Pirelli Scorpion Verde™ All Season ใช้วัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ลดแรงต้านการหมุน ส่งผลให้รถประหยัดน้ำมัน และให้การยึดเกาะที่ดีทั้งทางแห้ง ทางเปียก
หากพูดถึงแบรนด์รถกระบะในตลาดเมืองไทยที่ใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวัน และขับสนุกแบบสายลุย ผมว่า Ford Ranger น่าจะเป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ ที่ใครหลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่รุ่น Ford Ranger ก็ยังคงโดดเด่นในเรื่องช่วงล่าง และขุมพลังที่แรงเร้าใจ แต่ปัญหาที่หลายคนพบเจอใน Ford Ranger รุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร คือ กินน้ำมันดุเอาเรื่อง โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองที่รถติด ๆ
วันนี้เราจึงนำ Ford Ranger 3.2 ลิตร คันนี้ มาเปลี่ยนยางใหม่ ซึ่งยางที่ผมเลือกใช้คือ Pirelli Scorpion Verde™ All Season ที่ได้ชื่อว่าเป็นยางรถยนต์สีเขียว เหมาะสำหรับรถยนต์ SUV ,PPV ,รถกระบะ สอดแทรกเทคโนโลยีล่าสุดจาก Pirelli ทั้งในส่วนของวัสดุ โครงสร้าง และดอกยาง ให้ความนุ่มเงียบ ช่วยลดแรงต้าน ส่งผลให้รถประหยัดน้ำมัน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือ ใช้แล้วปลอดภัยทั้งทางแห้ง ทางเปียก แต่ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักยาง Pirelli Scorpion Verde™ All Season ให้มากขึ้น เรามาดูวิธีการเลือกยางให้เหมาะสมกับการใช้งานกันก่อนครับ
เลือกยางอย่างไรให้เหมาะสม
หากคุณพอใจกับขนาดของยางชุดเดิม ก็สามารถเลือกให้เท่ากับของเดิมได้เลย แต่หากอยากได้การทรงตัวและการยึดเกาะที่ดีขึ้น แนะนำให้เพิ่มหน้ากว้างอีกเล็กน้อย เช่น ยางเดิมติดรถมีขนาด 265/60 R18อาจจะเพิ่มเป็น 275/60 R18 เพื่อช่วยให้หน้าสัมผัสของยาง สัมผัสกับถนนได้มากขึ้นกว่าเดิม หรือถ้าอยากให้รถสูงขึ้น ก็เพิ่มตัวเลขชุดกลาง เช่น จาก 60 เป็น 65 เป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูด้วยนะครับ ว่าถ้ายางใหญ่ขึ้นแล้ว เวลาเลี้ยวหรือกระแทกแรง ๆ จะติดซุ้มหรือเปล่า
ในกรณีที่ต้องการบรรทุกหนัก ต้องดูด้วยว่ายางรุ่นที่เราสนใจนั้น รองรับน้ำหนักได้กี่กิโลกรัม และใช้ความเร็วได้สูงสุดกี่ กม./ชม. ซึ่งดูได้จากตัวอักษรบนแก้มยาง
ยางมีมากมายหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ยางที่ใช้สำหรับทางเรียบ หากเอาไปขับลุยอาจเกิดความเสียหาย หรือยางที่เน้นใช้งานบนถนนแห้ง หากเอาไปวิ่งบนถนนเปียกประสิทธิภาพการยึดเกาะจะลดลง เป็นต้น หากเน้นใช้งานทั่วไปอาจเลือกเป็นยางที่ใช้ได้ทุกฤดูอย่างเช่น Pirelli Scorpion Verde™ All Season
Pirelli Scorpion Verde™ All Season เป็นยางที่เน้นใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป ใช้ได้ทุกฤดู วัสดุในการผลิตเป็นนวัตกรรมใหม่ ใช้คอมพาวด์ผสมโพลีเมอร์ในเนื้อยาง ซึ่งจะช่วยให้การยึดเกาะและการเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีค่ามาตรฐานที่ดีที่สุดในการลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิง และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งการมีดอกยางแบบพิเศษนี้จึงช่วยให้สมรรถนะในการขับขี่บนเส้นทางที่สมบุกสมบันเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และรับได้กับทุกสภาพอากาศ
จากรูปด้านบน การออกแบบดอกยาง นอกจากจะมีลวดลายที่สวยงามแล้ว ยังมีผลต่อประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ ดังนี้
- ปรับระยะและลำดับของดอกยางให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อช่วยลดเสียงลรบกวนภายในห้องโดยสาร
- ร่องดอกยางขนาดเล็กจำนวนมากตามแนวยาว และแนวขวาง เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการยึดเกาะ และการควบคุมมากขึ้น
- หน้าสัมผัสขนาดใหญ่ ร่องรีดน้ำ 4 ร่อง มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำดีเยี่ยม ช่วยให้การขับขี่บนพื้นเปียกมีความปลอดภัย
- ปรับโปรไฟล์ยางใหม่ และเลือกใช้วัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีน้ำหนักลดลง และลดแรงต้านการหมุน ส่งผลให้รถประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
ทดสอบการขับขี่
หลังจากที่เราเปลี่ยนยางเสร็จ ทดสอบแรกของเราคือการทดสอบบนทางเรียบ โดยใช้ความเร็วไล่ระดับตั้งแต่ 80-140 กม./ชม. เพื่อทดสอบเสียงของยาง
- ความเร็ว 80 กม./ชม. เก็บเสียงได้ดี ไม่ได้ยินเสียงยางหอน
- ความเร็ว 120 กม./ชม. ได้ยินเสียงเล็กน้อย แต่เบามาก ถือว่ายังเก็บเสียงได้ดีอยู่
- ความเร็ว 140 กม./ชม. ได้ยินเสียงแทบไม่ต่างจากตอนที่วิ่งความเร็ว 120 กม./ชม.
สำหรับการทดสอบบนพื้นผิวขรุขระ ยางซับแรงสะเทือนได้ดี ไม่รู้สึกกระด้าง ส่วนหนึ่งมาจากระบบช่วงล่างของรถรุ่นนี้ที่ซับแรงสะเทือนได้ดีอยู่แล้ว จึงช่วยเสริมให้มีความนุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่ขับผ่านเส้นชะลอความเร็ว จะได้ยินเสียงครืด ๆ แต่รถสั่นสะเทือนน้อยมากครับ ได้ความรู้สึกนุ่มสบาย หากต้องขับขี่ทางไกล ผมว่ายางชุดนี้เงียบสบายหู มีสมาธิในการขับรถมากขึ้น
การทดสอบเข้าโค้งสะพานกลับรถ โดยใช้ความเร็วประมาณ 50-60 กม./ชม. ตัวรถไม่มีอาการลื่นไถล ยังอยู่ในการควบคุมที่ดี มีเพียงแค่เสียงของยางที่ดังเอี๊ยดไปกับพื้นผิวถนนเท่านั้น ต่อด้วยการขับในทางโค้งแบบปกติบนทางด่วนที่ความเร็ว 130 กม./ชม. ยางยังคงยึดเกาะถนนได้ดีเช่นเดิม
ต่อด้วยการขับทดสอบขับเปลี่ยนเลนแบบรวดเร็ว จำลองสถานการณ์เปรียบเสมือนว่าโดนรถตัดหน้าที่ความเร็ว 100 กม./ชม. จากการทดสอบตัวรถมีอาการโยนเล็กน้อยเนื่องจากเป็นรถยกสูง แต่ระบบช่วงล่างยังยึดเกาะกับพื้นผิวถนนได้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ ซึ่งการใช้ความเร็วขนาดนี้หากเป็นยางที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะที่ไม่ดีพอ อาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้ครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระบบช่วงล่างของรถด้วยนะครับ อย่าง Ford Ranger ช่วงล่างดีอยู่แล้ว พอได้อย่างที่ดีอย่าง Pirelli Scorpion Verde™ All Season ก็ช่วยเสริมให้การยึดเกาะถนนดีขึ้นนั่นเองครับ
อีกหนึ่งจุดเด่นของยางรุ่นนี้คือ เป็นยางที่ใช้แล้วประหยัดน้ำมัน ใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยลดแรงต้าน อาจไม่ได้เห็นผลแบบทันทีทันใด แต่ในระยะยาวจะส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงประหยัดขึ้นครับ
สรุปโดยรวม Pirelli Scorpion Verde™ All Season ยางชุดนี้เหมาะสำหรับการเดินทางทั้งในเมือง นอกเมือง ใช้ได้กับทุกฤดู ได้ความนุ่มนวลที่ลงตัว ยึดเกาะถนนได้ดีบนทางแห้งและเปียก อีกทั้งยังช่วยให้รถของคุณประหยัดน้ำมันอีกด้วยครับ
สำหรับท่านใดที่สนใจ ตอนนี้ Pirelli by ATV กำลังจัดโปรโมชั่นเลยครับ
- เมื่อเปลี่ยนยาง 4 เส้น ลงทะเบียนรับฟรี การรับประกันบาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม.
- ผ่อนยาง 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เฉพาะร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ)
ช่องทางการจัดจำหน่าย
- ร้านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ ค้นหาตัวแทนใกล้บ้านท่านได้ที่ Facebook : Pirelli Authorized Distributor by ATV Thailand
- B-Quik และ MMS ทุกสาขา
- Shopee และ Lazada เพียงค้นหาคำว่า Pirelli Official Store
ช่องทางติดต่อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook Page: Pirelli Authorized Distributor by ATV Thailand
- Line OA : @Pirelli.thailand
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น