รีวิว Aion Y Plus 490 Elite รถไฟฟ้าไซส์ใหญ่ ในราคาเบาหวิว 899,900 บาท Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว Aion Y Plus 490 Elite รถไฟฟ้าไซส์ใหญ่ ในราคาเบาหวิว 899,900 บาท

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 05 January 2567

หากใครกำลังหารถไฟฟ้าคันใหญ่ ภายในกว้าง ราคาเข้าถึงได้ง่าย บอกเลยว่า Aion Y Plus ตอบโจทย์แน่นอน


AION Y Plus เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า AEC ซึ่งถูกพัฒนามาเพื่อสร้างเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง จัดวางแบตเตอรี่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทำให้กระจายน้ำหนักดี โดยรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกในไทยช่วงเดือน สิงหาคม 2023 และหลังจากเปิดตัวไปได้แค่ 3 เดือนกว่า ได้มีการปรับลดราคาถึง 2 ครั้ง ทำให้รุ่นเริ่มต้น ราคาถูกลงจากเดิมถึง 170,000 บาท เลยทีเดียว พร้อมกับกวาดยอดจองไปแบบถล่มทลายในงาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมา

รีวิว Aion Y Plus Elite

ราคา AION Y Plus เดือน มกราคม ปี 2024

  • Y Plus 490 Elite ราคา 899,900 บาท (ราคาเดิม 1,069,900)
  • Y Plus 490 Premium ราคา 995,900 บาท (ราคาเดิม 1,099,900)
  • Y Plus 550 Ultra ราคา 1,299,900 บาท (ยังไม่นำเข้ามาจำหน่าย)

สำหรับรุ่นที่ออโต้สปินน์ได้นำมาขับทดสอบครั้งนี้ คือ Aion Y Plus 490 Elite แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ด้วยราคาที่น่าคบหา จึงทำให้รุ่นนี้น่าสนใจมาก ๆ แต่จะคุ้มค่ากับราคาหรือไม่ มาดูกันครับ

รับชมรีวิว AION Y Plus 490 Elite รูปแบบวีดีโอได้ที่นี่

มิติตัวถัง AION Y Plus 490 Elite

ตัวรถมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นคู่แข่งที่ราคาใกล้เคียงกัน มีความยาว 4,535 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,650 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม.

รีวิว Aion Y Plus Elite

AION Y Plus 490 Elite ดีไซน์ภายนอก

ภายนอกโดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าแบบอลังการงานสร้าง โดยเฉพาะชุดไฟเดย์ไทม์ที่ยื่นลงด้านล่าง หากใครชอบก็จะบอกว่าสวยมาก แต่ถ้าคนไม่ชอบก็จะบอกว่าขี้เหร่มากเช่นกัน หากตัดเรื่องไฟหน้าออก ผมว่าดีไซน์รวม ๆ ดูลงตัวมากครับ

รีวิว Aion Y Plus Elite

รีวิว Aion Y Plus Elite

ในส่วนของออปชั่นต่าง ๆ ที่ให้มาก็ดูดีเลยครับ เช่น ไฟหน้าแบบ LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชันหน่วงเวลาปิดไฟหน้า Follow Me Home ,ไฟท้ายแบบ LED,กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว,ราวหลังคา ,ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ,กล้องรอบคัน หน้า-หลัง-ซ้าย-ขวา โดยรวมถือว่าให้มาค่อนข้างครบ แต่เสียดายที่ไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลัง

รีวิว Aion Y Plus Elite

รีวิว Aion Y Plus Elite

AION Y Plus 490 Elite ดีไซน์ภายใน

จุดเด่นของภายในคือความใหญ่โตมโหฬาร ถ้าถามว่าทำไมถึงกว้างขวางได้ขนาดนี้ ก็เพราะว่ารุ่นนี้ ตั้งใจออกแบบให้เป็นรถไฟฟ้าตั้งแต่แรก เลยจัดสรรพื้นที่ในการวางแบตได้อย่างลงตัว

รีวิว Aion Y Plus Elite

ซึ่งตำแหน่งของแบตจะวางอยู่ที่พื้นของห้องโดยสาร ใช้แทนพื้นของตัวรถไปเลย ไม่เสียพื้นที่การใช้งาน และให้ยางอะไหล่มาด้วย ในขณะที่รถไฟฟ้าหลายรุ่น ใช้พื้นที่ช่องยางอะไหล่เป็นตำแหน่งวางแบตเตอรี่ และให้มาเป็นชุดปะยางเติมลมแทน

รีวิว Aion Y Plus Elite

รีวิว Aion Y Plus Elite

ในส่วนของออปชั่นต่าง ๆ ของภายในที่ให้มาก็ครอบคลุมการใช้งานในระดับนึงครับ เช่น เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ,เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับมือ 4 ทิศทาง ,ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มีแผ่นกรองฝุ่น PM2.5 ,เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold ,ลำโพง Bongiovi 6 ตำแหน่ง ,พอร์ต USB หน้า 1 จุด หลัง 1 จุด ,พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ,ระบบสตาร์ทแบบ IBCM (แค่เข้ามานั่งในรถ เหยียบเบรกแล้วเข้าเกียร์ได้เลย) ,Ambient Light 32 สี ,กระจกไฟฟ้าแบบ One-touch ทั้ง 4 บาน ,จอแสดงข้อมูลการขับขี่ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว

รีวิว Aion Y Plus Elite

รีวิว Aion Y Plus Elite

รีวิว Aion Y Plus Elite

รีวิว Aion Y Plus Elite

จอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งหน้าจอตัวนี้ยังทำหน้าที่อีกหลากหลาย เช่น แสดงภาพกล้องรอบคัน 360 องศา หรือแม้แต่การเข้าไปตั้งค่าเกี่ยวกับระบบต่าง ๆ ก็จะต้องเข้าผ่านหน้าจอนี้ จากการใช้งานถือว่าภาพคมชัดทั้งกลางวัน และกลางคืน จอทัชสกรีนง่ายลื่นไหลดี และที่ผมชอบเป็นพิเศษคือตอนที่ใช้เปิดแผนที่นำทาง แผนที่จะขึ้นเต็มหน้าจอไม่ต้องกลัวหลงทางเลยล่ะครับ

รีวิว Aion Y Plus Elite

หลังคากระจกพาโนรามาเปิด-ปิดได้ ทอดยาวไปจนถึงเบาะหลัง สามารถเปิดกระจกรับอากาศได้ ช่วยให้ภายในหรูหราขึ้น และยังช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกโล่ง โปร่ง สบายตา ไม่รู้สึกอึด ใช้งานได้ง่ายด้วยการกดปุ่มที่ด้านบน หรือจะกดผ่านที่หน้าจอกลางก็ได้เช่นกัน

รีวิว Aion Y Plus Elite

อีกหนึ่งจุดเด่นของ AION Y Plus คือเบาะหลังมีพื้นที่เยอะมาก โดยเฉพาะพื้นวางเท้า กว้างจนเด็กสามารถลงไปนอนได้เลยล่ะครับ ทุกคนที่ได้เข้ามานั่งต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "โคตรกว้าง" ผมว่าภายในกว้างที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับคู่แข่งในพิกัดตัวถังนี้

รีวิว Aion Y Plus Elite

รีวิว Aion Y Plus Elite

พูดถึงข้อดีกันไปแล้ว ข้อที่ผมอยากจะติ ก็มีเช่นกัน คือ ช่อง USB ที่เบาะหลัง มีให้แค่ช่องเดียวเอง ผมว่ามันน้อยไปครับ 

ในส่วนของระบบความปลอดภัยในรุ่น 490 Elite ก็มีให้ครบครัน เช่น

  • ระบบ Keyless Entry
  • ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง TPMS
  • ระบบเบรก EBD
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC
  • โปรแกรมควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HHC
  • กล้องพาโนรามา 360 องศา
  • เซ็นเซอร์กะระยะด้านท้าย
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ CCS
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า / ด้านข้างคู่หน้า / ม่านถุงลม
  • ระบบแจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยหน้า-หลัง
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX

ขุมพลังขับเคลื่อน และแบตเตอรี่

Aion Y Plus ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดแม่เหล็กถาวร 1 ตัว ให้กำลัง 150 กิโลวัตต์ หรือ 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 8.5 วินาที

รีวิว Aion Y Plus Elite

ประเภทแบตเตอรี่ Magazine Battery LFP ความจุ 63.2 kWh แรงดัน 400 V รองรับการชาร์จ AC 7 kW และ DC 80 kW ระยะทางวิ่งสูงสุดเมื่อชาร์จไฟเต็ม 490 กม. (NEDC)

ทดสอบการขับขี่ AION Y Plus 490 Elite

การขับทดสอบครั้งนี้เป็นการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เจอทุกสภาพการจราจร ทั้งรถติด ถนนโล่ง ได้ทดสอบทุกโหมดการขับขี่ รวมถึงได้ทดสอบระยะทางที่วิ่งได้จริงเมื่อชาร์จไฟเต็ม 100%

รีวิว Aion Y Plus Elite

ในเรื่องของอัตราเร่งนั้นไม่มีอะไรน่ากังวลครับ แรงติดเท้าในแบบฉบับรถครอบครัวตัวถังใหญ่ แม้จะไม่ได้แรงแบบหลังติดเบาะ แต่ก็สามารถไต่ระดับความเร็วไปได้เรื่อย ๆ แบบไร้แรงหน่วง รู้ตัวอีกทีความเร็วก็ไปตันอยู่ที่ท็อปสปีด 163 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่ถูกล็อคเอาไว้ ถ้าถามว่าแต่ละโหมดให้ความรู้สึกอย่างไร ผมขอตอบแยกทีละโหมด ดังนี้ครับ

โหมด Eco เป็นโหมดประหยัดพลังงาน ในโหมดนี้จะถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 130 กม./ชม. และคันเร่งจะไม่ได้ไวมาก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอืดแต่อย่างใด เหมาะกับการใช้งานแบบทั่วไป สามารถใช้โหมดนี้ในชีวิตประจำวันได้

โหมด i-Pedal เป็นโหมดประหยัดพลังงานเช่นเดียวกับโหมด Eco แต่จะต่างตรงที่ เมื่อเรายกคันเร่ง ตัวรถจะหน่วงมาก คล้ายกับเราแตะเบรก ซึ่งจังหวะนี้มอเตอร์จะรีเจนไฟกลับไปเก็บในแบตเตอรี่มากขึ้น ถือเป็นไฟที่เราได้มาแบบฟรี ๆ เลย ทำให้การขับขี่ในโหมดนี้ จะได้ระยะทางที่มากกว่าโหมดการขับขี่อื่น หากใครที่เคยใช้รถน้ำมันมาก่อน แล้วมาใช้รถไฟฟ้าในโหมดนี้ จะไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เพราะรถมันจะเบรกให้เองเมื่อยกคันเร่ง แรกๆจะทำให้คุณมึนหัว แต่ถ้ารู้หลักการทำงานของระบบ และใช้งานไปซักระยะเพื่อทำความคุ้นชิน คุณจะหลงรักโหมดนี้ทันที เพราะรถจะค่อย ๆ เบรกให้เองจนถึงจุดหยุดนิ่ง คุณแทบไม่ต้องสลับเท้าไปเหยียบเบรก ส่วนการทำความเร็วของโหมดนี้จะเหมือนกับโหมด Eco ครับ คือถูกล็อคเอาไว้ที่ 130 กม./ชม.

โหมด Normal หรือโหมดปกติ ในโหมดนี้คุณสามารถใช้ความเร็วได้จนถึงท็อปสปีด คือ 163 กม./ชม. แต่สิ่งที่ต่างจากโหมด Eco ก็คือ คันเร่งจะไวขึ้น ได้ความรู้สึกว่ารถมีพละกำลังมากขึ้น ขับขึ้นเนินชัน รวมถึงจังหวะที่เร่งแซง ก็ไปได้แบบสบายมั่นใจหายห่วง ไม่รู้สึกอืด แต่เมื่อความเร็วไปแตะช่วง 140 กม./ชม. จะมีความรู้สึกตื้อเล็กน้อย แต่คุณก็สามารถเค้นกำลังไปจนถึงความเร็วท็อปสปีดได้ไม่ยากครับ

โหมด Sport เป็นโหมดที่แรงที่สุดของรถคันนี้ คันเร่งจะไวกว่าทุกโหมดที่ได้กล่าวมา แค่แตะคันเร่งเบา ๆ รถจะพุ่งทันที เป็นโหมดที่ขับสนุกมาก เหมาะสำหรับขาซิ่งที่ชอบความเร็วแบบวาร์ป แต่ก็จะแลกกับอัตราสิ้นเปลืองพลังงาน ที่กินไฟแบบลดฮวบ มากกว่าในโหมดอื่น ๆ

รีวิว Aion Y Plus Elite

ในส่วนของระบบช่วงล่าง โดยส่วนตัวผมว่าปรับเซ็ตมาลงตัวแล้วครับ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลกำลังดี ช่วงที่ขับผ่านทางขรุขระ ระบบช่วงล่างซับแรงสะเทือนได้ดี ผมทดลองนั่งทุกตำแหน่ง ทั้งคนขับ และที่นั่งตอนหลัง ผมว่ามันลงตัวมากกับรถที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ แต่ความรู้สึกนี้จะได้แค่เฉพาะการขับขี่โดยใช้ความเร็วปกตินะครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณขับซิ่งมุดไปมา หรือเปลี่ยนเลนแบบกะทันหันที่ความเร็วสูง ตัวรถจะรู้สึกโคลงเคลงทันที ซึ่งตรงจุดนี้เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จุดประสงค์ของการออกแบบช่วงล่างคันนี้ คือเน้นใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ได้เซ็ตมาเพื่อขับซิ่งแบบรถแข่ง หากคุณขับโดยใช้ความเร็วแบบทั่วไปผมว่าช่วงล่างเอาอยู่ครับ แต่ถ้าเน้นซิ่งก็ไปเซ็ตโช้คอัพให้แข็งอีกนิดก็น่าจะพอช่วยได้

รีวิว Aion Y Plus Elite

ในเรื่องของการเก็บเสียง บางคนก็ว่ารุ่นนี้เก็บเสียงไม่ดี แต่สำหรับผม ถ้าใช้ความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม. ผมว่าเป็นรถที่เก็บเสียงได้ดีในระดับนึงครับ แต่ถ้าใช้ความเร็วมากกว่านั้นก็จะเริ่มได้ยินเสียงลมภายนอกเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยินบ้าง ซึ่งตรงจุดนี้ผมไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาอะไร ขับพาที่บ้านเที่ยว ไปทานข้าว ไปต่างจังหวัด ก็ไม่มีใครบ่นเรื่องนี้เลย มีแต่บ่นเรื่องช่องชาร์จ USB น้อยไป แค่นั้นเองครับ

AION Y Plus 490 Elite ชาร์แบตเต็ม 100% ใช้งานจริงได้กี่ กม. ?

การทดสอบนี้ ผมได้ทดสอบ 2 รอบ

รีวิว Aion Y Plus Elite

  • ทดสอบรอบแรก ขับซิ่ง 50% ขับปกติ 50%

ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ขับจนแบตเตอรี่เหลือ 13% ได้ระยะทาง 339 กม. ที่หน้าจอระบุว่ายังวิ่งได้อีก 62 กม. ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.7 kWh/100 กม. คาดว่าถ้าใช้ไฟจนเหลือ 0% จะได้ระยะทางประมาณ 370-390 กม.

  • ทดสอบรอบสอง ขับซิ่ง 10% ขับปกติ 90%

ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ขับจนแบตเตอรี่เหลือ 54% ได้ระยะทาง 200 กม. ที่หน้าจอระบุว่ายังวิ่งได้อีก 263 กม. ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.8 kWh/100 กม. คาดว่าถ้าใช้ไฟจนเหลือ 0% จะได้ระยะทางประมาณ 420-440 กม.

คำนิยามของขับซิ่ง ณ ที่นี้ คือการขับโดยเหยียบคันเร่งแบบตามใจเท้า มุดซ้ายมุดขวาเมื่อเจอทางที่ไปได้ เจอทางโล่งใส่ไม่ยั้งไปจนถึงความเร็วท็อปสปีด 163 กม./ชม. โหมดที่ใช้ขับมีครบเลย ทั้ง Eco ,i-Pedal ,Normal ,Sport แล้วแต่สถานการณ์ในตอนนั้น

คำนิยามของการขับแบบปกติ ณ ที่นี้ คือการขับแบบใช้ความเร็วทั่วไปตามสภาพการจราจร เส้นทางที่ทดสอบส่วนใหญ่จะอยู่ใน กทม. ถนนพระราม 3 ,สาธร ,กัลปพฤกษ์ ,ราชพฤกษ์ ,เพชรเกษมช่วงบางแค ,ทางด่วนบูรพาวิถี โดยใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ขับเรื่อย ๆ แบบไม่ขยี้คันเร่ง

รีวิว Aion Y Plus Elite

สรุปโดยรวม

โดยรวมทั้งหมด ผมว่า AION Y Plus 490 Elite เป็นรถไฟฟ้าที่คุ้มค่า คุ้มราคามากในตอนนี้ กับราคาค่าตัว 899,900 บาท ได้ระยะทางการวิ่งใช้งานจริงที่เพียงพอต่อการใช้งาน ได้ขนาดความจุแบตเตอรี่ที่มากกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน ได้ตัวถังขนาดใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก นั่งแล้วไม่อึดอัด ปรับเบาะให้เรียบแล้วเปิดแอร์นอนในรถข้ามวันได้แบบสบาย ออปชั่นต่าง ๆ ที่ให้มาก็ถือว่าครอบคลุมการใช้งานได้ดีระดับนึง แต่ถ้าคุณอยากได้ออปชั่นที่มากกว่านี้ ก็แค่เพิ่มเงินอีก 96,000 บาท ไปซื้อรุ่น 490 Premium ในราคา 995,900 บาท คุณก็จะได้ออปชั่นเพิ่มขึ้นมาอีก 24 รายการ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Adaptive Cruise Control และ ระบบจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอก V2L ด้วย ทีนี้ก็อยู่ที่คุณจะเลือกแล้วล่ะครับ ว่าชอบออปชั่นแบบพอประมาณในราคาเริ่มต้น หรืออยากได้ออปชั่นจัดเต็มแบบรุ่น Premium

รีวิว Aion Y Plus Elite

ในส่วนของความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Aion ในประเทศไทย แม้ว่าตอนนี้ Aion จะยังเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในไทย อาจทำให้ลูกค้ามีความกังวลเรื่องศูนย์บริการ ทั้งการเข้าเซอร์วิสตามรอบเช็กระยะ และการซ่อมแซมที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่จากการเกิดอุบัติเหตุ แต่แพลนที่ทาง "ไอออน ประเทศไทย" วางไว้ ก็ถือว่าไม่ธรรมดาครับ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตั้งโรงงานในไทย และกำลังทยอยเปิดศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกภาค ซึ่งตอนนี้ก็มีความคืบหน้าไปมาก และเริ่มเห็นศูนย์บริการ Aion เยอะขึ้น สุดท้ายนี้ หากใครสนใจรถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus ผมแนะนำให้ไปลองขับ ลองนั่ง ลองสัมผัสด้วยตัวเองก่อน ถ้าขับแล้วโดนใจก็จัดเลยครับ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ