เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เลิกผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 Share this

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เลิกผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12

Wongsupat
โดย Wongsupat
โพสต์เมื่อ 30 August 2567

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายเครื่องยนต์ W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังในตำนานอย่างเป็นทางการ การตัดสินใจครั้งสำคัญในการยุติการผลิต เพื่อเดินหน้าต่อในกลยุทธ์ Beyond100 ปูทางสู่อนาคตที่จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะสูงแบบ Ultra High Performance Hybrid


เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เลิกผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมจัดแปลอักษรส่งท้ายการผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 พร้อมจัดพิธีอำลาสุดยอดขุมพลังสมรรถนะสูงลำดับสุดท้ายในตำนานอย่างเป็นทางการ ณ โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งจะถือเป็นบทสรุปในหน้าประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส พร้อมกับการสิ้นสุดสายการผลิตอัครยนตรกรรมรุ่น Bentayga, Continental GT และ Flying Spur ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 มามากกว่า 100,000 เครื่องนับตั้งแต่การเปิดตัวเครื่องยนต์รุ่นดังกล่าวในรุ่น Continental GT เจเนอเรชันแรก ในปี 2546 ซึ่งการตัดสินใจครั้งสำคัญในการยุติการผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ Beyond100 ที่ปูทางให้เบนท์ลีย์ มอเตอร์สเป็นผู้นำด้านการผลิตอัครยนตรกรรมที่ยั่งยืนของโลก

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เลิกผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 2024

เพื่อส่งท้ายเครื่องยนต์ระดับไอคอนนิก เบนท์ลีย์ มอเตอร์สได้มีการจัดงานเลี้ยงให้กับทีมนักวิจัยและทีมประกอบเครื่องยนต์รุ่น W12 ณ Bentley’s Heritage Garage ในเมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งแขกผู้ร่วมงานได้มารวมตัวกันเพื่อแปลอักษรเป็นรูป ‘W12’ เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกใน Pyms Lane Plaza สำหรับทีมนักวิจัยและทีมประกอบยังได้รับของที่ระลึกเป็นลูกสูบเครื่องยนต์รุ่น W12 เพื่อเป็นการรำลึกถึงช่วงเวลาที่สำคัญนี้

Andreas Lehe หนึ่งในคณะกรรมการฝ่ายผลิต เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวว่า “เครื่องยนต์รุ่น W12 มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์หน้าสำคัญนี้ร่วมกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งการเปิดตัวเครื่องยนต์รุ่น W12 ได้พลิกโฉมหน้าของเบนท์ลีย์ในชั่วข้ามคืน เราจะจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะ Game Changer อย่างแท้จริง พร้อมความรู้สึกภาคภูมิใจในการออกแบบ พัฒนา และผลิตเครื่องยนต์ระดับไอคอนนิกของประเทศอังกฤษ”

เครื่องยนต์รุ่น W12 เทอร์โบคู่ความจุ 6.0 ลิตรที่ถือเป็นเครื่องยนต์ขนาด 12 สูบที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยขุมพลังที่เน้นสมรรถนะรุ่นใหม่เพื่อเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของเบนท์ลีย์ สำหรับเครื่องยนต์แบบ Ultra High Performance Hybrid ประสิทธิภาพสูงจะทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปรุ่น V8 อันทรงพลังและมีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ชั้นสูง ซึ่ง 'การชาร์จด้วยไฟฟ้า' จะใช้ระบบไฮบริดที่ต่อยอดจากระบบเครื่องยนต์แบบเบนซิน-ไฟฟ้าที่มีอยู่แล้วของเบนท์ลีย์

เครื่องยนต์แบบ Ultra High Performance Hybrid กับความสามารถในการผลิตพละกำลังที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาจะขับเคลื่อนซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ที่มีไดนามิก พร้อมกับการตอบสนองที่ดีเยี่ยมและประสิทธิภาพในการขับขี่ โดยอัครยนตรกรรมทุกรุ่นจะมาพร้อมกับระบบส่งกำลังไฟฟ้าใหม่ที่สามารถผลิตพละกำลังมากกว่าเครื่องยนต์รุ่น W12 และมีอัตรการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (WLTP) ที่ต่ำเพียง 50 กรัม ต่อ กิโลเมตร

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เลิกผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 2024 2

20 ปีแห่งความเป็นเลิศทางวิศวกรรม

เครื่องยนต์รุ่น W12 รังสรรค์ขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างความประณีตและพละกำลังของขุมพลังขนาดความจุ 12 กระบอกสูบในขนาดที่พอเหมาะโดยมีพื้นฐานมาจากเครื่องยนต์รุ่น V6 แนวตั้ง 2 เครื่องที่ใช้เพลาข้อเหวี่ยงร่วมกัน เครื่องยนต์รุ่น W12 จึงมีขนาดที่กะทัดรัดกว่าเครื่องยนต์รุ่น V12 ทั่วไปถึง 24% เข้ากับเส้นสายที่บึกบึนของ Continental GT ที่เปิดตัวในปี 2546

ระบบดูดอากาศ ระบบไอเสีย ระบบเทอร์โบชาร์จ และระบบอินเตอร์คูลเลอร์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาโดยวิศวกรของเบนท์ลีย์ได้ทำให้ Continental GT รุ่นปี 2546 มีพละกำลังกว่า 552 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 479 ปอนด์-ฟุตที่รอบเครื่อง 1,600 รอบต่อนาที ถึง 6,100 รอบต่อนาที Continental GT จึงมีแรงบิดมหาศาลที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ทุกระดับอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเบนท์ลีย์

การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ขนาดความจุ 12 กระบอกสูบ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และด้วยความเร็วสูงสุดเกือบ 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมงร่วมกับรูปลักษณ์อันมีเสน่ห์ของ Continental GT พิสูจน์ให้เห็นถึงความนิยมไปทั่วโลก โดยได้เจาะตลาดใหม่และครองใจลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปี

เครื่องยนต์รุ่น W12 แต่ละเครื่องประกอบขึ้นด้วยมือในเมืองครูว์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง โดยต้องประกอบชิ้นส่วนแยกกันกว่า 2,600 ชิ้นอย่างพิถีพิถัน ลูกสูบและก้านสูบถูกจับเป็นคู่ที่สมดุลเพื่อให้เครื่องยนต์ที่ประกอบสำเร็จแล้วหมุนได้อย่างราบรื่นในระหว่างการทดสอบและส่งมอบพละกำลังที่น่าเหลือเชื่อ เครื่องยนต์รุ่น W12 ที่ประกอบเสร็จสิ้นและผ่านการทดสอบการรั่วไหล การทดสอบความเย็น และการทดสอบการเผาไหม้ในอุณหภูมิสูงแล้วจะมอบสมรรถนะในการขับเคลื่อน Continental GT Speed ​​จาก 0-100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3.6 วินาที และทำความเร็วได้ถึง 335 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เลิกผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 2024 3

ส่งท้ายเครื่องยนต์รุ่น W12

การมาถึงของเครื่องยนต์แบบ Ultra Performance Hybrid ใหม่กับพละกำลังกว่า 782 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร ถือเป็นการประกาศสิ้นสุดการผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 ณ โรงงาน เมืองครูว์อย่างเป็นทางการ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเครื่องยนต์รุ่นW12 ในตำนาน เบนท์ลีย์ได้เปิดรับคำสั่งจองอัครยนตรกรรมรุ่นลิมิเต็ด ‘Speed ​​Edition 12’ จำนวนจำกัดเพียง 120 คันสำหรับรุ่น Bentayga, Continental GT, Continental GT Convertible และ Flying Spur โดยมีคุณสมบัติพิเศษอย่าง ตราสัญลักษณ์ Edition 12 บนกาบบันได เบาะโดยสาร คอลโซลหน้า และแผ่นป้ายหมายเลขเครื่องยนต์ ผู้ครอบครองยังได้รับโมเดลจำลองเครื่องยนต์รุ่น W12 ขนาดย่อส่วนเพื่อเป็นที่ระลึกอีกด้วย

เครื่องยนต์รุ่น W12 ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอัครยนตรกรรม “Coachbuilt by Mulliner” ด้วยการเปิดตัวรุ่น Bacalar แกรนด์ทัวเรอร์แบบ 2 ประตูที่ผลิตขึ้นเพียง 12 คันกับขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 พละกำลัง 650 แรงม้า และรุ่น Batur สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์รุ่นพิเศษที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12 ที่ผลิตขึ้นเพียง 18 คันสำหรับแบบคูเป้ และ 16 คันสำหรับรุ่นเปิดประทุน ซึ่งอัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษนี้จะรังสรรค์ขึ้นในแบบเฉพาะตัวตามความต้องการของผู้ครอบครอง และแต่ละคันจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12 พละกำลัง 740 แรงม้า แรงบิด 738 ปอนด์-ฟุต

อัครยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น W12 กว่า 100,000 คันจะยังคงส่งมอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ครอบครองทั่วโลก ขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น W12 จึงถือเป็นเครื่องยนต์ขนาด 12 สูบที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคปัจจุบัน ตลอดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ขุมพลังดังกล่าวมีพละกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 34% และแรงบิดเพิ่มขึ้น 54% พร้อมกันนั้นยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อีก 25% เครื่องยนต์รุ่น W12 จึงมีบทบาทสำคัญและจะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ตลอดไป

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เลิกผลิตเครื่องยนต์รุ่น W12 2024 4

บทความที่น่าสนใจ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 1.98% - 5.25% (เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 3.81% - 9.80% ต่อปี)
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 1.98% - 5.25% (เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 3.81% - 9.80% ต่อปี)

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ