Deepal L07 และ S07 ทางเลือกใหม่ของรถไฟฟ้า 100% จากจีน แม้จะเป็นน้องใหม่ในไทย แต่บอกเลยว่าการมาครั้งนี้ไม่ธรรมดา นอกจากจะมีดีไซน์หล่อเท่ดุดันแล้ว ยังมาพร้อมออปชั่นแบบจุก ๆ ส่วนการขับขี่จะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันครับ
ครั้งนี้เป็นการทดสอบครั้งแรกหลังจากที่เปิดตัวในไทย โดยออโต้สปินน์ได้มีโอกาสขับทดสอบทั้ง 2 รุ่น คือ Deepal L07 ตัวถังแบบฟาสต์แบ็ก และ Deepal S07 ตัวถังแบบเอสยูวี แม้หน้าตาจะเหมือนกัน แต่การขับขี่นั้นต่างกันแบบชัดเจนครับ ซึ่งการขับทดสอบในครั้งนี้ เราอยู่กันที่สนาม อิมแพ็ค สปีด พาร์ค ที่มีการปรับเซ็ตสนามให้มีสเตชั่นการขับขี่หลากหลายรูปแบบ ได้ทดสอบทั้งทางตรง ทางโค้ง การควบคุมพวงมาลัย ระบบช่วงล่าง รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่
รับชมรีวิวรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่
มิติตัวรถ Deepal L07 และ Deepal S07
Deepal L07 | Deepal S07 | |
ยาว (มม.) | 4,820 | 4,750 |
กว้าง (มม.) | 1,890 | 1,930 |
สูง (มม.) | 1,480 | 1,625 |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,900 | 2,900 |
ระยะห่างล้อหน้า (มม.) | 1,620 | 1,640 |
ระยะห่างล้อหลัง (มม.) | 1,630 | 1,650 |
ความสูงใต้ท้อง (มม.) | 150 | 165 |
น้ำหนักรถเปล่า (มม.) | 1,820 | 1,940 |
ขนาดยาง | 245/45R19 | 255/45R20 |
ขุมพลัง และความจุแบตเตอรี่
ทั้งสองรุ่นใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเท่ากัน คือ 190 กิโลวัตต์ หรือ 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร และมีความจุแบตเตอรี่เท่ากัน คือ 66.8 kWh
- Deepal L07 วิ่งได้ระยะสูงสุด 540 กิโลเมตร (NEDC)
- Deepal S07 วิ่งได้ระยะสูงสุด 485 กิโลเมตร (NEDC)
เหตุผลที่ระยะทางการวิ่งไม่เท่ากันเป็นเพราะขนาดตัวถังต่างกัน Deepal L07 เป็นฟาสต์แบ็ก มีความลู่ลมมากกว่า ค่าสัมประสิทธิ์ต่ำกว่า ทำให้ได้ระยะทางในการวิ่งมากกว่า ส่วน Deepal S07 เป็นรถเอสยูวี มีความสูงมากกว่า ทำให้ต้านลมมากกว่า จึงส่งผลให้ระยะทางการวิ่งน้อยกว่า
ทดสอบการขับขี่ Deepal L07
Deepal L07 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาอยู่ที่ 6.2 วินาที ในจังหวะการขับออกตัวไม่รู้สึกอืดเลยครับ เพียงแค่กดคันเร่งเบา ๆ ตัวรถไหลลื่นได้ดีมาก เป็นรถที่ขับสนุก ขับง่าย แต่ก็ไม่ถึงกับแรงหวือหวา ในแต่ละโหมดขับขี่ ความไวของคันเร่งและพละกำลังจะต่างกัน หากเน้นใช้งานในเมือง ผมว่าแค่โหมด ECO ก็เพียงพอแล้วครับ แต่ถ้าอยากให้คันเร่งติดเท้าขึ้นก็ปรับมาในโหมด Normal ส่วนโหมด Sport คันเร่งจะไวมาก ทำให้ขับสนุกขึ้น แต่มันก็จะแลกกับการกินไฟที่มากขึ้นด้วยครับ นอกจากนี้ ยังมีโหมดการขับขี่ที่เราสามารถปรับแต่งได้เอง และเลือกระดับความหน่วงได้ ว่าจะให้รถหน่วงแค่ไหนเมื่อยกคันเร่ง ยิ่งหน่วงเยอะมอเตอร์ก็จะปั่นไฟเข้ามาเก็บในแบตได้มากขึ้นนั่นเองครับ
Deepal L07 ทางผู้ผลิตตั้งใจออกแบบให้มีความสปอร์ตตั้งแรก ทั้งเรื่องดีไซน์ และการขับขี่ ดังนั้นระบบช่วงล่างจึงมีการปรับเซ็ตให้รองรับการขับสาดโค้งแบบแรง ๆ ได้นิดหน่อย จากการทดสอบถือว่าช่วงล่างจะออกแนวนุ่ม เมื่อวิ่งบนทางเรียบช่วงล่างนุ่มดีครับ แต่เมื่อขับผ่านทางขรุขระจะรับรู้ถึงแรงสะเทือน
เมื่อต้องขับสาดโค้งแบบแรง ๆ หรือขับแบบสลาลอมที่ความเร็ว 50-60 กม./ชม ช่วงล่างถือว่าเกาะถนนได้ดีครับ ตัวรถไม่มีการลื่นไถล หรือเหวี่ยงจนโคลงเคลง เป็นรถที่ระบบช่วงล่างเซ็ตมาแบบกลาง ๆ ค่อนไปทางสปอร์ตนิดหน่อย เน้นการขับขี่ในชีวิตประจำวันเป็นหลัก แต่ก็สามารถขับซิ่งเข้าโค้งแรง ๆ ได้ในระดับความเร็วที่เหมาะสม ส่วนการเก็บเสียง ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจครับ เอาเป็นว่ารุ่นนี้ สามารถสู้กับ BYD Seal รุ่นเริ่มต้น และ ORA 07 รุ่นเริ่มต้น ได้แน่นอน ทั้งในเรื่องการดีไซน์ และการขับขี่ครับ
ทดสอบการขับขี่ Deepal S07
Deepal S07 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาอยู่ที่ 6.7 วินาที ซึ่งจะใช้เวลานานว่า L07 อยู่เล็กน้อย เป็นเพราะรูปทรงและความสูงที่ต่างกัน ในจังหวะการขับออกตัวก็ลื่นไหลได้ดีไม่ต่างกับ L07 ครับ โหมดการขับขี่ของรุ่น S07 จะมีเหมือนกับ L07 ทุกประการ อัตราเร่งในแต่ละโหมดให้ความรู้สึกใกล้เคียงกัน แต่มุมมองของผู้ขับขี่ ผมชอบในรุ่น S07 มากกว่า เพราะเป็นรถยกสูง ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจนกว่า
ส่วนระบบช่วงล่างของ Deepal S07 จะเซ็ตต่างกับ L07 ครับ ในรุ่นS07 ให้ความรู้สึกนุ่มนวลมากกว่า ข้อดีก็คือ เมื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือขับผ่านทางขรุขระจะนุ่มนวล ซับแรงสะเทือนได้ดี แต่ถ้าขับเข้าโค้งแบบแรง ๆ หรือขับแบบสลาลอมที่ความเร็ว 50-60 กม./ชม จะรู้สึกโยนกว่า L07 แบบชัดเจนครับ ซึ่งมันก็ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไร เพราะตัวถังต่างกันความสูงต่างกัน จุดประสงค์ของการใช้งานต่างกัน มันก็เป็นเรื่องปกติรถของเอสยูวีอยู่แล้วครับ แต่ในเรืองของการยึดเกาะถนน ก็ไม่แย่นะครับ ตัวรถไม่มีอาการลื่นไถล ยังอยู่ในการควบคุมที่ดีรวมถึงยังให้ความรู้สึกที่ปลอดภัย เป็นรถที่ขับดีรุ่นนึงเลยทีเดียว เอาเป็นว่า Deepal S07 รุ่นนี้หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด ผมว่าหน้าตากินขาดลอย ส่วนออปชั่นที่ได้ ก็มาแบบจัดเต็ม จุก ๆ เลยทีเดียว หากใครซื้อใช้งานแบบทั่วไป ไม่ได้เอาไปซิ่งแข่งสาดโค้งกับใคร ผมว่ารุ่นนี้ดูลงตัวที่สุดแล้วในระดับราคานี้
สำหรับระบบความช่วยเหลือการขับขี่ เนื่องจากเป็นการขับขี่แบบสั้น ๆ จึงได้ทดสอบแค่บางระบบครับ เช่น Adaptive Cruise Control ,ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน จากการทดสอบถือว่าระบบทำงานสมูทระดับนึงครับ เมื่อเราล็อกความเร็วเอาไว้ เราสามารถยกเท้าออกจากคันเร่งได้เลย หากคันหน้าเบรก รถเราก็จะเบรกตามจนถึงจุดหยุดนิ่ง หากคันหน้าเพิ่มความเร็ว รถเราก็จะเพิ่มความเร็วตามจนถึงระดับความเร็วที่เราล็อคเอาไว้ ซึ่งการเบรกและการเติมความเร็ว ทำได้สมูทมากครับ ส่วนระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ผมว่ากล้องที่ตรวจจับเลนถนนยังไม่ค่อยแม่นยำเท่าที่ควร บางช่วงมีตรวจจับเส้นเลนถนนไม่เจอ เอาไว้ถ้ามีโอกาสทดสอบแบบจริงจังและใช้เวลาการทดสอบได้นานกว่านี้ ออโต้สปินน์จะมารีวิวให้ทุกท่านได้อ่านกันอีกครั้งครับ
ในส่วนของดีไซน์ภายนอก ดีไซน์ภายใน รวมถึงออปชั่นต่าง ๆ ที่ได้นั้น ดูได้จากลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น