ช่วงนี้กระแสรถไฟฟ้าในไทยกำลังมาแรง โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์นั่ง เก๋ง เอสยูวี แต่สำหรับรถกระบะไฟฟ้ายังถือว่ามีคู่แข่งอยู่น้อยมาก ล่าสุด Geely เตรียมนำรถกระบะไฟฟ้ามาเปิดตัวในไทยภายใต้ชื่อ "Riddara"
Riddara "ริดดาร่า" เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ภายใต้เครือ Geely Holding Group จากประเทศจีน ปัจจุบัน Geely มีแบรนด์ในเครืออยู่มากมาย ได้แก่ Geely, Volvo, Polestar, Lotus, Lynk & Co, Zeekr และ Radar
Radar (ชื่อที่ทำตลาดในจีน) = Riddara (ชื่อที่ทำตลาดในไทย) เป็นรถรุ่นเดียวกัน ต่างกันแค่ชื่อ แต่ออกมาจากโรงงานประกอบเดียวกัน
บทความนี้ออโต้สปินน์ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมทดลองขับกระบะไฟฟ้า Geely Riddara ที่ประเทศจีน จึงอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเล่าสู่กันฟังครับ
รับชมรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่
ขุมพลังมอเตอร์ Geely Riddara
- รุ่น 2WD กำลังมอเตอร์รวม 200 KW อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.3 วินาที ความสามารถในการลากจูง 2,500 กก.
- รุ่น 4WD กำลังมอเตอร์รวม 315 KW อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.5 วินาที ความสามารถในการลากจูง 3,500 กก.
Geely Riddara แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย
- รุ่น 2WD ขนาดแบต 63 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 377 กม.ต่อหนึ่งการชาร์จ
- รุ่น 2WD ขนาดแบต 73 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 437 กม.ต่อหนึ่งการชาร์จ
- รุ่น 4WD ขนาดแบต 73 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 414 กม.ต่อหนึ่งการชาร์จ
มิติตัวถัง Geely Riddara
- ยาว 5,260 มม.
- กว้าง 1,900 มม.
- สูง 1,865 มม.
- ระยะฐานล้อ 3,120 มม.
- ที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า 70 ลิตร
- ที่เก็บของใต้เบาะหลัง 48 ลิตร
- พื้นที่ความจุกระบะ 1,200 ลิตร
ดีไซน์ภายนอก Geely Riddara
ดีไซน์ภายนอกอาจดูแปลกตา หากเทียบกับรถกระบะที่คนไทยคุ้นเคย โดยเจ้าคันนี้มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบปิดทึบตามสไตล์รถไฟฟ้า พร้อมชื่อแบรนด์ขนาดใหญ่เต็มกระจัง ไฟหน้าแอลอีดี พร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิ่ง
Riddara ติดตั้งกล้องรอบคัน หน้า-หลัง-ซ้าย-ขวา สามารถดูภาพตัวรถภายนอกได้แบบรอบคัน รวมถึงยังสามารถดูภาพใต้ท้องรถได้เมื่อรถเคลื่อนที่ที่ความเร็วต่ำ นอกจากนี้ ที่ด้านบนของกระจกหน้ายังติดตั้งกล้อง ADAS สำหรับทำหน้าที่ในการตรวจจับวัตถุ รถ เส้นเลนถนน ถือเป็นพระเอกที่ทำงานให้กับระบบความปลอดภัยหลายระบบของเจ้าคันนี้
หลังคาซันรูฟสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยปุ่มกด ช่วยเสริมให้ตัวรถมีความหรูหรา และดีไซน์ของไฟท้ายที่เป็นแบบเส้นลากยาว เมื่อมองจากท้ายรถจะดูคล้ายกับรถเอสยูวีที่ถูกหั่นหลังคาช่วงท้ายออกไป ซึ่งก็ดูสวยและแปลกตาดีครับ
โดยรวมของภายนอกผมว่าก็ดูสวยงามในแบบฉบับของรถไฟฟ้าครับ ต่างจากรถกระบะสันดาปในไทย ที่จะออกแนวแข็งแกร่ง ดุดัน เอาเป็นว่าดีไซน์แนวนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
ดีไซน์ภายใน Geely Riddara
ในส่วนของภายใน จะออกแนวล้ำสมัยตามสไตล์รถไฟฟ้า เบาะคู่หน้าเป็นแบบปรับไฟฟ้า นั่งแล้วรู้สึกโอบกระชับ ฟองน้ำนุ่มกำลังดี ในส่วนของเบาะหลัง มีองศาการเอนของพนักพิงอยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ตัวฐานเบาะนั่ง ผมว่ามันยังสั้นไปหน่อย
ในส่วนของฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็มีให้แบบครบครันเช่น ที่ชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย 50 W ,ช่องต่อ USB ,ที่วางแขนเบาะหลัง แอร์หลัง เป็นต้น จากการทดลองนั่งโดยสาร ผมค่อนข้างชอบกับระบบช่วงล่าง ที่ใช้เป็นระบบกันสะเทือนอิสระ 4 ล้อ ได้ความรู้สึกนุ่มนวลคล้ายรถเอสยูวี ต่างจากรถกระบะทั่วไปที่เป็นแหนบ แต่ในทางกลับกัน ถ้าเอา Riddara มาขนของบรรทุกหนัก ก็สู้ช่วงล่างแบบแหนบไม่ได้ ซึ่งตรงจุดนี้ก็พอจะทราบกันแล้วใช่มั้ยครับ ว่าเจ้าคันนี้เน้นนั่งโดยสาร แต่ไม่เน้นบรรทุกหนัก (น้ำหนักบรรทุก รวมผู้โดยสาร สูงสุด 1,050 กก.)
หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.6 นิ้ว ถือว่าใหญ่มากครับ รองรับ Apple CarPlay ,Android Auto รวมถึงเวลาที่เราจะเข้าไปตั้งค่าระบบต่าง ๆ ของตัวรถ ก็จะต้องเข้าผ่านที่หน้าจอตัวนี้
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Geely Riddara
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- ระบบจำกัดความเร็ว
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ
- ระบบเตือนการออกนอกเลน
- ระบบช่วยเปลี่ยนเลน
- ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา
- ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
ทดลองขับ Geely Riddara
ครั้งนี้เราอยู่ที่ประเทศจีน กับสนามที่ได้ปรับเซ็ทให้เป็นสเตชั่นออฟโรดเบา ๆ เพื่อทดสอบพละกำลังในการไต่เนินชัน และทดสอบความนุ่มนวลของช่วงล่าง เริ่มกันที่อัตราเร่งกันก่อนเลยครับ ด้วยความที่เป็นรถไฟฟ้าจะได้เปรียบเรื่องพละกำลังในการขับออกตัว แตะคันเร่งเบา ๆ ตัวรถลื่นไหลได้ดีแบบไร้แรงหน่วง ช่วงที่เป็นเนินชันแค่แตะคันเร่งเบา ๆ รถขึ้นเนินได้สบายหายห่วง ในจังหวะที่อยู่กลางเนิน หัวรถจะเชิดขึ้น จนทำให้เราไม่สามารถมองเห็นเส้นทางได้ แต่ด้วยความที่เจ้าคันนี้มีกล้องรอบคัน 540 องศา เราสามารถดูภาพด้านหน้าและภาพรอบคันของตัวรถผ่านที่หน้าจอได้ พร้อมกับมีเส้นนำเลี้ยวที่ทำงานได้แม่นยำ ทำให้สามารถผ่านเส้นทางดังกล่าวไปได้แบบปลอดภัย
ต่อด้วยการขับผ่านเนินสลับ ในรุ่นที่ลองขับนี้เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ บางช่วงที่ล้อแขวนลอย ล้อที่เหลือก็จะขับเคลื่อนทำให้ผ่านเนินสลับได้อย่างง่ายดาย และในช่วงที่เป็นทางขรุขระ ผมว่าช่วงล่างที่เป็นแบบอิสระ 4 ล้อ ซับแรงกระแทกได้ดีพอสมควร
สรุปโดยรวมจากการทดลองขับ ผมว่าอัตราเร่งของ Geely Riddara ไม่มีอะไรน่ากังวลครับ เป็นรถกระบะไฟฟ้าที่มีพละกำลังเหลือเฟือ มีระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ช่วยให้การเดินทางปลอดภัย แต่สิ่งที่ควรระวังคือ แบตเตอรี่จะวางอยู่ใต้ท้อง หากเส้นทางที่คุณขับผ่านมีโขดหินสูง อาจจะไปขูดกับตัวเคสแบตเตอรี่ได้ แค่นั้นเองครับ
ในส่วนของราคาจำหน่าย ที่จีนขายเริ่มต้นประมาณ 1.5 แสนหยวน (คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 7 แสนบาท) หากนำเข้ามาขายที่ไทยก็ต้องมาลุ้นราคากันอีกทีว่าจะเปิดราคาเท่าไหร่ ซึ่งชาวไทยจะได้เห็นตัวจริงเร็ว ๆ นี้ครับ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น