ฟอร์ด คาดการณ์ตลาดรถยนต์ท้ายปีจะเติบโตตามซีซั่นนัล แม้ตลาดช่วง 8 เดือนหดตัว เหตุตัวเลือกรถอีวีบุกตลาดจำนวนมาก ส่วนปิกอัพยังได้รับผลกระทบจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์เติบโตเพิ่มเป็น 10.5-11% ไตรมาส 4 ปี 2566 หลังจัดแคมเปญดอกเบี้ย 0%
ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์เติบโตเพิ่มเป็น 10.5-11% ไตรมาส 4 ปี 2566
รัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์หดตัวจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ นักท่องเที่ยวยังมาไม่เต็มที่ ภาคผลิต ภาคเกษตรยังเติบโตไม่ค่อยดีนัก หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถปิดอัพในไทยจากเดิมที่มีสัดส่วนยอดขายรวมสูงถึง 42% ของตลาดก่อนหน้านี้ ปรับตัวลดลงเหลือเพียง 32% ทั้งนี้ เป็นเพราะรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่เข้าทำตลาดในไทยด้วย
ปี 2023 ปีแห่งการท้าทายตลาดรถปิกอัพ
ในปี 2566 ถือเป็นปีแห่งการท้าทาย ตลาดรถยนต์ 8 เดือนหดตัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการประเมินว่า ตลาดรถยนต์จะเติบโต ในส่วนของฟอร์ดเน้นรักษาโมเมนตัมเป็นอันดับ 3 ของเซกเมนต์ หรืออยู่ในอันดับ 4 ของตลาด มียอดขายรวม 25,838 คัน เติบโต 11% สวนทางตลาดกับตลาดที่หดตัว 6%
ยอดขายของรถยนต์ฟอร์ด ได้แก่
- ฟอร์ด เรนเจอร์ จำนวน 17,407 คัน (ส่วนแบ่งตลาด 9%)
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ จำนวน 8,420 (ส่วนแบ่ง 20%)
“รถอีวีจากจีนเข้ามาทำตลาดในไทยจำนวนมาก กระทบตลาดรถยนต์สันดาปในไทย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 น่าจะมีรถอีวีจีนทั้ง SUV และ B-SUV เข้ามาอีกจะกระทบเยอะ ตลาดปิกอัพในประเทศยังท้าทาย โดยเราจะมุ่งส่งออกโดยเฉพาะตลาดออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยังมีโอกาสที่ดี”
บทความที่น่าสนใจ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น