รถยนต์แต่ละรุ่นใช้น้ำมันที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับรถว่าเป็นประเภทไหน ซึ่งในปัจจุบันนอกจากจะมีน้ำมันเบนซิน กับดีเซลแล้ว ยังมีทั้งแก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล เอทานอล ซึ่งแต่ละแบบก็มีปริมาณออกเทนที่แตกต่างกัน และย่อมมีผลต่อสมรรถนะของรถยนต์ และหากเราเติมผิดขึ้นมาโดยจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม วันนี้เรามีคำแนะนำในการรับมือไม่ให้ชีวิตเปลี่ยนกันค่ะ
น้ำมันรถมีกี่ประเภท? เติมผิดทำยังไงให้ชีวิตไม่เปลี่ยน
ปัจจุบันน้ำมันรถหรือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้งานจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งยังแบ่งได้อีกหลายชนิด ดังต่อไปนี้
น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
- น้ำมันเบนซิน ถือว่าเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด เพราะไม่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์และยังมีค่าออกเทนที่สูงอีกด้วย ทำให้อัตราเร่งและการเผาไหม้ที่ดี แต่ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูงและเริ่มหายากขึ้น เพราะในปัจจุบันมีจำหน่ายเพียงบางสถานีบริการน้ำมันเท่านั้น
-
แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนน้ำมันเบนซิน 95 มีส่วนผสมของเอทานอลที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% ผสมกับน้ำมันเบนซิน 95 ในอัตราส่วน น้ำมัน 9 ส่วน เอทานอล 1 ส่วน ซึ่งจะมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับน้ำมันเบนซิน 95
-
แก๊สโซฮอล์ 91 (E10) เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าและสามารถใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 ได้ มีส่วนผสมของเอทานอลที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% ผสมกับน้ำมันเบนซิน 91 ในอัตราส่วน น้ำมัน 9 ส่วน เอทานอล 1 ส่วน มีราคาถูกกว่าแก๊สโซฮอล์ 95
-
แก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการนำน้ำมันเบนซินมาผสมกับเอทานอลที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% ในอัตราส่วน น้ำมัน 80% เอทานอล 20% รถเครื่องยนต์เบนซินสามารถเติมได้ แต่ต้องเป็นรุ่นที่มีการรองรับแล้วเท่านั้น
-
แก๊สโซฮอล์ E85 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถเครื่องยนต์เบนซินที่มีราคาถูกที่สุดในท้องตลาด มีส่วนผสมของน้ำมันและเอทานอลในอัตราส่วน น้ำมัน 15% เอทานอล 85% รถที่สามารถใช้น้ำมันชนิดนี้ได้ต้องเป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้รองรับโดยเฉพาะเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ
น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
-
น้ำมันดีเซล พรีเมียม B7 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการกลั่น และไม่มีส่วนผสมของสารเติมแต่งอื่น ๆ จัดเป็นน้ำมันดีเซลที่มีคุณภาพสูง จึงให้การเผาไหม้ที่ดีเยี่ยม
-
น้ำมันดีเซล B7 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซลอยู่ในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วประมาณ 7% และสารเติมแต่งต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ให้คุณภาพดีและลดมลพิษ
-
น้ำมันดีเซล เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นมาเป็น 10%
-
น้ำมันดีเซล B20 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมน้ำมันดีเซล 80% และไบโอดีเซล หรือเชื้อเพลิงที่ได้จากพืชผลทางการเกษตรอีก 20%
ทำไมการเติมน้ำมันผิดประเภทแล้วถึงทำให้รถมีปัญหา
มีคนตั้งคำถามนี้มากพอสมควร ว่าทำไมการเติมน้ำมันผิดประเภททำให้รถพัง คำตอบมีอยู่ว่าน้ำมันคนละชนิดกันจะมีระดับการเผาไหม้ของน้ำมันแตกต่างกัน ซึ่งเมื่อคุณเติมน้ำมันคนละประเภทลงในถังน้ำมันที่มีน้ำมันเดิมค้างอยู่ เมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์จะทำให้การเผาไหม้สะดุด ส่งผลให้การทำงานของลูกสูบไม่เป็นไปตามจังหวะที่ควรเป็น เครื่องยนต์ทำงานไม่ได้และทำให้เครื่องดับในที่สุด หากไม่รีบแก้ไขจะทำให้เกิดความเสียหายกับตัวรถยนต์อย่างมาก ดังนั้นเม่อรู้ตัวว่าเติมผิดแล้ว ควรรีบแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายน้ำมันออก หรือทำความสะอาดถังน้ำมันรวมถึงชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ไม่มีสิ่งปนเปื้อนเหลืออยู่โดยเร็วที่สุด
เติมน้ำมันผิดประเภทควรทำยังไง
กรณีแรกหากคุณรู้ตัวตั้งแต่ที่ปั้มว่าเติมผิด และยังไม่ได้สตาร์รถ ถือว่าโชคยังเข้าข้างคุณอยู่ เพราะน้ำมันจะยังอยู่แค่ในถังน้ำมัน ยังไม่เกิดการหมุนเวียนไปที่เครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ ข้อนี้แก้ไม่ยากเพียงแค่คุณแจ้งเจ้าหน้าที่หรือพนักงานในปั้มว่าเติมน้ำมันผิด และขอให้ช่างมาช่วยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันรวมทั้งไล่ระบบน้ำมันของเครื่องยนต์ใหม่ เท่านี้คุณก็สามารถใช้งานรถยนต์ของคุณได้ปกติโดยที่เครื่องยนต์ยังไม่ได้รับความเสียหาย
กรณีที่สองเติมน้ำมันผิดแต่ไม่รู้ตัวและสตาร์ทรถขับออกไปเรียบร้อยแล้ว อันนี้เรียกว่าชีวิตเปลี่ยนของแทร๊ เพราะรถยนต์ของคุณอาจไปดับกลางทางได้โดยที่คุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือเรียกประกันก่อน และขอใช้บริการรถยกฉุกเฉินได้ แต่ว่าหากประกันของคุณไม่ครอบคลุมก็ต้องรีบนำรถเข้าข้างทางและหาช่างมาตรวจสอบ ไม่แนะนำให้พยายามสตาร์ทและฝืนขับต่อไป เพราะเมื่อเครื่องยนต์มีการสูบฉีดน้ำมันเข้าสู่ระบบไปทั่วแล้ว จะยิ่งทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ ได้รับความเสียหาย แต่โดยทั่วไปแล้วเมื่อเครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติเครื่องก็จะดับไปโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว และคุณก็ไม่ควรฝืนหรือพยายามสตาร์ทเครื่องใหม่อีก ซึ่งวิธีในการดูแลรถยนต์ในเบื้องต้น ก็จะคล้ายกันกับกรณีที่ยังไม่ได้สตาร์ทรถออกไป คือ คุณต้องทำการถ่ายน้ำมันรถออกทั้งหมดและให้ช่างไล่ระบบน้ำมันให้ใหม่ รวมทั้งต้องล้างหัวเทียนเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้คุณต้องทำการเปลี่ยนไส้กรองใหม่เพื่อให้ไม่เกิดการปนเปื้อนกับน้ำมันที่เติมผิดไป จึงจะทำให้รถของคุณทำงานได้ตามปกติและไม่สร้างปัญหาให้กับเครื่องยนต์
จริงๆ แล้วอุบัติเหตุลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าความเสียหายต่อเครื่องยนต์นั้นค่อนข้างรุ่นแรงเลยทีเดียว ดังนั้นการแก้ปัญหาเบื้องต้นนั้นสำคัญมาก เพราะจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาในทุกๆ เหตุการณ์ อย่าลืมมีสติก่อนสตาร์ท.. ด้วยความปรารถนาดี
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น