NETA V vs. NETA V-II Share this

NETA V vs. NETA V-II

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 04 April 2567

พาชมความแตกต่างระหว่าง NETA V และ NETA V-II ที่เป็นรุ่น Minor Change นอกจากหน้าตาทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่เปลี่ยนไป ยังมีอะไรที่อัพเดทใหม่บ้าง เดี๋ยวเลดี้พาไปชมค่ะ 


NETA V vs. NETA V-II

ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ที่เป็นที่นิยมในบ้านเราจริงๆ สำหรับ NETA V ด้วยราคาของน้องที่จับต้องได้ เข้าถึงง่ายในทุกๆ ตลาด และด้วยขนาดของตัวรถมีพิกัดเทียบเท่ากับ Honda Jazz, Honda City Hatchback, Toyota Yaris และ Mazda 2 Hatchback ซึ่งเป็น Segment ยอดฮิตในบ้านเราอยู่แล้วด้วย จึงทำให้ทิศทางของ NETA V ยังคงสว่างสดใส ถือกำเนิดรุ่น Minor Change ซึ่งก็คือ NETA V-II ออกมา วันนี้เลดี้จะพาไปชมความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นกันค่ะ

NETA V vs. NETA V-II Cover

 

การออกแบบและดีไซน์ภายนอก 

เริ่มต้นกันด้วยในรุ่น NETA V มาในรูปแบบ Compact Crossover ยกสูง แบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง เป็นรถยนต์ B-Segment กระจังหน้าแบบปิดทึบตามสไตล์ของรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีช่องดักลมด้านล่างเพื่อใช้งานกับระบบระบายความร้อนต่างๆ ของตัวรถ ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจกเตอร์ฮาโลเจน พร้อมไฟ DRL แบบ LED เสริมความโดดเด่นในการขับขี่ช่วงกลางวัน ใต้ป้ายทะเบียนรถจะเป็นช่องดักลมเข้าสู่ระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ มาพร้อมกับเซ็นเซอร์เตือนการชนด้านหลัง และกล้องมองหลังความคมชัดสูง

NETA V (1)

NETA V-II (1)

สำหรับการเปลี่ยนแปลงภายนอกของ NETA V-II มีการปรับโฉมใหม่ให้ดูมีสไตล์มากยิ่งขึ้น โดยการเปลี่ยนกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ติดตั้งไฟหน้าใหม่เป็นแบบ Projector Lens LED เพิ่มการตกแต่งด้วยโครเมียมบริเวณชายล่างรอบคัน ในส่วนของด้ายท้ายมีการดีไซน์กันชนหลังใหม่ มาพร้อมกับไฟท้ายดีไซน์ใหม่ เป็นแบบ LED Bar รวมถึงฝาท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมติดตั้งก้านปัดน้ำฝนด้านหลังให้แล้วด้วย

 

การออกแบบภายในห้องโดยสาร

NETA V พื้นที่โดยสารโดยรวมถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับ Toyota Yaris แต่ตำแหน่งของเบาะนั่งจะอยู่ใกล้กับพื้นรถมากพอสมควร ตัวเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนั่งสบาย มาพร้อมกับหน้าจอมัลติมีเดียขนาด 14.6 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นภาษาไทย ควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส มองเผินๆ เหมือน Tablet ขนาดใหญ่ รองรับการเชื่อมต่อมือถือผ่านระบบ Bluetooth และ Wifi หน้าจอเรือนไมล์ของตัวรถเป็นแบบดิจิตอล วางเป็นแนวยาวอยู่ด้านบนของคอนโซลบอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน พวงมาลัยไฟฟ้ามัลติฟังก์ชั่นปรับระดับไม่ได้ ระบบเกียร์อยู่ที่ก้านพวงมาลัยด้านขวา เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับแมนนวลทั้งหมด สามารถปรับได้เฉพาะการเลื่อนขึ้นหน้า-ถอยหลัง และเอนเบาะ ไม่สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ มีช่องชาร์จ USB-A มาให้ 1 ช่อง

สำหรับในส่วนของพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง มีความจุทั้งหมด 500 ลิตร โดยสามารถเพิ่มพื้นที่สัมภาระได้ด้วยการพับเบาะนั่งแถวหลังลง จะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้เป็น 1,150 ลิตร แต่เบาะนั่งแถว 2 ไม่สามารถแยกพับได้ ดังนั้นถ้าจะพับก็ต้องพับทั้ง 2 เบาะพร้อมกัน 

NETA V (2)

NETA V-II (2)

NETA V-II ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงของภายใน จะมีสีเพิ่มมาให้ใหม่โดยที่จะล้อกับทางสีของตัวถัง เช่น หากตัวถังเป็นสีฟ้า Baby Blue ภายในจะเป็นสีขาว - ฟ้า แต่หากว่าตัวถังเป็นสีชานม Milk Tea ภายในจะเป็นสีขาว -ดำ

 

ขุมพลังการขับขี่ 

NETA V มาพร้อมกับพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP 38.5 kWh มอเตอร์เดี่ยว Permanent Magnet Synchronous ผลิตพละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า มีแรงบิด 150 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุด 384 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) ทำงานควบคู่กับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า สามารถทำความเร็วจาก 0-50 กิโลเมตร / ชั่วโมง ภายใน 3.9 วินาที Top Speed อยู่ที่ 124 กิโลเมตร / ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบ AC type 2 ที่ 6.6 kW และ DC CCS2 สูงสุด 50 kW

NETA V (3)

NETA V-II (3)

NETA V-II มีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจากเดิมมีความจุ  38.5 kWh เปลี่ยนเป็น 36.1 kWh ยังคงใช้มอเตอร์เดี่ยว Permanent Magnet Synchronous ที่ให้พละกำลังเท่าเดิม ที่เปลี่ยนแปลงคือระยะทางการขับขี่สูงสุด เหลือ 382 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) ลดลงไป 2 กิโลเมตร 

 

ระบบความปลอดภัย 

NETA V มีระบบความปลอดภัยดังนี้ มีโครงสร้างตัวถังนิรภัย HSS Body, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, กล้องมองหลัง, สัญญาณกะระยะถอยหลัง, ระบบเบรกมือไฟฟ้า, Auto Vehicle Hold, ABS, ระบบกระจายแรงเบรก, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถออกตัว, ไฟ Follow Me Home และ จุดยึด ISOFIX

ในส่วนของระบบอำนวยความสะดวก อาทิ ระบบ V2L จ่ายไฟฟ้าออกสู่ภายนอก กำลังสูงสุด 3.3 kW, Cruise Control ระบบล็อกความเร็ว, ช่องชาร์จ USB-A 3 จุด รองรับการเชื่อมต่อกล้องหน้ารถ, ไฟหน้าเปิด/ปิด อัตโนมัติ และ ระบบคันเร่งเดียว One-Pedal ปรับระดับได้

NETA V (4)

NETA V-II (4)

ในส่วนของระบบความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามาใน NETA V-II จะเป็นระบบความปลอดภัยขั้นสูง ADAS ซึ่งประกอบด้วย ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB), ระบบเตือนเมื่อเบี่ยงออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW), ระบบป้องกันรถเบี่ยงออกนอกเลน Lane Keeping Assist (LKA), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วตำ Traffic Jam Assist (TJA), ระบบแจ้งเตือนรถคันหน้าเคลื่อนที่ Front Vehicle Start Alert (FVSA) และ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (AHB)

 

NETA V-II รุ่นย่อย

คุณจะได้รับทั้งหมดที่เพิ่มมาในรุ่น NETA V-II ในราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเริ่มต้นที่ 549,000 บาท ซึ่งเป็นราคาเดิมเดียวกับในรุ่น NETA V เรียกว่าคุ้มก็น่าจะน้อยไป เอาเป็นว่าทาง NETA คืนกำไรให้ลูกค้าน่าจะดีกว่า สำหรับใครที่สนใจชมตัวจริงของ NETA V-II ยังสามารถเข้าชมได้ที่งานมอเตอร์โชว์ 2024 เมืองทองธานี จนถึงวันที่ 7 เมษายนนี้ หรือหากใครไม่สะดวกก็สามารถเข้าชมได้ที่โชว์รูม NETA ทุกสาขา 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ