในประเทศไทยจะมี 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ เครื่องชาร์จฯ แบบด่วน (Quick Charge) หรือ DC Charger ซึ่งเหมาะกับการชาร์จเร่งด่วน เพราะใช้เวลาในการชาร์จน้อย เป็นการชาร์จตรงเข้าแบตเตอรี่ภายในรถได้เลย ไม่ต้องผ่าน On board charger การชาร์จแบบนี้จะมีในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV: Battery Electric Vehicle) เท่านั้น โดยใช้เวลาชาร์จไม่เกิน 1 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่แวะทำธุระสัก 20-30 นาทีถือว่าเหมาะมากเพราะได้ไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาเพียงพอที่จะเดินทางไปต่อ
เครื่องชาร์จฯ อีกแบบก็คือ AC Charger ซึ่งเหมาะกับการชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืนหลังจากผู้ขับขี่กลับบ้าน เพื่อรักษาแบตเตอรี่ไปในตัว โดยการชาร์จแบบนี้ จะใช้เวลาชาร์จนานกว่าแบบ DC ส่วนใหญ่ และมักจะติดตั้งไว้ที่บ้านหรือที่พักอาศัย เมื่อเสียบสายชาร์จแล้ว ไฟจะวิ่งผ่าน On-Board Charger ภายในตัวรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อแปลงกระแสไฟจากกระแสสลับไปเป็นกระแสตรงแล้วชาร์จเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ ทั้งนี้ รถยนต์ไฟฟ้าของเราจะรองรับกำลังไฟได้แค่ไหนขึ้นอยู่กับรุ่นของรถยนต์ไฟฟ้านั้นๆ นะครับ โดยเครื่อง AC Charger รองรับรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV : Plug-in Hybrid) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV: Battery Electric Vehicle) ซึ่งต่างจาก DC ที่ไม่รองรับรถ PHEV แต่โดยรวมแล้ว ไม่ว่าจะชาร์จแบบไหน ก็ถือได้ว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามีต้นทุนค่าพลังงานที่ถูกกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันแน่นอน ที่สำคัญเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นพลังงานสะอาดอีกด้วย
สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
การติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน (EV Wall Charger)
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านส่วนใหญ่จะใช้ระบบไฟแบบ AC ซึ่งชาร์จได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น รองรับการชาร์จได้สูงสุด 22 kW ขึ้นอยู่กับระบบไฟฟ้าที่บ้านของท่าน, ตู้ชาร์จ และรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ท่านใช้ว่ารองรับกำลังไฟได้เท่าใด รวมไปถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดด้วย นอกจากนี้ การมีเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน ทำให้เรามีแหล่งเติมไฟฟ้าเป็นของตัวเองภายในพื้นที่ของเรา ซึ่งทั้งสะดวกและสามารถชาร์จได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เราสามารถพักผ่อนอยู่ในบ้าน และชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้เต็มได้แบบสบายๆ ไปพร้อมกัน โดยการติดตั้งเครื่องชาร์จฯ รูปแบบนี้ มักเป็นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบธรรมดา หรือแบบ AC ซึ่งในท้องตลาดจะมี 3 กำลังไฟหลักๆ ได้แก่ 7 kW, 11 kW และ 22 kW ซึ่งข้อดีของเครื่องชาร์จฯ แบบ AC คือมีราคาอุปกรณ์ติดตั้งที่ถูกกว่าแบบชาร์จด่วน หรือแบบ DC โดยเครื่องชาร์จฯ แบบ AC เป็นการจ่ายไฟฟ้าแบบกระแสสลับจึงปล่อยกระเเสไฟค่อนข้างน้อยไม่ทำให้แบตเตอร์รี่ร้อนมาก สามารถชาร์จข้ามคืนได้โดยไม่ต้องห่วงว่าแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพ แต่การจ่ายไฟฟ้าแบบกระแสสลับจะต้องใช้เวลาในการชาร์จนานกว่าการจ่ายไฟฟ้าแบบกระแสตรง จึงเป็นที่นิยมติดตั้งตามที่พักอาศัยมากกว่า
เครื่องชาร์จประเภทนี้ ใช้งานง่าย แค่เสียบปลั๊ก และสั่งชาร์จได้เลย ไม่ต้องรอเชื่อมต่อระบบแบบสถานีชาร์จ ผู้ที่สนใจติดตั้งเครื่องชาร์จแบบนี้ จึงควรเลือกซื้อจากผู้จำหน่ายที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐาน และควรเลือกผู้ให้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรตั้งแต่การจำหน่ายตัวเครื่องชาร์จ, ระบบวงจรไฟฟ้า รวมไปถึงบริการหลังการขายที่ดี สามารถ On-Call Service ได้ภายใน 24 ชั่วโมง ตัวอย่างเช่น on-ion แบรนด์ผู้จำหน่ายเครื่องชาร์จฯ ที่ได้รับการพัฒนาเครื่อง EV charger โดยสถาบันนวัตกรรม ปตท. ผ่านการทดสอบมาตรฐานสากล IEC 61851 และได้รับการขึ้นทะเบียนในบัญชีนวัตกรรมไทย รองรับรถยนต์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV : Plug-in Hybrid) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV : Battery Electric Vehicle) ได้ทุกรุ่น ทุกแบรนด์ โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @onionev
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน (EV Wall Charger) จาก on-ion
วิธีเลือกเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน
การเลือกเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อเครื่องชาร์จฯ เพราะมันจะแปรผันต่อกำลังไฟฟ้าทั้งฝั่งที่ตัวรถรับได้ และฝั่งของบ้านเราเอง ว่ามันเหมาะสมกับการติดตั้งเครื่องชาร์จแบบใด
แล้วเครื่องชาร์จแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด? เรามีวิธีการตรวจสอบง่ายๆ ดังนี้
- ตรวจสอบว่ารถยนต์ไฟฟ้าของคุณ สามารถรับไฟฟ้าได้กำลังสูงสุดที่เท่าไหร่ และใช้รูปแบบการรับไฟฟ้าแบบ 1 เฟส หรือ 3 เฟส โดยส่วนใหญ่แล้วความสามารถในการรับไฟฟ้าผ่านการชาร์จ AC จะมีอยู่ 3 ระดับหลัก ได้แก่ 7 kW, 11 kW และ 22 kW
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้าของบ้านคุณว่าเป็นระบบใด และมีขนาดใด โดยเริ่มต้นให้ตรวจเช็คจากมิเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่หน้าบ้านได้เลย ที่มิเตอร์จะมีบอกทั้งหมดว่าบ้านของคุณใช้ระบบไฟฟ้าแบบไหน
ยกตัวอย่างเช่น 30(100) 1 เฟส 2 สาย หมายความว่า บ้านของคุณใช้ไฟฟ้าได้สูงสุด 100 แอมป์ ด้วยระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟส
กับอีกแบบ อาทิ 30(100) 3 เฟส 4 สาย หมายความว่า บ้านของคุณใช้ไฟฟ้าได้สูงสุด 100 แอมป์เช่นกัน แต่เป็นระบบไฟฟ้าแบบ 3 เฟส หรือจะว่ากันแบบง่ายๆ นั่นคือคุณสามารถใช้ไฟฟ้าได้มากกว่าระบบ 1 เฟสถึง 3 เท่า
- เลือกเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้เหมาะกับกำลังไฟฟ้าของรถเป็นหลัก เพราะถ้ารถของคุณรับไฟฟ้า AC ได้ 7 kW แต่ถ้าคุณติดเครื่องชาร์จ 22 kW ยังไงรถของคุณก็รับไฟฟ้าได้ 7kW อยู่ดี จึงไม่มีความจำเป็นต้องติดเครื่องใหญ่
ทว่า ถ้ารถของคุณสามารถรับไฟฟ้า AC ได้ 22 kW และคุณก็ใช้เครื่องชาร์จ 22 kW บอกเลยว่ากำลังในการชาร์จนี่เร็วแรงไม่แพ้เครื่องชาร์จสาธารณะแน่นอน
และ หากรถของคุณ รับไฟฟ้า AC ได้ 22 kW และคุณใช้เครื่องชาร์จ 7 kW รถก็จะรับไฟฟ้าได้สูงสุด 7 kW เพราะนั่นคือความสามารถในการจ่ายไฟของเครื่องชาร์จนั่นเอง
- ควรเลือกซื้อเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมบริการติดตั้งจากผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมบริการติดตั้ง จัดเป็นการลงทุนที่ใช้จำนวนเงินสูง จึงควรเลือกใช้บริการกับผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้อย่าง on-ion ที่ตอนนี้มีบริการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมระบบวงจรไฟฟ้าแบบครบครัน โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @onionev หรือติดตามอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ที่ Facebook Fanpage: Onion - EV Charger Solution
การติดตั้งเป็นสถานี EV Charging Station
สถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charging Station)
การติดตั้งสถานีเครื่องอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการติดตั้งเครื่องชาร์จฯ ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามักติดตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีศักยภาพ และสถานที่ที่มีเวลารอระหว่างชาร์จ เช่น ศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร เป็นต้น โดยภายในสถานีชาร์จฯ จะพบเครื่องชาร์จฯ ทั้งแบบ AC Charge และ DC Charge ซึ่งนอกจากรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดหรือ (PHEV) ก็สามารถใช้บริการสถานีชาร์จฯ ที่มีระบบ AC ได้เช่นกัน
ตัวอย่างของผู้ให้บริการสถานีชาร์จฯ แบบครบวงจรที่ใช้งานง่าย และมีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเราสามารถเข้าไปใช้บริการได้อย่างสะดวกคือ on-ion ซึ่งเปิดให้บริการสถานีชาร์จไฟ EV ด้วยพลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ กว่า 59 สถานี 450 หัวชาร์จ บางสถานียังเปิดให้บริการ 24 ชม.พร้อมเชื่อมต่อความสุข ให้ทุกการเดินทางไม่สะดุด ด้วยจุดบริการทั่วไทย ผู้ใช้บริการสามารถควบคุมการใช้งานผ่าน on-ion Mobile Application ทั้งจากระบบ Android และ iOS มีจุดไหนใกล้คุณ อย่าลืมแวะไปใช้บริการได้นะครับ
สรุป ควรเลือกเครื่องชาร์จแบบไหน
โดยสรุปแล้ว เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีความแตกต่างกันไปตามรูปแบบการติดตั้งและพฤติกรรมการใช้งาน ดังนั้น เมื่อคุณใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ควรวางแผนการชาร์จไฟและหาจุดสถานีชาร์จที่สอดคล้องกับการเดินทางในแต่ละครั้งเตรียมไว้จะดีที่สุด สำหรับการเลือกเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน ควรคำนึงถึงกำลังไฟฟ้าที่รถยนต์ไฟฟ้าของเรารับได้ และระบบไฟฟ้าของบ้านเราว่าเป็นแบบใด หากเลือกให้สอดคล้องกันได้ทั้งหมด ก็จะทำให้เราใช้เงินได้อย่างคุ้มค่า และใช้งานเครื่องชาร์จได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ
ความคิดเห็น