MINI เปิดตัวรุ่นพิเศษส่งท้ายเจเนอเรชั่นปัจจุบัน Cooper S Clubman Final Edition และ Cooper S Hatch Mayfield Edition Share this
รถเปิดตัวใหม่
โหมดการอ่าน

MINI เปิดตัวรุ่นพิเศษส่งท้ายเจเนอเรชั่นปัจจุบัน Cooper S Clubman Final Edition และ Cooper S Hatch Mayfield Edition

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 10 November 2566

MINI ส่งท้ายเจเนอเรชั่นปัจจุบันด้วยรุ่นพิเศษ Cooper S Clubman Final Edition และ Cooper S Hatch Mayfield Edition พร้อมมอบความสนุนสนานให้ชมกันในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 ที่จะถึงนี้


MINI เปิดตัวรุ่นพิเศษส่งท้ายเจเนอเรชั่นปัจจุบัน Cooper S Clubman Final Edition และ Cooper S Hatch Mayfield Edition

สำหรับใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของรถยนต์คันจิ๋วสุดแสบอย่าง MINI เตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะน้องเตรียมขนกองทัพไปบุกงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 ณ IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566 โดยพระเอกในครั้งนี้ก็คือ MINI Cooper S Clubman Final Edition และ MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition รุ่นส่งท้ายเจเนอเรชั่นปัจจุบันที่ผลิตจำนวนจำกัดเท่านั้น ใครรักแบรนด์นี้กำตังค์รอได้เลยค่า 

MINI Cooper S Clubman Final Edition

ฉลองการต้อนรับอย่างอบอุ่นสำหรับแฟนๆ ชาวไทยต่อน้อง Clubman ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ MINI รุ่น Cooper S Clubman Final Edition ซึ่งเป็นรุ่นลิมิเต็ดรุ่นสุดท้ายของเอดิชันนี้ โดยผลิตออกมาเพียง 1,969 คันทั่วโลก (ตามเลขปีของ Clubman รุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก) และสำหรับโคว้ต้าของประเทศไทย เราได้มาเพียง 50 คันเท่านั้น

MINI Cooper S Clubman Final Edition (1)

 

MINI Cooper S Clubman Final Edition (2)

MINI Cooper S Clubman Final Edition (3)

MINI Cooper S Clubman Final Edition ยังคงสืบทอดคอนเซ็ปต์ Shooting-Brake แบบคลาสสิคตามสไตล์ของ MINI พร้อมฝากระโปรงท้ายแบบบานพับสองข้างอันเป็นเอกลักษณ์ ให้พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวางที่มีความจุสูงสุดถึง 1,250 ลิตร ภายนอกตกแต่งด้วยสีทองแดง Shimmer Copper บริเวณรอบกระจังหน้าที่สะท้อนให้เห็นถึงดีไซน์อันโดดเด่นเสมอมาของ MINI ตราสัญลักษณ์ Final Edition บนฝากระโปรงท้ายและปีก Side Scuttle ด้านข้าง เสริมด้วยลายกราฟฟิกบนล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว ตกแต่งลวดลายแบบสองสีด้วยสารเคลือบเงาแบบใสให้ดูคล้ายทองแดง

MINI Cooper S Clubman Final Edition (4)

MINI Cooper S Clubman Final Edition (5)

MINI Cooper S Clubman Final Edition (6)

MINI Cooper S Clubman Final Edition (7)

ภายในตัวรถยังคงคุมโทนด้วยการใช้สีทองแดงตกแต่งลวดลายตัวอักษรเงางาม "Final Edition" บริเวณขอบประตูและตรงตำแหน่งด้านล่างของพวงมาลัยหุ้มหนังแบบสปอร์ต และเลขรหัส "1 of 1969" บนป้ายซึ่งอยู่ตรงขอบประตูฝั่งผู้โดยสารและแผ่นยางปูพื้น ขณะที่ส่วนอื่นๆ ภายในห้องผู้โดยสารตกแต่งด้วยสไตล์ที่ผสานกันอย่างลงตัวกับเบาะหนัง MINI Yours Leather Lounge in 60 Years สี Dark Maroon และหลังคากระจกแบบพาโนรามา ในส่วนของความบันเทิง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถสนุกสนานไปกับระบบเสียงสุดสมจริงของ Harman Kardon พร้อมแพ็คเกจระบบนำทาง Connected Navigation ที่รองรับ Apple CarPlay ส่งมอบการเชื่อมต่อและเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในระหว่างการเดินทาง     

MINI Cooper S Clubman Final Edition (8)

MINI Cooper S Clubman Final Edition (9)

MINI Cooper S Clubman Final Edition ให้พละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า พร้อมถ่ายทอดอารมณ์ของความสนุก ความปราดเปรียว ความมีสไตล์ และความสะดวกสบายตามแบบฉบับของ Clubman ที่แฟนๆ ชื่นชอบ ทั้งยังมาพร้อมสีขาว Nanuq White สีดำ Enigmatic Black และสีเงิน Melting Silver 

  • ราคาจำหน่าย: 3,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม MSI Standard)

MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition

สำหรับอีกรุ่นที่พิเศษไม่แพ้กันก็คือ MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติสหราชอาณาจักรอันเป็นประเทศต้นกำเนิดของ MINI ไปพร้อมกับการตอบรับเทรนด์เรื่องการรักโลก ความสงบ และความสมดุล ด้วยแรงบัลดาลใจจากทุ่งดอกลาเวนเดอร์ MINI Mayfield ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน นำมาสู่ดีไซน์อันโดดเด่นด้วยโทนสี Digital Lavender สุดพิเศษ ตั้งแต่ลายเส้นตั้งตรงและทแยงในรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของ MINI Cooper ตัวอักษร Mayfield สีม่วงแวววาว ลวดลายภาพดอกลาเวนเดอร์บริเวณประตูท้าย ประกบด้วยไฟท้ายลายธง Union Jack อันเป็นเอกลักษณ์ของ MINI เป็นต้น

MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition (1)

MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition (2)

MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition ยังสะกดทุกสายตาด้วยหลังคาสีฟ้ามัลติโทน สะท้อนถึงเฉดสีอันหรูหราที่ได้จากการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสี Soul Blue สี Pearly Aqua และสี Jet Black การพ่นสีแต่ละชั้นใช้เทคนิค wet-on-wet ทำให้รถแต่ละคันมีเฉดสีที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร สีหลังคาภายนอกตัดกับสี Piano Black ตรงขอบประตูด้านนอกและล้อรถลวดลาย Tentacle Spoke ขนาด 17 นิ้วอย่างลงตัว ขณะที่การออกแบบภายในยังคงความรู้สึกหรูหราด้วยเบาะหนังเทียม Carbon Black พร้อมตัวอักษร "Mayfield" ที่โดดเด่นสะดุดตา ครบครันด้วยความบันเทิงและการเชื่อมต่อจากระบบเสียงของ Harman Kardon และแพ็คเกจระบบนำทาง Connected Navigation ที่รองรับ Apple CarPlay ภายในยังให้กลิ่นอายทุ่งลาเวนเดอร์ด้วยน้ำหอมกลิ่น Relaxing Twilight ที่มาพร้อมกับรุ่น Mayfield Edition     

MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition (3)

MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition (4)

MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition (5)

MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition (6)

นอกจากนี้ MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition ยังสืบทอดเอกลักษณ์ของรถยนต์แฮทช์ 3 ประตูแบบดั้งเดิม พร้อมเติมเต็มความสนุกในการขับขี่และความแม่นยำในการควบคุมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ให้พละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,600 รอบต่อนาที ส่งตรงสู่ประเทศไทยในจำนวนจำกัดเพียง 12 คันเท่านั้น ได้แก่ สีดำ Midnight Black และสีขาว Nanuq White พร้อมให้แฟนๆ มินิชาวไทยได้เฉลิมฉลองไปพร้อมกับความงามของธรรมชาติที่ตัดกันอย่างลงตัวกับพลังบวกของมนุษยชาติ ซึ่งหาได้ที่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ Mayfield และ MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition รุ่นพิเศษนี้เท่านั้น     

  • ราคาจำหน่าย: 2,969,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม MSI Standard)

MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition (7)

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

 


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ