ตลาดยานยนต์ทั่วโลกเข้าสู่โหมด Electric Disruption เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด หรือระบบไฟฟ้าล้วนก็ตาม สังเกตได้จากยอดขายและยอดจดทะเบียนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด และจะค่อยๆ ชะลอความเร็วลงเมื่อแตะไปถึง 100%
จัดอันดับยอดขายแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า มกราคม-สิงหาคม 2566
จากข้อมูลในตาราง Year-To-Date (YTD) 10 อันดับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดตั้งแต่เดือน มกราคม - สิงหาคม 2566 อันดับหนึ่งได้แก่แบรนด์ BYD ที่แซงหน้า Tesla เป็นที่เรียบร้อย ลอยลำมาแบบตามไม่ติดฝุ่น โดยที่อันดับที่ 3 ได้แก่แบรนด์ GAC Aion ที่ร้อนแรงแซงหน้า BMW ซึ่งถ้ามองตามสถิติแล้วก็อย่าคาดหวังว่าจะสามารถแซงหน้าแบรนด์จากจีนได้เร็วๆ นี้ เพราะดูเหมือนว่ารอบตัดสินในปีนี้เข้าสู่รอบไฟนอลเป็นที่เรียบร้อย นั่นก็คือ #1 BYD, #2 Tesla, #3 GAC Aion
ยังมีข้อมูลสถิติเพิ่มเติม โดยคิดเป็น Percentage ดังต่อไปนี้
Rank | Brand | January - August | Percentage |
1 | BYD | 1,704,360 | 20.8% |
2 | Tesla | 1,177,908 | 14.4% |
3 | GAC Aion | 308,769 | 3.8% |
4 | BMW | 300,466 | 3.7% |
5 | Volkswagen | 295,949 | 3.6% |
6 | SGMW | 262,857 | 3.2% |
7 | Mercedes | 228,302 | 2.8% |
8 | Li Auto | 208,165 | 2.5% |
9 | Changan | 190,125 | 2.3% |
10 | Geely | 183,202 | 2.2% |
11 | Volvo | 174,849 | 2.1% |
12 | SAIC | 168,259 | 2.1% |
13 | Hyundai | 162,240 | 2.0% |
14 | KIA | 158,284 | 1.9% |
15 | Audi | 147,819 | 1.8% |
16 | Toyota | 99,455 | 1.2% |
17 | NIO | 97,320 | 1.2% |
18 | Jeep | 97,023 | 1.2% |
19 | Ford | 96,400 | 1.2% |
20 | Peugeot | 89,800 | 1.1% |
Other | 2,033,267 | 24.8% | |
Total | 8,184,819 | 100% |
หากสังเกตุข้อมูลของแบรนด์น้องใหม่จากประเทศจีน Li Auto ซึ่งขณะนี้ได้หยุดอยู่ที่อันดับ 8 กลายเป็นแบรนด์สตาร์ทอัพที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2023 อย่างไม่ต้องสงสัย และแน่นอนว่ากำลังล่นระยะทางเข้าใกล้กับอันดับ 7 ต่อสู้กับแบรนด์ Mercedes ต่อไป
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือครึ่งหลังของตาราง ไปสะดุดตาอยู่ที่อันดับที่ 16 ได้แก่ Toyota จากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 99,455 คัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าค่ายยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น กำลังตื่นตัวอย่างช้าๆ แต่ต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่ถึงจะกลับมา Back on the game ทยานสู่ 10 อันดับแรกได้ อันนี้คงต้องรอดูการแก้เกมส์ของโตโยต้ากันต่อไป
นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับส่วนต่างราคาระหว่าง EV ในจีนและยุโรป ซึ่งส่วนหนึ่งของความแตกต่างคืออัตรากำไรที่สูงขึ้นจาก OEM (Origianl Equipment Manufacturer) หรือการจ้างผลิตสินค้าให้กับบริษัท แต่หลายคนไม่รู้ว่าอัตรากำไรนั้นน้อยกว่าที่คิดไว้เยอะ เมื่อเปรียบเทียบราคารถยนต์ไฟฟ้าของยุโรปที่ผลิตในจีน กับราคารุ่นเดียวกันที่นำเข้ามา เราควรจำไว้ว่าภาษีมูลค่าเพิ่มมีเพียง 13% เทียบกับ 23% ในยุโรป และยังเสียภาษีนำเข้าอีก 10% ดังนั้นส่วนต่างของราคาจะเท่ากับ 20% ระหว่าง 2 ตลาด และยังต้องเพิ่มค่าจัดส่งไปอีก 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ อีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น Tesla Model 3 ราคา 260,000 หยวนในจีน ($35,800) ในขณะที่ในยุโรป รุ่นเดียวกันราคา €43,000 ($46,700) ซึ่งถ้าหากรวมภาษี/ภาษีเพิ่มเติมบวกกับค่าขนส่งอีก 2,000 ดอลลาร์สหรัฐที่กล่าวมาข้างต้น Tesla Model 3 คันนี้จะมีราคารวม 44,960 ดอลลาร์สหรัฐ เกือบเท่ากับในยุโรปแล้ว ซึ่งหมายความว่า Tesla ได้รับกำไรพิเศษประมาณ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐในการขายที่ยุโรป ถือว่ากำไรต่ำกว่าที่คิดไว้มาก
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
Credit : Cleantechnica
ความคิดเห็น