How to เลือกระหว่างแผนการบำรุงรักษา กับ แผนการบริการ Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

How to เลือกระหว่างแผนการบำรุงรักษา กับ แผนการบริการ

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 18 January 2567

หากท่านใดมีความสงสัยถึงความแตกต่างระหว่างแผนการบำรุงรักษา (Maintenance Plan) กับ แผนการบริการ (Service Plan) จะเลือกแผนไหนดี วันนี้เลดี้มีข้อมูลเชิงลึกมาอธิบายความแตกต่างของทั้ง 2 แผนนี้ค่ะ 


How to เลือกระหว่างแผนการบำรุงรักษา กับ แผนการบริการ

หลายๆ แบรนด์รถยนต์มีโปรแกรมซ่อมบำรุงรักษาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางแบรนด์ก็มีเฉพาะแผนการบำรุงรักษา (Maintenance Plan) ให้ บางแบรนด์อาจจะมีเฉพาะแผนการบริการ (Service Plan) ให้ หรือหากใจป้ำหน่อยก็อาจจะให้ทั้ง 2 แผนเลยในโปรแกรมเดียว แต่ทีนี้ถ้าจำเป็นที่จะต้องเลือกระหว่าง 2 แผนนี้ คุณจะเลือกแผนไหนดี? เลดี้จะพาไปดูความแตกต่างของทั้ง 2 แผนนี้กันค่ะ 

How to เลือกระหว่างแผนการบำรุงรักษา กับ แผนการบริการ (1)

ก่อนอื่นเลยต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการที่จะใช้งานทั้ง 2 แผนนี้ได้ คุณจะต้องนำรถยนต์ของคุณเข้าบำรุงรักษาตามข้อกำหนดของผู้ผลิต ซึ่งปกติแล้วทั้งแผนการบำรุงรักษาและแผนการบริการจะครอบคลุมการบริการในระยะที่ระบุไว้เท่านั้น กล่าวคือ หากผู้ผลิตระบุไว้ว่าให้เข้ามาเช็คสภาพช่วง 15,000 กิโลเมตร และอนุญาตให้บวกลบได้ไม่เกิน 1,500 กิโลเมตร นั่นหมายถึงคุณจะต้องเข้ารับการบริการครั้งแรกระหว่าง 13,500 ถึง 16,500 กิโลเมตร และที่สำคัญผู้ผลิตจะระยุช่วงเวลาในการเข้ารับบริการด้วย ซึ่งหากคุณไม่ได้เข้ามาใช้บริการในเวลาที่กำหนด โดยปกติจะกำหนดไว้ที่ 1 ปี หากเข้ามาไม่ทันนั่นหมายความว่าจะส่งผลให้โปรแกรมเหล่านั้นของคุณจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ 

How to เลือกระหว่างแผนการบำรุงรักษา กับ แผนการบริการ (2)

แผนการบำรุงรักษา (Maintenance Plan)

สำหรับแผนนี้จะเป็นการให้บริการในส่วนของการบำรุงรักษาเพิ่มเติม อาทิ เกียร์ คลัตช์ ระบบกันสะเทือน ผ้าเบรก และจานเบรก ซึ่งรวมอยู่กับการดูและบำรุงรักษาทั่วไป อาทิ ของเหลวต่างๆ (น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันคลัตช์ น้ำยาหม้อน้ำ เป็นต้น) การให้บริการแผนนี้เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานที่สุด โดยปกติแผนการบำรุงรักษานี้จะไม่ครอบคลุมกับแผนการบริการ กล่าวคือ ในส่วนของค่าบริการ ค่าแรงต่างๆ จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากการซ่อมบำรุง และจะมาพร้อมกับการจำกัดอายุและระยะทาง เช่น ผู้ผลิตกำหนดให้รถยนต์ของคุณอาจจะมีอายุไม่เกิน 5 ปี หรือมีระยะทาง 120,000 กิโลเมตร หลังจากนั้นโปรแกรมนี้ก็จะสิ้นสุดลง สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมต้องตรวจสอบจากทางผู้ผลิต เพราะแต่ละแบรนด์ก็จะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป  

How to เลือกระหว่างแผนการบำรุงรักษา กับ แผนการบริการ (3)

แผนการบริการ (Service Plan)

แผนนี้ก็เป็นโปรแกรมที่เข้าใจได้ง่ายๆ มีความหมายตามชื่อเลย ซึ่งก็คือจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารับบริการ อาทิ ค่าแรง และชิ้นส่วนมาตรฐานที่กำหนดไว้ (สำหรับการบริการโดยเฉพาะ) แต่ไม่รวมค่าอะไหล่ และค่าแรงอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ เช่น ที่ปัดน้ำฝน หรือ ผ้าเบรก 

หากให้เลดี้สรุปก็คือ ตัวเลือกที่ครอบคลุมมากที่สุดใน 2 แผนนี้ก็คือ แผนการบำรุงรักษา (Maintenance Plan) เพราะหากคุณซื้อรถใหม่มือหนึ่ง หรือรถยนต์มือสองไมล์น้อยก็ตาม ซึ่งอาจจะมีการรับประกัน (บางอย่าง) และมีแผนการบริการคงเหลืออยู่ คุณจะต้องทำความเข้าใจถึงขอบเขตการเข้ารับบริการการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ของคุณก่อนการใช้บริการ เพื่อป้องกันการเกิดค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่คุณไม่ทราบมาก่อน และสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายหลังจากที่ซื้อรถยนต์มาได้อีกด้วย 

How to เลือกระหว่างแผนการบำรุงรักษา กับ แผนการบริการ (4)

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ