อัลเลนพาร์ค รัฐมิชิแกน สมาชิกส่วนหนึ่งรวมตัวกันเพื่อทำภาระกิจใหม่ ปรับรถยนต์สมรรถนะสูง Ford Mustang GTD รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น เพื่อเป็นที่สุดของรถสปอร์ตโซนยุโรป
Ford Mustang GTD ลิมิเต็ดเอดิชั่นพร้อมจิตวิญญาณของมัสแตง
มาแล้วสำหรับ Ford Mustang GTD ปี 2025 ใหม่เอี่ยม ด้วยเทคโนโลยี Tour de Force ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Mustang GT3 ซึ่งมีกำหนด ลงแข่งที่ Le Mans ในปี 2024 มองภาพรวมๆ ด้วยสมรรถนะที่ไม่น่าเชื่อ ตัวถังกว้างขวางทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ มีปีหลังโผล่ออกมา ดูยังไงก็ไม่เหมือนมัสแตงเลย
"Ford Mustang GTD ทำลายทุกแนวคิดเกี่ยวกับซุปเปอร์คาร์” Jim Farley ประธานและ CEO ของ Ford กล่าว "นี่ถือเป็นแนวทางใหม่สำหรับเรา เราไม่ได้ออกแบบรถสำหรับวิ่งบนถนน แต่เรากำลังสร้างรถแข่งที่วิ่งในสนามและปล่อยออกมาโลดแล่นบนถนน" Mustang GTD ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับ Mustang GT3 ที่หุ้มด้วยตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์เกือบทั้งคัน ทุกชิ้นส่วนออกแบบอย่างมีจุดมุ่งหมาย ขับเคลื่อนด้วยฟังก์ชันแบบ High Texhnology ทั้งหมดได้รับการพัฒนาโดยทีมที่อยู่เบื้องหลังรถแข่ง Mustang ของ Ford และ GT ที่ชนะการแข่งขัน Le Mans ให้กลายเป็นมัสแตงที่วิ่งได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สมรรถนะและหัวใจของการออกแบบ
ด้วยการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์แบบแอคทีฟ สร้างการยึดเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงระบบกันสะเทือนด้านหน้าและด้านหลังแบบมัลติลิงค์ สั่งหยุดได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเบรกคาร์บอนเซรามิก มีเพลาส่งกำลังแบบคลัตช์คู่ 8 สปีด ดตั้งบริเวณด้านหลัง และเพลาขับคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาเพื่อการกระจายน้ำหนักเกือบ 50/50 ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.2 ลิตร ซูเปอร์ชาร์จเสียงไพเราะมาพร้อมกับแรงม้า 800 ตัว
“เราหมกมุ่นอยู่กับเทคโนโลยีใต้ตัวถังของมัน และอะไรที่จะเป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดคุณเมื่อมันขับแซงหน้า" Mark Rushbrook ผู้อำนวยการระดับโลกของ Ford Performance Motorsports กล่าว “และเมื่อคุณมองไปยังหลักวิศวกรรม อากาศพลศาสตร์ รวมถึงวิธีการทำงานของระบบส่งกำลัง Mustang GTD คือจรวดดีๆนี่เอง"
การออกแบบได้ความร่วมมือ ระหว่าง Ford และ Multimatic ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Mustang GT3, Mustang GT4 และ Ford GT ที่ได้รับรางวัล Le Mans Mustang GTD แสดงถึงสุดยอดของทศวรรษแห่งความก้าวหน้าทางวิศวกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องผ่านการแข่งรถ สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจและแม่นยำ ถูกกำหนดให้กลายเป็นส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ของมัสแตงและฟอร์ด
การใช้ประโยชน์จากอากาศ
จุดประสงค์อย่างแท้จริงของการออกแบบ Ford Mustang GTD ทุกไลน์ขับเคลื่อนสมรรถนะตามหลักอากาศพลศาสตร์ ตั้งแต่สปลิตเตอร์หน้า ฝากระโปรงหน้าและบังโคลน ไปจนถึงปีกหลังแบบแอคทีฟควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิกที่ติดตั้งเสา C มีการใช้ประโยชน์จากแผงตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนัก ลดจุดศูนย์ถ่วง และปรับปรุงการตอบสนอง บังโคลน ฝากระโปรง ฝาครอบที่ใช้แทนฝากระโปรงหลัง กาบประตู สปลิตเตอร์หน้า ดิฟฟิวเซอร์หลัง และหลังคาล้วนเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ โดยมีแผงหน้าปัดคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นอุปกรณ์เสริม
ในครั้งหนึ่งเคยมีฝากระโปรงหลัง แต่ปัจจุบันกลายเป็นระบบกันสะเทือนแบบกึ่งแอ็คทีฟ ระบบควบคุมไฮดรอลิก และระบบระบายความร้อนเพลาส่งกำลังที่ใช้ฝาครอบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันเข้ามาแทนที่ มีที่ตักลม 2 อันเพื่อไล่อากาศจากกระจกด้านหลังเข้าสู่พื้นที่ผ่านเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน
การผสมผสานคุณสมบัติแอโรไดนามิกที่ได้รับการออกแบบอย่างพิเศษ ส่งผลให้เกิดแรงกดขนาดใหญ่ที่สมดุลทั้งเพลาหน้าและเพลาหลัง ทำให้สามารถเร่งความเร็วได้เพิ่มขึ้น เกิดการควบคุมที่สม่ำเสมอ ทำเวลาต่อรอบในสนามแข่งที่โหดที่สุดในโลก
เทคโนโลยีและการปรับปรุงเพิ่มเติมอันเหนือชั้น
ระบบกันสะเทือนแบบกึ่งแอคทีฟที่ล้ำสมัยซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงทั้งอัตราสปริงและความสูงของการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีแดมเปอร์วาล์วสปูลแบบปรับได้ มาพร้อมอัตราสปริงคู่และความสูงของระบบกันสะเทือนที่ทำงานด้วยระบบไฮดรอลิก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพบนถนนและบนสนามแข่งอย่างเป็นอิสระ การตั้งค่าระบบกันสะเทือนช่วยให้ความสูงในการขับขี่ลดลงเกือบ 40 มม. ในโหมดแทร็ก และโดยรวมแล้วมีแทร็กที่กว้างกว่ามัสแตง GT เกือบสี่นิ้ว
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบสั้นช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งด้านข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเข้าโค้งแบบ High-G ระบบกันสะเทือนด้านหลังมีสถาปัตยกรรมแบบเชื่อมต่อกัน โดยโช้คอัพ Adaptive Spool Valve และคอยล์โอเวอร์สปริงที่จัดเรียงไว้ในรูปแบบกากบาทแนวนอน ผสานเข้ากับซับเฟรมแบบท่อสไตล์มอเตอร์สปอร์ตที่แข็งแกร่ง และประหยัดน้ำหนัก ดังนั้นรถจึงตอบสนองต่อสภาพสนามแข่งได้อย่างแม่นยำ
การยึดเกาะถนนและความเสถียรในการเข้าโค้งของ Mustang มาจากยางหน้ากว้าง 325 มิลลิเมตร กว้างพอๆ กับยางหลังของ Ford GT ในขณะที่ยางหลังหน้ากว้างอยู่ที่ 345 มิลลิเมตร ติดตั้งบนล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้ว เป็นล้อแมกนีเซียมที่ผสมผสานน้ำหนักและความทนทานได้อย่างลงตัว ซึ่งออกแบบมาให้คล้ายกับรถแข่ง Mustang GT3
Ford Mustang GTD เปิดโลกอนาคตของเทคโนโลยียานยนต์ ในการใช้สถาปัตยกรรมไฟฟ้าขั้นสูงเจนเนอเรชั่นที่ 7 ใหม่ ช่วยให้การเชื่อมต่อราบรื่น มีโหมดการขับขี่เฉพาะบุคคลมากมาย และการอัพเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-The-Air
การตกแต่งภายในห้องโดยสาร
ตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังกลับ Miko ที่จับคู่กับหนังและคาร์บอนไฟเบอร์ จอแสดงผลดิจิตอลช่วยให้ผู้ขับขี่มีส่วนร่วมและควบคุมได้อย่างเต็มที่ เบาะนั่ง RECARO® ที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละวันได้ เสริมด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ไทเทเนียมที่พิมพ์แบบ 3 มิติ คันเกียร์เป็นแบบหมุน
Ford Mustang GTD มีให้เลือกหลากหลายสีภายในห้องโดยสาร ยกระดับรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน สามารถเลือกแพ็คเกจได้ทุกสีแม้กระทั่งสีที่เข้ากันทั้งภายในและภายนอก เพื่อเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครโดยสิ้นเชิง
มรดกตกทอดและชัยชนะใน Le Mans
แน่นอนว่า Ford Mustang GTD ซึ่ง ถือกำเนิดจากแนวคิดของรถแข่ง Mustang GT3 ที่จะกลับมาที่ Le Mans ในปี 2024 อย่างแน่นอน และถือเป็นจุดสูงสุดของตระกูล Mustang รวมถึง Mustang GT4 ที่เพิ่งเปิดตัว, Mustang GT3 และ Mustang Dark Horse R Spec Racer ที่กำลังจะมาถึงอีกมากมาย ที่จะเข้ามาสานต่อจุดยืนของ Mustang ในฐานะนักแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ Ford
Ford Mustang GTD คาดว่าราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10,500,000 บาท โดยจะเริ่มประกอบจริงที่โรงงาน Ford Flat Rock จากนั้นจะขนส่งไปยังโรงงาน Multimatic ในเมือง Markham ประเทศแคนาดา ซึ่งจะถูกผลิตขึ้นด้วยมือเพื่อความแม่นยำอีกครั้ง โดยทีมงาน Ford Performance และ Multimatic Mustang GTD พร้อมวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2024 ถึงต้นปี 2025
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ความคิดเห็น