รถยนต์รุ่นที่เก่าแก่ที่สุดของ Alfa Romeo ฟื้นคืนชีพอีกครั้งกับ Alfa Romeo 33 Stradale ใหม่!! ในรูปแบบของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เตรียมพร้อมรับตำแหน่งรถยนต์ซูเปอร์คาร์อันงดงาม
การกลับมาของซูเปอร์คาร์ที่ยิ่งใหญ่ในอดีต Alfa Romeo 33 Stradale ในรูปแบบของ EV
ได้รับการยกย่องจากหลายๆ คนว่าเป็น "The Most Beautiful Cars" รถยนต์ที่สวยที่สุดตลอดการสำหรับ Alfa Romeo Tipo 33 โดยเป็นแรงบันดาลใจให้กับซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งก็คือ Alfa Romeo 33 Stradale ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสได้ถึงสมรรถนะของรถแข่งบนท้องถนน โดยที่มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ V6 และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 206 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 333 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยที่จาก 0-100 ใช้เวลาน้อยกว่า 3 วินาที ตามที่ทาง Alfa Romeo เครมไว้ ผลิตกำลังได้ 750 แรงม้า (559 kW/760 PS) ทำงานควบคู่กับระบบเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีด และเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับในรุ่นไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ไกล 280 ไมล์ หรือประมาณ 450 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
การออกแบบและเทคโนโลยี
Alfa Romeo 33 Stradale ปี 2024 มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบคู่ ที่สามารถยกส่วนหน้าขึ้นในขณะทำความเร็วเพื่อเร่งแซง โดยที่ติดตั้งที่บริเวณโครงรูปตัว H และโครงโมโนค็อกคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง ด้านบนหลังคาทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียม ช่วยรองรับน้ำหนักของประตูปีกผีเสื้อ (Classic Butterfly Doors)
นอกจากนี้กรอบหน้าต่างก็ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นเดียวกัน สำหรับแผงตัวถังทำจากโพลีคาร์บอเนตเช่นเดียวกับในรุ่น Alfa Romeo Tipo 33 แต่จะดู Modern และมีความเป็นรถยนต์ Motorsports อย่างแท้จริง และได้รับการพัฒนาที่ Balocco Proving Grounds ของ Alfa Romeo ในอิตาลี โดยได้รับความช่วยเหลือจากทีมงานนักแข่ง F1 Valtteri Bottas
ในส่วนของโหมดการขับขี่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งาน Alfa Romeo 33 Stradale บนท้องถนนได้อย่างสะดวกสบายและราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างแรกคือช่วยทำให้ท่อไอเสียเงียบเวลาขับในเมือง เว้นแต่คุณทำรอบเกิน 5,000 RPM และสำหรับโหมด Pista (Track) วาล์วไอเสียจะเปิดกว้างเพื่อคนขับจะได้ฟังสุนทรียภาพจากเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แป้นเหยียบจะมีความไวมากขึ้น รวมถึงระบบกันสะเทือนจะเน้นไปทีการควบคุมมากกว่าในโหมดของความสะดวกสบาย การปรับปรุงรูปลักษณ์ตัวถังให้ทันสมัยช่วยให้บรรลุค่าสัมประสิทธิ์ที่ 0.375 ทำให้มีแรงกดลง โดยที่ไม่ต้องใช้แอโรไดนามิกแบบแอคทีฟ
ระบบเบรกโหดที่สุด
มีระบบเบรกที่โหดที่สุดจาก Brembo ที่สามารถรับความเร็วจาก 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนถึงหยุดได้ในระยะเพียง 108 ฟุต หรือประมาณ 33 เมตร มีระบบควบคุมการออกตัวที่สามารถทำได้ผ่านปุ่ม Quadrifoglio ซึ่งอยู่บริเวณคอนโซลกลางจะไม่เหมือนกับรถยนต์สมัยใหม่ส่วนใหญ่ที่วางปุ่ม Quadrifoglio หรือปุ่มอื่นๆ บนพวงมาลัย เพราะ Alfa Romeo ติดสินใจไม่วางปุ่มอะไรนอกจากให้ผู้ขับขี่บังคับพวงมาลัยที่สะอาดและเรียบง่าย
ภายในห้องโดยสาร
หากคุณต้องการหาปุ่มสำหรับการสั่งการอื่นๆ สามารถพบได้ที่บริเวณคอนโซลกลาง การตกแต่งไม่ว่าจะเป็นคอนโซลกลางหรือแผงหน้าปัด ทำจากอะลูมิเนียม, คาร์บอน และหนัง ตกแต่งทั่วห้องโดยสาร โดยได้รับแรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมการบิน หลังคาทำจาก Alcántara เพิ่มความดุดันแต่ยังคงความรู้สึกหรูหรา
Alfa Romeo 33 Stradale เพียง 33 คันทั่วโลก
Alfa Romeo 33 Stradale ผลิตและจำหน่ายในจำนวนจำกัด เพียง 33 คันทั่วโลกเท่านั้น มีให้เลือกทั้งแบบ Tributo และ Alfa Corse แต่บอกก่อนเลยว่ามีคนจองไว้แทบจะทั้งหมดแล้ว และทาง Alfa Romeo แจ้งถึงการวางจำหน่าย Alfa Romeo 33 Stradale ขยายออกไปนอกยุโรปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาเหนือและภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งการผลิตแต่ละชิ้นส่วนเกิดขึ้นโดย Carrozzeria Touring Superleggera คาดว่าจะมีราคาประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 35 ล้านบาท
บทความที่น่าสนใจ
-
Mercedes-Benz E-Class All-Terrain สเตชั่นแวกอนรุ่นใหม่มาถึงแล้ว!!
-
Audi Activesphere Concept รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แปลงร่างเป็นรถบรรทุกได้ด้วยปุ่มเดียว!!
-
Peugeot ยืนยันแล้ว E 3008 เปิดตัวแน่ 12 กันยายนนี้!!
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ความคิดเห็น