TATA Super Ace โฉมไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมกับราคาเริ่มต้นสุดเร้าใจ 385,000 บาท ซึ่งราคานี้ บอกเลยว่าถูกที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับรถกระบะดีเซลรุ่นอื่น ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยตอนนี้
จริง ๆ แล้ว TATA Super Ace มีขายในไทยมาได้สักพักใหญ่แล้วครับ จุดเด่นของรุ่นนี้คือ ราคาไม่แพง แถมยังได้เป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล CRDI ขนาด 1.4 ลิตร มีพื้นที่บรรทุกเยอะ พื้นกระบะเรียบไม่ติดซุ้มล้อ เปิดได้ 3 ด้าน ซึ่งตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ทำเป็นรถฟู๊ดทรัคขายอาหารแบบเคลื่อนที่ ร้านตัดผมเคลื่อนที่ รวมถึงธุรกิจขนส่งที่ต้องการเนื้อที่เยอะ ในพิกัดน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 1 ตัน เป็นต้น หากดูที่ราคาและรูปทรงของรถ คู่แข่งตรงตัวของเจ้าคันนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Suzuki Carry นั่นเองครับ
TATA Super Ace รุ่นไมเนอร์เชนจ์ นอกจากจะเปิดราคามาได้น่าสนใจแล้ว ในโฉมใหม่นี้ ยังได้มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ด้านหน้าเล็กน้อย พร้อมอัปเกรดระบบระบายความร้อนใหม่ เปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมระบบปรับอากาศ กระจกไฟฟ้าคู่หน้า เบาะนั่งแบบหนัง PVC เครื่องเล่นวิทยุ พวงมาลัยไฟฟ้าแบบยืดหดได้ และเป็นเบาะแบบ 2 ที่นั่ง
บทความนี้ออโต้สปินน์ได้มีโอกาสนำ TATA Super Ace ไมเนอร์เชนจ์ มาขับทดสอบอยู่หลายวัน จากการใช้งานก็มีทั้งจุดที่ชอบ และจุดที่ไม่ชอบ เลยอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเล่าสู่กันฟังครับ
มิติตัวรถ TATA Super Ace ไมเนอร์เชนจ์
- ยาว 4,340 มม.
- กว้าง 1,565 มม.
- สูง 1,858 มม.
- ฐานล้อ 2,380 มม.
เริ่มกันที่ขนาดของตัวรถ ถ้าใครเคยเห็นรถคันจริง เมื่อมองผิวเผินเหมือนจะเป็นรถที่ยาวมาก ซึ่งจุดที่ทำให้ตัวรถดูเหมือนยาว ก็คือช่วงกระบะท้ายครับ ส่วนตรงหัวเก๋งจะเป็นแบบหน้าสั้น ทำให้ความยาวในภาพรวมจะใกล้เคียงกับรถเก๋งเลยล่ะครับ ซึ่งข้อดีก็คือ เป็นรถที่จอดง่ายไม่กินพื้นที่ ถ้าตัวรถเปล่าแบบยังไม่ได้ต่อเติมหลังคา คุณสามารถขับไปจอดบนห้าง หรือชั้นใต้ดินได้ปกติ
พื้นที่กระบะท้าย TATA Super Ace ไมเนอร์เชนจ์
- ยาว 2,630 มม. (ยาวกว่า Suzuki Carry)
- กว้าง 1,460 มม. (แคบกว่า Suzuki Carry)
- สูง 300 มม. (เตี้ยกว่า Suzuki Carry)
ในส่วนของกระบะท้าย มีพื้นที่เยอะเพียงพอต่อการใช้งาน และเป็นพื้นเรียบไม่ติดซุ้มล้อ สามารถเปิดได้ 3 ด้าน ขนถ่ายสัมภาระได้ง่าย หากเทียบขนาดกระบะท้ายกับ Suzuki Carry จะพบว่า Suzuki Carry มีขนาดความกว้าง และความสูงของกระบะท้ายมากกว่า แต่ถ้าเทียบความยาว กระบะท้ายของ TATA Super Ace จะยาวกว่าครับ
ขุมพลังเครื่องยนต์ TATA Super Ace ไมเนอร์เชนจ์
TATA Super Ace ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็กอินเจคชั่น เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 1.4 ลิตร 4 สูบ ให้พละกำลังสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตร ที่ 1,800-3,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ถือเป็นจุดได้เปรียบหากเทียบกับ Suzuki Carry ที่ใช้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนเมื่อบรรทุกของหนัก ในช่วงการขับออกตัวหากเป็นเครื่องยนต์ดีเซลจะมีพละกำลังที่ดีและขับออกตัวง่ายกว่า ใช้รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่า ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า
ทดสอบขับขี่ TATA Super Ace ไมเนอร์เชนจ์
การทดสอบในครั้งนี้ เป็นการขับแบบรถเปล่าไม่มีของบรรทุกนะครับ ระหว่างที่นำมาทดสอบ ผมจะใช้รถคันนี้แทนรถส่วนตัวไปเลย เพราะอยากลองใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
ทันทีที่ขึ้นมาบนรถ สิ่งแรกที่ชอบคือ มุมมองตำแหน่งที่นั่งคนขับดีมาก มองเห็นภายนอกได้ชัดเจน มุมอับน้อย เวลาขับโผล่หัวออกจากซอย หน้ารถของเราจะไม่ยื่น ส่วนจุดที่เป็นปัญหาสำหรับผมคือ แป้นครัชท์อยู่ชิดกับแกนพวงมาลัยมากเกินไป หากใครที่หน้าเท้าใหญ่ หรือใส่รองเท้าใหญ่ เวลาขับคันนี้จะต้องใช้วิธีเหยียบแป้นครัชท์แค่ปลายเท้า หรือไม่ก็ต้องถอดรองเท้าขับรถไปเลย ไม่งั้นรองเท้าเราจะไปเบียดกับแกนพวงมาลัย
การขับออกตัว ด้วยความที่เจ้าคันนี้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล เพียงแค่ยกครัชท์เบาๆ โดยไม่ต้องเติมคันเร่ง ตัวรถก็เคลื่อนที่ให้เลยครับ ต่างจากรถเครื่องยนต์เบนซิน ที่เวลายกครัชท์เราจะต้องเติมคันเร่งไปด้วย
ในช่วงที่รถติดหนัก ๆ ผมว่ารุ่นนี้เป็นรถที่ขับง่ายมากครับ ครัชท์นิ่มไม่เมื่อยเท้า เกียร์เข้าง่าย อัตราเร่งอยู่ในระดับพอใช้ พอถึงช่วงถนนโล่ง ผมได้ลองขับไล่ระดับเกียร์ไปเรื่อย ๆ อัตราทดเกียร์ลงตัว และอัตราทดเฟืองท้ายที่ได้มีการปรับใหม่เป็น 4.11 ส่งกำลังไปที่ล้อแบบรอบไม่จัดมาก กำลังของเครื่องยนต์ไม่ตก สามารถใช้ความเร็วจนไปตันที่ท็อปสปีด 125 กม./ชม. ได้ไม่ยาก
แม้เจ้าคันนี้จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 125 กม./ชม. แต่ความเร็วที่ปลอดภัย ผมแนะนำว่าไม่ควรขับเกิน 100 กม./ชม. ครับ เพราะล้อมีขนาดกว้างไม่มาก หน้ายางสัมผัสผิวถนนได้น้อย หากใช้ความเร็วเกินกว่านี้จะเริ่มรู้สึกหวิว (ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมวิ่งแบบรถเปล่า ท้ายมันเลยเบา) ถ้าบรรทุกของด้านท้ายสัก 300 กก. รถจะนิ่งขึ้นและขับเข้าโค้งได้ดีกว่านี้
สำหรับการขับทางไกล จากการใช้งานผมว่ารุ่นนี้ไปได้สบายครับ ขับยืนพื้นซัก 90 กม./ชม. จะทำให้เครื่องยนต์ไม่เค้นกำลังมาก และช่วงที่เป็นทางขึ้นเนิน หรือจังหวะที่ต้องเร่งแซงรถคันหน้า เพียงแค่เหยียบคันเร่งส่งแบบรถทั่วไป ก็ไปได้แบบไม่ต้องลุ้นครับ ในรุ่นนี้ได้มีการอัปเกรดระบบระบายความร้อนใหม่ จากการทดสอบขับแบบรถติดจัด ๆ แดดร้อน ๆ หรือเหยียบคันเร่งแช่แบบเค้นกำลังนาน ๆ เกจ์ความร้อนก็ยังคงปกติครับ
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน TATA Super Ace
อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้น ว่าในระหว่างที่เอามาขับทดสอบ ผมได้ใช้คันนี้แทนรถส่วนตัว ไม่ว่าจะขับไปทำงาน ไปเที่ยว ไปทำธุระ ก็จะใช้คันนี้ตลอด เจอทั้งรถติดและถนนโล่งปะปนกันไป ขับตามสภาพการจราจร ไม่ได้ขับแบบเน้นประหยัด อัตราสิ้นเปลืองที่ผมทำได้อยู่ที่ 17.9 กม./ล. ถือว่าเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันใช้ได้เลยครับ
สรุปโดยรวม หากเทียบกับราคาตัวรถ 385,000 บาท ถือว่าราคาคุ้มมากครับ ได้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอลเรลเทอร์โบ 1.4 ลิตร ที่เพียงพอสำหรับการบรรทุกประมาณ 1 ตัน ในส่วนของงานประกอบและวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายใน จะเน้นใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกเป็นหลัก ส่วนออปชั่นต่าง ๆ ที่มีให้ก็ครอบคลุมการใช้งานระดับนึงครับ
TATA Super Ace ไมเนอร์เชนจ์ มีรูปแบบตัวถังที่ผ่านการตกแต่งให้เลือก 4 แบบ ได้แก่
- Standard ราคา 385,000 บาท
- Food Truck ราคา 445,000 บาท
- Shuttle ราคา 505,000 บาท
- Cargo ราคา 515,000 บาท
หากท่านใดสนใจ สามารถรับชมตัวจริงได้ที่โชว์รูม TATA ทุกสาขาครับ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น