รีวิว TANK 500 Hybrid เอสยูวีสายออฟโรด ที่มาพร้อมออพชั่นแบบจัดเต็ม Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว TANK 500 Hybrid เอสยูวีสายออฟโรด ที่มาพร้อมออพชั่นแบบจัดเต็ม

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 15 September 2566

สิ้นสุดการรอคอยกับ Tank 500 Hybrid หลังจากโชว์ตัวเรียกน้ำย่อยมานานแรมปี คราวนี้ได้ฤกษ์เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว


รีวิว Tank 500 Hybrid

All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมียม สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ให้ความยืดหยุ่นสูง รองรับระบบกันสะเทือนที่หลากหลายและความสามารถในการขยายขนาดเพื่อผลิตรถในขนาดที่แตกต่างกัน นอกจากนี้แพลตฟอร์มดังกล่าว ยังสามารถรองรับระบบส่งกำลังได้ถึง 3 รูปแบบ คือ ICE, HEV และ PHEV รองรับได้ทั้งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ 3.0 ลิตร แต่สำหรับรุ่นที่เปิดตัวและขายในไทย จะใช้เป็นเครื่องยนต์ 2.0 Hybrid เบนซิน โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น 500 Hybrid Pro (รุ่นเริ่มต้น) และรุ่น 500 Hybrid Ultra (รุ่นท็อป) วันนี้ออโต้สปินน์ได้มีโอกาสขับทดสอบ เลยอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเล่าสู่กันฟังครับ

รับชมรีวิว TANK 500 Hybrid รูปแบบวีดีโอได้ที่นี่

มิติตัวถัง และน้ำหนักรถ TANK 500 Hybrid SUV

  • กว้าง 1,934 มม.
  • ยาว 5,078 มม.
  • สูง 1,905 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,850 มม.
  • ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 224 มม.
  • น้ำหนักรถ 2,600 กก.

รีวิว TANK 500 Hybrid SUV ดีไซน์ภายนอก

รีวิว Tank 500 Hybrid

ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่สีเงินโครเมี่ยม พร้อมช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK รับเข้ากับฝากระโปรงที่มีเส้นสายนูนขึ้น ช่วยเสริมให้ดูแข็งแกร่ง กล้องหน้าถูกติดตั้งที่กึ่งกลางกระจัง มีเซนเซอร์ด้านหน้า 6 จุด ที่ด้านบนของกระจกหน้าจะมีกล้อง ทำหน้าที่ในการตรวจจับเส้นเลนถนน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน คนเดินถนน แสงไฟ โดยจะทำงานให้กับระบบความปลอดภัยหลายระบบของรถคันนี้

รีวิว Tank 500 Hybrid

ในส่วนของไฟหน้าเป็นแบบ Intelligent LED ดีไซน์โดดเด่น พร้อมระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow me home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED

รีวิว Tank 500 Hybrid

บันไดข้างระบบไฟฟ้า โดยทุกครั้งที่เปิดประตูจะมีบันไดยื่นลงมา และเมื่อปิดประตูบันไดข้างก็จะพับเก็บเหมือนเดิม โดยระบบนี้สามารถเปิด-ปิด การทำงานได้ ด้วยการเข้าไปตั้งค่าที่หน้าจอกลางของรถ

รีวิว Tank 500 Hybrid

แร็คราวหลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลาม และสปอยเลอร์ท้าย ซึ่งช่วยในเรื่องแอร์โรไดนามิค

รีวิว Tank 500 Hybrid

หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ เปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

รีวิว Tank 500 Hybrid

ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20 ดิสก์เบรก 4 ล้อ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระดับเบิล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์

รีวิว Tank 500 Hybrid

ดีไซน์ด้านหลัง ออกแบบภายใต้แนวคิดออฟโรด ด้วยประตูท้ายแบบ horizontal พร้อมระบบดูดไฟฟ้า ช่วยผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย ยางอะไหล่ติดตั้งบนประตูท้าย พร้อมกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่บนฝาครอบยางอะไหล่

รีวิว Tank 500 Hybrid

ไฟท้าย Vertical LED ดีไซน์โดดเด่นในแนวตั้ง มีไฟเบรกดวงที่ 3 ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED และมีเซนเซอร์ด้านหลัง 6 จุด

รีวิว TANK 500 Hybrid SUV ดีไซน์ภายใน

รีวิว Tank 500 Hybrid

เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศและเบาะหนัง NAPPA เบาะฝั่งนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงจากรถ เบาะหน้าฝั่งซ้ายปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ

รีวิว Tank 500 Hybrid

พวงมาลัยปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มี Paddle Shift หลังพวงมาลัย และปุ่มมัลติฟังก์ชั่นสำหรับควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ นอกจากนี้ยังมีก้านสำหรับปรับตั้ง Adaptive Cruise Control

รีวิว Tank 500 Hybrid

หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งจะแสดงภาพเสมือนจริงของรถที่อยู่รอบข้างด้วย เช่น รถเก๋ง ,รถบรรทุก ,รถจักรยานยนต์ ถือว่าเป็นหน้าจอที่สวยงามและล้ำสมัยมากครับ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ Head Up Display สำหรับแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากเลนถนน แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถเข้าไปตั้งค่าปิดหน้าจอ HUD ได้

รีวิว Tank 500 Hybrid

รีวิว Tank 500 Hybrid

รีวิว Tank 500 Hybrid

หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัส ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับ Android Auto ,Apple CarPlay แบบไร้สาย ,MP5 , Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ พร้อมลำโพง Infinity จำนวน 12 ลำโพง ระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ และระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ

รีวิว Tank 500 Hybrid

เมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย หน้าจอจะตัดภาพเป็นกล้องหลัง พร้อมกล้องมุมมอง 360 องศา ความละเอียดคมชัด โดยจะแสดงภาพรถเราเป็นรูปรถจำลอง ส่วนแวดล้อมภายนอกจะเป็นภาพจริง สามารถเลือกดูกล้องแต่ละมุมได้

รีวิว Tank 500 Hybrid

ไฟตกแต่งห้องโดยสาร พร้อมฟังก์ชันแบบหลายสี และเป็นจังหวะ ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร พร้อมนาฬิกาแบบคลาสสิก เพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสาร

รีวิว Tank 500 Hybrid

เกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรู สีเดียวกับแผงคอนโซล

รีวิว Tank 500 Hybrid

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5

รีวิว Tank 500 Hybrid

ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ใช้งานง่ายเพียงแค่เอาโทรศัพท์ไปวาง

รีวิว Tank 500 Hybrid

แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่ 11 โหมด ได้แก่ (ปกติ/ สปอร์ต/ ประหยัด/ อัตโนมัติ/ พื้นโคลน/ พื้นทราย/ พื้นหิน/ 4H/ พื้นหิมะ/ 4L/ โหมดที่ปรับแต่งได้เอง) และเพิ่มความสะดวกสบายด้วยปุ่มเบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง

รีวิว Tank 500 Hybrid

รีวิว Tank 500 Hybrid

เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 นั่งได้สบายมากครับ ตัวฟองน้ำนุ่มกำลังดี ฐานเบาะใหญ่นั่งแล้วเต็มก้น พนักพิงปรับองศาการเอนได้หลายระดับ รวมถึงตัวเบาะยังสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ และพับได้เรียบ มีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกเช่น เบาะระบายอากาศ ใช้งานง่ายผ่านจอควบคุมที่อยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ยังมีแอร์หลังที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ รวมถึงยังมีแอร์เพดานให้ ช่องต่อ USB-A ,USB-C ,ช่องจ่ายไฟ 12 V ,ที่วางแขนตรงกลางแบบพับเก็บได้ ม่านบังแดด

เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 3 พร้อมพนักพิงปรับไฟฟ้า สามารถพับได้เรียบ แต่การนั่งโดยสารเบาะแถว 3 ไม่ค่อยเหมาะกับผู้ใหญ่ หรือคนที่ขายาว เพราะฐานรองนั่งอยู่ต่ำ เหมือนนั่งกอดเข่า เหมะสำหรับเด็ก ๆ มากกว่า มีที่วางแขนด้านข้าง และแอร์เพดานให้

รีวิว Tank 500 Hybrid

โดยรวมของภายในถือว่ากว้างขวางเลยทีเดียวครับ เบาะแถวที่ 2 สามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 และเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับได้เรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่และความสะดวกในการจัดเก็บสัมภาระ (พื้นที่สัมภาระด้านท้ายสูงสุด 1,400 ลิตร เมื่อพับเบาะเรียบ)

ขุมพลังเครื่องยนต์ TANK 500 Hybrid SUV

รีวิว Tank 500 Hybrid

เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า แรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตัน-เมตร และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9HAT)

ระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรด

  • ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Electric Differential Lock for front and rear axles) 
  • ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) หลังจากเปิดฟังก์ชัน เมื่อระบบตรวจพบความตั้งใจในการบังคับเลี้ยวมากเกินไป ระบบจะส่งแรงเบรกไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว เพื่อช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในวงแคบได้ 
  • ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body transparent)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด(Off-road cruise control) ระบบจะช่วยควบคุมเครื่องยนต์และเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อขับเคลื่อนรถในความเร็วต่ำ ช่วยผู้ขับขี่ในการควบคุมรถบนเส้นทางออฟโรด

ฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions)

  • การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) มีความสามารถในการจดจำเสียงได้ โดยผู้ขับขี่สามารถสั่งการและโต้ตอบด้วยเสียงเพื่อใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ รวมไปถึงการเข้าถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ภายในรถ
  • GWM Application เป็นระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชันของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง ปิดซันรูฟ การควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์ และระบบตรวจสอบสถานะอื่น ๆ

ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย TANK 500 Hybrid SUV

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ(Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็ว ที่ช่วยควบคุมรถให้ติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเส้นบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ และช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถจากมุมบน ระบบทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยตรวจจับรถยนต์ทั้งทางตรงและทางแยก เมื่อเสี่ยงต่อการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA&RCTB) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉยไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว​ ในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสม​เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ใช้เบรกเพื่อช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะขับบนทางลาดชันเพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการบังคับพวงมาลัย
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) หลังจากจอดรถยนต์แล้ว ระบบจะแจ้งเตือนหากระบบตรวจพบเป้าหมายที่เสี่ยงต่อการชนหากเปิดประตูรถยนต์ 
  • ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง

ทดสอบขับขี่ TANK 500 Hybrid SUV

ตอนที่เห็นสเปคเครื่องยนต์ครั้งแรกยอมรับว่าตกใจ เพราะไม่คิดว่ารถคันใหญ่และหนักถึง 2.6 ตัน จะใช้เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 ลิตร แม้จะมีเทอร์โบและมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยผลิตพละกำลังก็เถอะ ซึ่งก็พอจะเดาออกตั้งแต่ยังไม่ได้ขับ ว่าเจ้าคันนี้ไม่ใช่รถแรงแน่นอน

หลังจากที่ได้ก้าวขึ้นมานั่งบนรถ ความประทับใจแรกคือตัวรถใหญ่มาก ภายในกว้างขวางการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ มันดูลงตัว หน้าจอเครื่องเล่นตรงกลางขนาดใหญ่สะใจ เบาะนุ่มนั่งสบายมีระบบนวดไฟฟ้า ทุกอย่างมันดูดีงามไปหมด พอสตาร์ทเครื่องยนต์เข้าเกียร์ D ช่วงที่ยกเท้าออกจากเบรก ตัวรถลื่นไหลได้ดีแบบไม่มีแรงหน่วงในช่วงออกตัว ซึ่งรถคันนี้ มีโหมดการขับขี่ถึง 11 โหมด รวมถึงมีรูปแบบการขับขี่แบบออฟโรดด้วย แต่การขับทดสอบครั้งนี้ ผมจะเน้นใช้งานในทางออนโรด 100 % เพราะมีเวลาในการทดสอบที่จำกัด เลยทดสอบขับขี่เพียงแค่ 4 โหมด ที่ส่วนใหญ่ได้ใช้บ่อย คือ โหมดประหยัด (ECO) ,โหมดมาตรฐาน (Normal) ,โหมดสปอร์ต (Sport) ,โหมดพื้นหิมะ (Snow)

จากการทดสอบแต่ละโหมด มีความแตกต่างดังนี้

โหมดประหยัด (ECO) คันเร่งจะรู้สึกหน่วงกว่าโหมดอื่น ๆ เพราะเน้นประหยัด ช่วงที่กดคันเร่งจะมีจังหวะหน่วงประมาณครึ่งวินาที จากนั้นความเร็วจะค่อย ๆ ไต่ระดับ หากใครเร่งรีบแล้วมาขับในโหมดนี้ น่าจะมีหงุดหงิดกันบ้าง

โหมดมาตรฐาน (Normal) คันเร่งไวกว่าโหมด Eco เป็นการขับแบบปกติทั่วไป คันเร่งตอบสนองดีขึ้นจากโหมด Eco ไม่มีอาการหน่วง คันเร่งติดเท้า สามารถขับไต่ระดับไปได้เรื่อย ๆ แต่ถ้ากดคันเร่งแบบคิกดาวน์ตั้งแต่ออกตัว จะรู้สึกอืด แนะนำว่าให้ไล่ระดับความเร็วไปเรื่อย ๆ จะดีกว่า

โหมดสปอร์ต (Sport) คันเร่งไว รอบจัดขึ้น เหยียบคันเร่งในน้ำหนักเท่ากันแต่รถจะพุ่งแรงกว่าโหมดอื่น ๆ เป็นโหมดที่ผมรู้สึกว่าดีที่สุดของการขับบนทางออนโรดของเจ้าคันนี้ คันเร่งตอบสนองไว ใช้น้ำหนักคันเร่งเท่ากันแต่รถดูมีเรี่ยวแรงขึ้นเยอะ แต่โหมดนี้ก็ต้องแลกกับการกินน้ำมันที่มากขึ้นด้วย

โหมดพื้นหิมะ (Snow) จะเหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนลื่น โดยระบบจะใช้เกียร์สูง เพื่อลดการฟรีของล้อ

การเก็บเสียง ผมว่าทำได้ดีเลยทีเดียว หากใช้ความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม. จะเก็บเสียงได้ดีมาก ทั้งเสียงที่มาจากพื้นถนน และเสียงลมภายนอก ให้ความรู้สึกเงียบเหมือนรถยุโรปเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณใช้ความเร็วเกิน 110 กม./ชม. เสียงลมภายนอกจะเริ่มเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยิน

ระบบช่วงล่าง เป็นอีกหนึ่งจุดของเจ้าคันนี้ที่ยังน่าเป็นห่วง เหมือนยังหาจุดลงตัวไม่ได้ ขับช้า ๆ ผ่านทางขรุขระนุ่มกำลังดี แต่พอใช้ความเร็วในทางโค้ง หรือเวลาที่ขับเปลี่ยนเลนเร็ว ๆ อาการเหวี่ยง โคลงเคลง โยน ย้วย มาครบเลย ซึ่งในจุดนี้ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะ GWM ยังมีเวลาในการแก้ไข กว่าจะถึงวันที่ส่งมอบรถให้กับลูกค้าน่าจะแก้จุดนี้จบเรียบร้อยแล้ว

แม้รถจะมีขนาดใหญ่ แต่การควบคุมทำได้ง่าย เพราะมีระบบช่วยเหลือ และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ เยอะมาก ทั้งเตือน ทั้งช่วยเบรก ช่วยจอดรถ เอาเป็นว่ามาครบทุกระบบ ซึ่งแต่ละระบบที่ได้ลองใช้งานก็ถือว่าเสถียรพอสมควรครับ แต่การเข้าไปตั้งค่าระบบต่าง ๆ ส่วนใหญ่มันจะไปรวมไว้อยู่ที่หน้าจอกลางของรถ ใช้งานแรก ๆ อาจมี งง แต่ถ้าใช้งานไปสักระยะจะเริ่มชินเองครับ หน้าจอใหญ่จิ้มง่าย

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เท่าที่ลองใช้แบบคร่าว ๆ จะอยู่ประมาณ 6-9 กม./ล.

ถ้าถามผมว่าคุ้มไหมกับออพชันที่ได้ ผมเองก็ยังไม่สามารถตอบได้ครับ เพราะทาง GWM ยังไม่เปิดราคาของรุ่นนี้ โดยจะเปิดราคาในวันที่ 28 กันยายน 2566 นี้ เรามาลุ้นราคาไปพร้อม ๆ กันครับ

TANK 500 Hybrid SUV มี 2 รุ่นย่อย

  • 2.0 Hybrid Pro
  • 2.0 Hybrid Ultra

TANK 500 Hybrid SUV มีให้เลือก 4 สี ได้แก่

  • สีดำ
  • สีขาว
  • สีเทา
  • สีเทา คริสตัล (สีใหม่ เฉพาะรุ่น Ultra)

สำหรับรถคันสีแดง ที่ผมนำมารีวิว ยังไม่มีจำหน่ายในตอนนี้นะครับ แต่ถ้าท่านใดสนใจสีแดง ก็คอมเมนต์บอกกันได้ครับ ถ้ามีคนสนใจเยอะ ทาง GWM จะทำออกมาจำหน่าย

TANK 500 Hybrid SUV ภายในมีให้เลือก 2 สี ได้แก่

  • สีดำ
  • สีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะสีเทาคริสตัลในรุ่น Ultra)

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ