BYD Seal vs Tesla Model 3 เลือกคันไหนดี? Share this

BYD Seal vs Tesla Model 3 เลือกคันไหนดี?

Paknam536
โดย Paknam536
โพสต์เมื่อ 28 September 2566

เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยกับ BYD Seal รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ซีดานระดับพรีเมี่ยม กับราคาเริ่มต้น 1.325 ล้านบาท และรุ่นท็อปสุดที่ 1.69 ล้านบาท ซึ่งราคาจำหน่ายเทียบเท่ากับ Tesla Model 3 RWD มาดูกันว่าหากต้องเลือกสักคัน เอาคันไหนดี?


BYD Seal vs Tesla Model 3

BYD Seal ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบรถยนต์ซีดานสุดพรีเมี่ยมจาก BYD ผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 จากประเทศจีน โดยรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ถูกสร้างขึ้นมาแบบท้าชนกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกอย่าง Tesla รุ่น Model 3 แบบตรงๆ ด้วยขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า ออปชั่นที่เหนือกว่า ในราคาที่อยู่บนทางแยกระหว่างจะเอา BYD หรือ Tesla ?

BYD Seal ถูกสร้างบนพื้นฐาน e-Platform 3.0 เฉกเช่นเดียวกับ BYD Dolphin และ BYD ATTO 3 รุ่นที่จัดจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย ณ​ ขณะนี้ โดยชุดแบตเตอรี่ของรถติดตั้งด้วยเทคโนโลยี CTB หรือ Cell To Body หรือจะว่ากันแบบภาษาเข้าใจง่ายๆ ก็คือการใช้แพ็กแบตเตอรี่เป็นส่วนหนึ่งของตัวถังรถยนต์

 

Tesla Model 3

Tesla Model 3 2022 รถยนต์นั่งแบบซีดาน รุ่นรองลงมาจากรุ่นพี่อย่าง Tesla Model S โดยเจ้า Model 3 โดดเด่นด้วยความเป็นรถยนต์นั่งตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู ที่มีขนาดกระทัดรัดมากกว่ารุ่นพี่ แม้ว่าตัวรถจะมีขนาดกระทัดรัด แต่ออปชั่นต่างๆ นั้นจัดมาให้แบบครบครัน

โครงสร้างตัวถังของ Tesla Model 3 เน้นหนักไปที่ความปลอดภัยเป็นหลัก มันถูกออกแบบให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถกระจายแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม การันตีความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากสถาบันทดสอบความปลอดภัยอันเกิดจากการชนแทบทุกสำนัก ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานยุโรป หรือมาตรฐานสหรัฐอเมริกา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเคี่ยว Tesla Model 3 ก็สอบผ่านระดับ 5 ดาวทั้งหมด

 

 

ภายในห้องโดยสารของ Tesla Model 3

 

ภายในห้องโดยสารของ BYD Seal Performance

 

 

เปรียบเทียบสเปค Seal vs Model 3

  BYD Seal Performance Tesla Model 3 Standard Range
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 มอเตอร์ 390 kW 1 มอเตอร์ 208 kW
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ล้อหลัง
พละกำลังสูงสุด (แรงม้า) 523 283
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร)

640

420
ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.) 190 225
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.8 วินาที 6.1 วินาที
ประเภทแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน Blade Battery LFP ลิเธียมไอออน LFP
พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh) 82.56 57.5
แรงดันไฟฟ้า (V) 400 400
รองรับการชาร์จ AC (kW) 7 7
รองรับการชาร์จ DC (kW) 150 170
ระยะทางวิ่งสูงสุด NEDC 580 559
ราคา (บาท) 1,599,900 1,659,000 (โฉมเก่า)

เริ่มต้นจากเรื่องสเปคระบบขับเคลื่อนของตัวรถ ฝั่ง BYD Seal Performance ให้สเปคมาได้น่าสนใจกว่าอย่างชัดเจน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอบพละกำลังสูงสุดถึง 523 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 3.8 วินาทีเท่านั้น

ขนาดแบตเตอรี่ ให้มาใหญ่กว่า Tesla Model 3 Standard Range เป็นอย่างมาก โดยให้มามากกว่าถึง 25.06 kWh เลยทีเดียว เรียกได้ว่าส่วนต่างขนาดแบตเตอรี่ พอๆ กับขนาดแบตที่ใส่ในรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กๆ คันนึงเลยทีเดียว ซึ่งส่งผลต่อระยะทางขับขี่ต่อ 1 การชาร์จด้วย โดยฝั่ง Seal จะทำระยะทางขับขี่ได้ไกลกว่าราวๆ 20 กิโลเมตร ต่อ 1 ชาร์จ

ส่วนฝั่ง Tesla Model 3 Standard Range แม้ว่าจะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง มีขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กกว่าค่อนข้างมาก ทว่าระยะทางขับขี่ทำได้น้อยกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อันเนื่องมาจากอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ Tesla ทำได้ต่ำกว่านั่นเอง

ส่วนด้านพละกำลัง แม้ว่า 0-100 กม./ชม. ของ BYD Seal จะแรงกว่ามหาศาล แต่ถ้าเอาความเร็วสูงสุดแล้ว Tesla Model 3 ทำได้เร็วกว่าค่อนข้างมากเลยทีเดียว

 

 

ตัวรถ

  BYD Seal Performance Tesla Model 3 Standard Range
ขนาดตัวรถภายนอก ยาว x กว้าง x สูง (มม.) 4,800×1,875×1,460 4,694 x 1,849 x 1,443
พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า พวงมาลัยไฟฟ้า
ระบบเบรก ดิสก์เบรก ดิสก์เบรก
ช่วงล่าง หน้า/หลัง แม็กเพอร์สัน, มัลติลิ้งค์ แม็กเพอร์สัน, มัลติลิ้งค์
ระยะฐานล้อ (มม.) 2,920 2,875
ระยะห่างจากพื้น (มม.) 120 140
ล้อและยาง 235/45 R19 235/45 R18
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) 2,185 1,752

 

 

 

 

 

 

 

 

 

มาดูกันต่อที่พิกัดตัวรถกันบ้าง ฝั่ง BYD Seal มีขนาดตัวรถใหญ่กว่า Tesla Model 3 ในทุกมิติ ทั้งขนาดตัวถังและระยะฐานล้อ โดยจุดเด่นที่สุดของ BYD Seal นั่นคือเรื่องของช่วงล่างที่ทำมาได้ดีกว่า Tesla Model 3 ในทุกย่านความเร็ว

ในความเร็วต่ำให้ความนุ่มนวลมากกว่า Tesla และในความเร็วให้ความมั่นคงที่ดีกว่า มอบความมั่นใจที่มากกว่า Tesla Model 3 ในทุกมิติ แม้จะใช้ความเร็วสูงสุดที่ 190 กม./ชม. ก็ยังให้ความรู้สึกมั่นใจมากกว่า Tesla Model 3 ในความเร็วเท่ากัน

แต่ถ้าพูดในเชิงใช้งานแล้ว BYD Seal ถือว่าทำช่วงล่าง และการควบคุมมาได้เหนือกว่า Tesla ในทุกมิติ

ทว่า จุดที่ Tesla ทำได้ดีมากกว่า BYD Seal นั่นคือเรื่องระบบช่วยเหลือการขับขี่อย่าง Autopilot ที่ยอมรับว่ามัน "ดีที่สุดแล้วในเวลานี้" เมื่อเปรียบเทียบกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ BYD Seal ต้องเรียนตามตรงว่า "ยังมีเรื่องต้องปรับปรุงอีกเยอะมาก" ทั้งเรื่องความนุ่มนวลในการควบคุมพวงมาลัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น รถตัดหน้า, สิ่งแปลกปลอมตัดหน้า, การแจ้งเตือนต่างๆ, การแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ที่ระบบคอมพิวเตอร์ต้องทำ ยังห่างชั้นจาก Tesla ค่อนข้างมาก

 

 

พื้นที่เก็บสัมภาระ

  BYD Seal Performance Tesla Model 3 Standard Range
ช่องเก็บของด้านหน้า (Frunk) 50 88
พื้นที่เก็บสัมภาระ (ลิตร) 400 649

 

 

 

ด้านพื้นที่เก็บสัมภาระ ต้องยกความดีความชอบให้กับ Tesla เป็นพิเศษ ด้วยขนาดตัวรถที่เล็กกว่า แต่กลับออกแบบพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากกว่า BYD Seal ทั้งที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า และที่เก็บของในฝากระโปรงท้ายรถ

 

 

เลือกคันไหนดี? ระหว่าง Seal vs Model 3

ในเมื่อราคาเท่ากัน แต่ต้องเลือกสักคันหนึ่ง จะเอาคันไหนดี? เมื่อเราเปรียบเทียบดูแล้วพบว่ารถทั้ง 2 คันนี้มีจุดเด่น จุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป หากชอบรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสดใหม่ มีขนาดใหญ่ เน้นการขับขี่แบบนุ่มนวล และมั่นคง ฝั่ง BYD Seal จะทำได้ดีกว่าเป็นอย่างยิ่ง

แต่ถ้าชอบรถยนต์ที่เน้นด้านนวัตกรรม เพียงแค่เอ่ยชื่อก็ร้องอ๋อว่าคืออะไร และชอบรถที่ระบบ Software ดี, ระบบช่วยขับดี Tesla คือคำตอบสำหรับท่าน แต่ต้องแลกกับโฉมหน้าที่เก่ากว่า ซึ่งใช้งานมาอย่างยาวนานมากแล้ว

สำหรับ Tesla Model 3 Refresh ยังไม่ได้เปิดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หากมีการเปิดจำหน่ายพร้อมการทดสอบแล้ว เราจะมาบอกเล่ากันอีกครั้งครับ

 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ