MG HS PHEV (Plug-in Hybrid) ปรับราคาใหม่ ถูกลงเยอะทำให้รถมีความน่่าสนใจขึ้น หรือว่าไม่พร้อมกับรถไฟฟ้ามาที่ ปลั๊กอินไฮบริดแทนดีนะ
MG HS PHEV
ราคาอย่างเป็นทางการ(หมดโปรโมชั่นแล้วแต่เชื่อว่าจะยังมีของอยู่)
- MG HS PHEV D Sunroof เดิม
1,299,000ใหม่ 999,000 บาท - MG HS PHEV X Sunroof เดิม
1,379,000ใหม่ 1,099,000 บาท
* ส่วนลด 300,000 บาท ในรุ่น PHEV D Sunroof / ส่วนลด 280,000 บาท ในรุ่น PHEV X Sunroof สำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่วันที่ 16 – 31 มกราคม 2567 และ รับรถยนต์กับผู้จำหน่ายรถยนต์ MG อย่างเป็นทางการทุกแห่งทั่วประเทศภายในวันที่ 31 มกราคม 2567 เท่านั้น
MG HS PHEV มาพร้อม MG Passion Service
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
- แบตเตอรี่รับประกันนาน 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
MG HS PHEV Minorchange เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม มีดังนี้
- เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ PHEV D ตัวเริ่มต้น
- เปลี่ยน กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ Digital Burning Grille
- เปลี่ยน ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ Quad LED Projector
- เปลี่ยน กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
- เปลี่ยน ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
- เปลี่ยน กันชนท้าย ดีไซน์ใหม่
- เปลี่ยน ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Bi-Colour
- เพิ่ม ระบบ AR NAVIGATION แสดงแผนที่นำทางเสมือนจริงบนมาตรวัด
- อัพเกรด เครื่องเสียง รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
- เพิ่ม ระบบช่วยเบรกฉุกเฉืนอัตโนมัติ AEB
- ปรับราคาเพิ่มขึ้น 20,000 บาท
Dimension มิติตัวถัง
- ยาว 4,574 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,876 มิลลิเมตร
- สูง 1,664 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 37 ลิตร
Powertrain ขุมพลัง
เครื่องยนต์เบนซิน Direct Injection 4 สูบ แถวเรียง Blue Core ขนาด 1.5 ลิตร 1,490 ซีซี. GDI พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 74.0 x 86.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 กำลังสูงสุด 162 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,300 รอบ/นาที
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ EDU II Gearbox
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังรวมสูงสุด 284 แรงม้า 480 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion จำนวน 6 โมดูล ขนาด 16.6 kW พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Coolant สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้
ตัวเลขเคลมจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.5 วินาที
- วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทางไกลสุด 67 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
รายละเอียด Option ของ MG HS PHEV (Plug-in Hybrid) Minorchange
Exterior ภายนอก
- ช่วงล่าง
- ด้านหน้า McPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
- ด้านหลัง Multi-Link พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบเบรก
- ด้านหน้า ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน
- ด้านหลัง ดิสก์เบรก
การทดสอบ MG HS PHEV
แม้ว่า MG HS PHEV จะเปิดตัวมาพักใหญ่แล้วแต่กระแสอาจจะไม่ปังมากเท่าไหร่เพราะต้องยอมรับว่ากระแสในฝั่งรถกลุ่ม EV คนให้ความสนใจมากกว่ารวมไปถึงมีหลายยี่ห้อให้เลือกพร้อมราคาที่แข็งขันกันแบบเลือดสาดเลย พร้อมทั้งรถในกลุ่ม ไฮบริดก็พากันเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง
แล้วทำไมเรายังต้องสนใจรถ ปลั๊กอินไฮบริดด้วยว แน่นอนว่าจะเด่นคือสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ สามารถเสียบชาร์จที่บ้านได้นั้นคือ ความแตกต่างและน่าสนใจ เพราะต้องยอมรับว่าบางคนอยากจะใช้รถไฟฟ้าแต่ยังไม่พร้อมด้วยปัญหาหลายอย่าง ปลั๊กอินไฮบริดแทนรถไฟฟ้าได้ไหมต้องบอกว่าได้ถ้าคุณไม่ต้องเดินทางไกลมากๆ เพราะอย่าง MG HS PHEV สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ 67 กิโลเมตร จริง(ในเมืองรถติดสามารถวิ่งได้) ถ้าคุณวิ่งแต่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่รวมไปถึงไม่ไกลมากบอกเลยว่าไม่ต้องใช้น้ำมันเลย
แต่ถ้าวิ่งทางไกลก็สามารถชาร์จได้ แต่ต้องยอมรับกันว่าถ้าวิ่งทางไกลระยะวิ่งด้วยไฟฟ้าจะลดน้อยลงตามไปด้วยเพราะด้วยความเร็วในการวิ่งปริมาณการกินไฟก็เพิ่มตามความเร็วด้วยเช่นกัน แต่จุดเด่นของรถปลั๊กอินแน่นอนว่าสามารถวิ่งด้วยน้ำมันได้ด้วยดังนั้นก็ไม่ต้องต้องกังวลอะไรในการเดินทางแต่อย่างไร แต่ถ้ามีเวลาก็สามารถชาร์จไฟได้ด้วยเป็นการเพิ่มอัตราการประหยัดได้อีกหนึ่งทาง
แต่จุดเด่นอีกอย่างสำหรับรถปลั๊กอินไฮบริดคือพละกำลังที่เรียกว่าแรงเหลือก็ว่าได้ เพราะถ้าเทียบกับรถในกลุ่มไฮบริดพละกำลังจะสู้ปลั๊กอินไม่ได้เพราะด้วยมอเตอร์ในการขับเคลื่อนนั้นมีความใหญ่กว่าสามารถวิ่งได้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้จึงทำให้มอเตอร์มีพละกำลังที่มากกว่า ดังนั้นเมื่อทำงานรวมกับเครื่องยนต์ เรียกว่ามีเเรงระดับรถสปอร์ตเลยก็ว่าได้ MG HS PHEV ก็เป็นหนึ่งในนั้น ในการเร่งแซง หรือกดคันเร่งออกตัวบอกเลยว่าสบายๆ ไม่ต้องลุ้นรถทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว
ในส่วนอัตราการประหยัดน้ำมัน เมื่อวิ่งทางไกลต้องยอมรับว่ายังทำอัตราการประหยัดไม่ค่อยดี ถ้าสังเกตจากรอบเครื่องยนต์จะเห็นได้ว่าค่อนข้างสูงทำให้อัตราการกินน้ำมันยังไม่ค่อยน่าประทับใจ ถ้าไม่มีไฟฟ้าช่วยจะกินอยู่ประมาณ 11-13 km/L แต่ถ้ามีระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วยจะได้ประมาณ 18-19km/L แต่ถ้าวิ่งในเมืองมีไฟช่วยจะได้ 25-26km/L เลยทีเดียว เรียกว่าแตกต่างกันมาก (ถ้ารอบเครื่องไม่สูงมากจะประหยัดได้ดี)
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆก็ต้องบอกว่ารถในฝั่นจีนจัดเต็มมากๆมีให้เป็นใช้ไม่หมดทุกระบบ แต่ใช้ดีหรือเปล่าอีกเรื่อง บางระบบก็ต้องปิดจะยังทำงานไม่ค่อยน่าประทับใจ เช่นระบบดึงพวงมาลัยกลับในอยู่ในเลนเรียกดึงแบบใจหาย ต้องปิดกันไปประคองพวงมาลัยเองปลอดภัยกว่า
- โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ
- ECO
- Normal
- Sport
- Super Sport
- EV Mode
- กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Interactive Ambient Light ปรับเปลี่ยนได้ 64 สี และ ปรับตามโหมดการขับขี่
ระบบความบันเทิง
- หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
- รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
- ระบบ i-SMART สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย
- สั่งเปิด-ปิดระบบปรับอากาศ
- เครื่องเสียง
- โทรออก และ รับสาย
- สั่งเปิด-ปิด Sunroof
- ระบบสั่งงานบนหน้าจอ
- ระบบนำทาง พร้อมรายงานจราจร Real Time
- แนะนำร้านอาหาร – ที่พัก
- เลขาส่วนตัว i-Call
- โทรออก-รับสายในกรณีฉุกเฉิน
- ระบบสั่งงานบน Smart Phone
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์
- เปิดระบบปรับอากาศ
- ล็อค-ปลดล็อคประตู
- วางแผนการเดินทาง Travel Plan
- ระบบ Find My Car
- ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์
- ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบสตรีมมิ่ง
- ระบบแผนที่นำทาง Navigation System
- ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE 8.1 Sound System พร้อม SubWoofer
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก EBA
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR
- ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้พลิกคว่ำ ARP
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC : Adaptive Cruise Control
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโมัติ IHC
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบ Auto Vehicle Hold
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถเสี่ยงต่อการชนคันหน้าขณะขับขี่ FCW
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
- ระบบช่วยเตือนการปิดประตู DOW
- ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ Speed Sensing Door Lock
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉืนอัตโนมัติ AEB
- ระบบ KERS : Kinetic Energy Recovery System
- ชาร์จพลังงานระหว่างการขับขี่ Regenerative ปรับได้ 3 ระดับ
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
สรุป MG HS PHEV
ต้องบอกกันตามตรงว่า ราคาที่ปรับลงมาในครั้งนี้ทำให้รถน่าสนใจขึ้นมากเพราะก่อนหน้านี้เรียกว่ากระแสเงียบมาก จุดเด่นจริงสำหรับ MG HS PHEV คือห้องโดยสารที่กว้างขวาง ความแรงมีให้เพียงพอ ถ้าใช้ในเมืองส่วนใหญ่สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าได้จริง ทำให้อัตราการประหยัดดีมากๆ
ถ้าถามว่าแทนรถไฟฟ้าได้ไหมบอกเลยว่าได้ถ้าคุณยังไม่พร้อม MG HS PHEV เป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนึ่งรุ่น
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น