ALL New HONDA ACCORD 2023-2024 ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอซอิวี ใหม่ สปอร์ตพรีเมียมแฟลกซิปซีดาน มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด
New HONDA ACCORD 2023-2024
ฮอนด้า แอคคอร์ด นับเป็นรถยนต์ที่สำคัญรุ่นหนึ่งของฮอนด้าที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน การพัฒนา แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรซันที่ 11 มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยสิ่งอำนวยความสะดวกนล้ำสมัย และเทคในโลยีเพื่อความปลอดภัย
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ พัฒนาให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นจัดจำหน่าย เครื่องยนต์เดียว e:HEV ไฮบริด
- ครั้งแรกกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ทุกรุ่นย่อย ให้การตอบสนองที่ทันใจและทรงพลังด้วย
- การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวในระบบเกียร์ E-CVT ที่มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Alkinson-Cycle DOHC มอบพลังการขับเคลื่อนที่ไร้กังวลในทุกเส้นทาง โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการชับขี่ได้อย่างชาญจลาด และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร และมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย
- อีกทั้งสามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า กับสวิตซ์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ได้รับการพัฒนโดยเพิ่ม Charge Modeเข้ามาเป็นครั้งแรกในแอคคอร์ด
เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีการ ขับขี่- ที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกของรถยนต์ฮอนต้า ใน แอคคอร์ด อี:เอซอีวี ใหม่ อาทิ ปุ๊ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้ดั่งใจ Google buil-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google ไฟสร้าง บรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง
ระบบแสดงข้อมูลบนกระจก หน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
• ครั้งแรกในโลกกับรุ่น HEV RS ความสปอร์ตพรีเมียมอีกชั้นในดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน มาพร้อมหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลัง แบบ LED Sequential และ ใหม่ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key Systein) พร้อม Honda Smart Key Card เป็นต้น
• พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่น ๆ ที่ครบครัน อาทิ ถุงลม 3 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (ACL) เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง เป็นต้น
ภายนอก ALL NEW HONDA ACCORD 2023 เจเนอเรชันที่ 11
- กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตใหม่ โดดเด่นด้วยแพตเทิร์นที่มีมิติ สะกดทุกสายตา
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
- ไฟส่องสว่างส่าหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
- กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (รุ่น HEV EL และ CHEV RS)
- ระบบเปิด - ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- เสาอากาศครีบฉลาม
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีเงิน (รุ่น HIEVE) และขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำ (รุ่น 6.HEV EL)
ภายใน ALL NEW HONDA ACCORD 2023 เจเนอเรชันที่ 11
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย โดยได้รับการออกแบบเพื่อมอบทัศนวิสัยที่ดี โดยเน้นการส่งมอบ คุณภาพระดับพรีเมี่ยมภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ Comfort ที่เน้นให้ทุกองค์ประกอบเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียว อย่างลงตัว เช่น แผงด้านหน้าและแผงประตู ที่เชื่อมต่อกันในแนวนอน Intelligence หรือการจัดวางฟังก์ชันการใช้ งานที่ยืดหยุ่น สะดวกสบาย เช่น การจัดการข้อมูลบนหน้าจอ Display Audio ที่มีขนาดใหญ่ให้อยู่ตรงกลาง และ Advance ความเรียบหรูล้ำสมัย เช่น การออกแบบบริเวณแผงคอนโซลกลาง หรือที่วางแขน ให้สะท้อนภาพลักษณ์ ที่มีระดับของรถ
ผสานด้วยการใช้ mening ที่ให้ความหรูหรา ประณีต เสริมด้วยการใช้วัสดุนุ่มในจุดที่มีการ สัมผัสบ่อย มอบความสะดวกสบายและผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร อีกทั้งโดดเด่นด้วยพื้นที่ช่วงขาและช่วงเข่า และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน
- ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า กับปุ่ม Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ ระบบ เอง และไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ จะแสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอ สัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่าง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จํานวนสูงสุดถึง 8 ผู้ใช้งาน
- ใหม่ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light)
ที่ได้รับ การติดตั้งใน ฮอนด้า แอคคอร์ด อีเอชอีวี ใหม่ เป็นครั้งแรก (รุ่น eHHEV EL และ 8.HEV RS) โดย สามารถเลือกโหมดการเปลี่ยนสีของไทได้ ดังนี้
- โหมด Recommended Color ไฟจะสามารถปรับเปลี่ยนสีได้โดยอัตโนมัติตามชุดสีที่เลือก อยู่กับสถานการณ์
- โหมด Theme Color ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับไฟสีที่ต้องการได้ โดยมีสีให้เลือก 10 เฉดสี
• ใหม่ ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย
ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e.HEV EL และ อ.HEV RS) - เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับค้นหลัง 4 ทิศทาง
• ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ
ACCORD
• ใหม่ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า (รุ่น WHEV EL และ CHEV RS), ใหม่ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Koy System) พร้อม Honda Smart Key Card
(fe:HEV RS)
• ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (รุ่น HEV EL และ e: HEV RS)
• ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
ครั้งแรกในโลกกับรุ่น HEV RS ยกระดับความสปอร์ตหรูหราอีกชั้น
- ใหม่ หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา เปิดมุมมองที่กว้างขวาง ยกระดับสุนทรียภาพในการเดินทาง
- ใหม่ ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential
- ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ สีดำแบบสปอร์ต
- ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน เสริมความ Contrast และพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น
- เสาอากาศครีบฉลามสีดำแบบสปอร์ต
- สปอยเลอร์หลังสีดำแบบสปอร์ต
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เสริมความสปอร์ตหรูด้วยสีดำแบบแมตต์
- ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black
เครื่องยนต์ ไฮบริดในทุกรุ่น e:HEV
• ให้การตอบสนองทันใจและทรงพลัง ด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT ได้แก่ มอเตอร์ที่ท่าหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Cenerator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ ดั่งใจมอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่เยี่ยมถึง 35 กม./ลิตร ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตรา เคลื่อน (Motor Drive) มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว โดยระบบจะมอบสมดุลระหว่างสมรรถนะการซับขี่ที่ทรงพลัง แรงตอบสนองการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร
• ระบบขับเคลื่อนฟู ไฮบริด (HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับ ทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด (Intelligent Multi-mode drive) ประกอบไปด้วยการ ทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybird Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) นอกจากนี้ ในขณะลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการลด ความเร็วนั้นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ (Regeneration)
สวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode
นอกจากนี้ แอคคอร์ด อี เอชอีวี ใหม่ ยังมาพร้อมสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือก โหมดการขับขี่ได้ตามสไตล์ เพียงกดปุ่มที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ ได้แก่ ใหม่ โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ระบบ Adaptive cruise control และสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระ อีกทั้งโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และ โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)
Honda SENSING พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ในทุกรุ่นย่อย โดยมีฟังก์ชัน การทำงาน
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดิม are keeping Assist System: LKAS
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation Systemwith Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าทิ่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) โดยระบบยัง สามารถปรับลักษณะการเร่งความเร็วได้ตามโหมด ACC ที่เลือก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกใน แอคคอร์ด ใหม่
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
- ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ต กับ ระบบเทียน รถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car DepartureNotification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่
- สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ช่วย ให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า โดยมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรก ใน แอคคอร์ด ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน โดยการวิ่ง 1 นาทีที่ความเร็ว 100 กม./ชม. จะสามารถชาร์จไฟเพิ่ม เพื่อสามารถขับเคลื่อนด้วยระบบ EV เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มแรงขับเคลื่อนของ EV ในช่วงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ซึ่งเหมาะแก่การวิ่งในย่านชุมชน เพื่อยึดระยะของการวิ่งด้วย EV ให้ยาวนานขึ้น
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (รุ่น 6.HEV EL, และ HEV RS)
- ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Comering Light ACL) (เฉพาะรุ่น 6.HEV RS)
- ใหม่ ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)
- ถุงลม 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และ ใหม่ ถุงลมหัวเข่า คู่หน้า
- เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น HEV EL และ e.HEV RS)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
- ใหม่ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และ ใหม่
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง
- ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) และ ใหม่ รุ่น e HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
เทคโนโลยี เชื่อมต่อ รองรับสมาร์คไลฟ์ไตล์ ผสานผู้ใช้งานกับรถได้อย่างลงตัว
- ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ที่มาพร้อม Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google ได้แก่ Google Assistant, Google Maps และ Google Play
- ใหม่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ AppleCarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 11.5 นิ้ว (รุ่น 6-HEV EL และe:HEV RS)
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ซึ่งเป็นจอแบบ Full Graphic LCD ที่สามารถแสดงผลทั้งการทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ข้อมูล การขับขี่ และข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถ ในรูปแบบของกราฟิกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลการ ทำงานของ Maps ได้เต็มหน้าจออีกด้วย ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย แม้จะมีการทำงานของระบบ แสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ก็ไม่รบกวนการนำทางบนหน้าจอ
- ใหม่ ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่
- ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า กับฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ Over-The-Air (OTA) ช่วยให้ ผู้ใช้รถไม่เพียงสามารถอัปเดตระบบ Infotainment แต่ยังสามารถอัปเดตการทำงานของ ECU จากทางไกลได้ ผ่านทางระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และผ่านทางแอปพลิเคชัน ในสมาร์ตโฟน เพิ่มความสะดวกสบายโดยที่ไม่ต้องเข้าไปยังศูนย์บริการ
- ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ที่ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Key โดย ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และ รถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงานที่จะช่วยอำนวย ความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ได้แก่
1. My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเทียนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
2. Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และ บันทึกการเดินทาง ที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟชบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น
3. Wi-Fi สามารถเชื่ยมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุด ถึง 5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ด้วยการช่วยเหลือจากฟีเจอร์ Google built-n (Google Assistant, Google Maps และ Google Play)
4. Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยัง เบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการ ประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
5. Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือน สัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และ ฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
6. Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อก และปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ต เครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และสั่งการดับเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย และ ใหม่ สามารถสั่งการเปิดเสียง แตรรถยนต์ โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัว ทุกครั้งก่อนการใช้งาน
7. Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนด และ สามารถตั้งการแจ้งเตือนความเร็ว 8. Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผล บนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
8. Find MY Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก ก่อนใช้งาน
9. ใหม่ Light Collision Notification การแจ้งเตือนการชนเบา/ไม่รุนแรง ช่วยแจ้งเตือนและให้ความ ช่วยเหลือ ผู่ขับขี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
10. ใหม่ Havention Dots Wipe การล้างข้อมูลการนำทาง โดยสามารถล้างข้อมูลส่วนตัวที่ถูกบันทึก ไว้ในรถ เช่น ข้อมูลเสียง ข้อมูลระบบนำทาง หรือ วีเซ็ตการตั้งค่าให้กลับไปเป็นค่าเงินต้นจากโรงงาน
11. ใหม่ Recal reloation การแจ้งเตือนและเรียกคืนผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาคุณภาพจากค้า
12 ใหม่ Remote Immobilizer ระบบกุญแจนิรภัย IMMOBILIZER พร้อมสัญญาณกันขโมย ช่วย ป้องกันรถถูกโจรกรรม และในกรณีรถถูกโจรกรรม สามารถระงับการสตาร์ดเครื่องยนต์และการเคลื่อนที่ของรถผ่านทางแอปพลิเคชันได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
13. ใหม่ Digital Key กุญแจอัจฉริยะ ช่วยอำนวยความสะดวกให้สามารถสั่งการต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเค ขัน Honda CONNECT บนสมาร์ตโฟนได้ เช่น ใช้สมาร์ตโฟนเป็นเสมือนกุญแจรถ โดยลูกค้าสามารถ สั่งงานปลดล็อกประตูหรือสตาร์ทเครื่องยนต์ผ่านฟีเจอร์นี้ได้ แจ้งเตือนลูกค้าในกรณีลืมล็อกประตูและ กำลังเดินออกห่างจากตัวรถ เป็นต้น
รุ่นที่มีจัดจำหน่าย
ฮอนด้า แอคคอร์ด พีเอชทีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น e:HEV RS
- รุ่น e:HEV EL
- รุ่น e:HEV E
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่
- สีขาวแพลนัม (มุก)
- สีเงินยูนาร์ (เมทัลลิก)
- สีเทาเมทิเลยรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีดำคริสตัล (มุก)
พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น EVPS)
บทความที่น่าสนใจ
-
Ferrari 500 Mondial Spider Series I จากปี 1954 ที่มีมูลค่า 68 ล้านบาท
-
Isuzu D-MAX MAGIC Eyes 2023 ปลอดภัยขึ้น สบายขึ้น ประหยัดเหมือนเดิม
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น