OMODA C5 EV ราคาจำหน่ายใกล้เคียงกับ BYD ATTO 3 เอามากๆ สำหรับใครที่ยังลังเล ลองมาดูรีวิวของทั้ง 2 รุ่น กันก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเลือกคันไหนดีนะ?
มาช้าแต่มานะ OMODA C5 เปิดราคามาใกล้เคียงกับ BYD ATTO 3 ทีนี้จะเลือกคันไหนดี?
เปิดราคาเป็นที่เรียบร้อยสำหรับใครที่รอมานาน OMODA C5 EV รถยนต์ไฟฟ้าครอสโอเวอร์ SUV ที่มีรุ่นย่อยให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน ซึ่งก็คือ Long Range Plus มาพร้อมกับราคา 899,000 บาท และในรุ่น Long Range Ultimate 949,000 บาท แน่นอนว่าราคานั้นใกล้เคียงกับ BYD ATTO 3 แบบที่เรียกว่าทำการบ้านมาเพื่อท้าชนกันเลยทีเดียว และวันนี้เลดี้จะขอนำเอา OMODA C5 รุ่น Long Range Ultimate ตัวท็อปสุดมาประกบกับ BYD ATTO 3 รุ่น Extended Range MY2024 เทียบกันจะๆ ไปเลยว่าคันไหนเจ๋งกว่ากัน
การออกแบบดีไซน์ภายนอก
พามาดูหน้าตาของน้อง OMODA C5 EV รุ่น Long Range Ultimate กันก่อน อันดับแรกที่สังเกตุเห็นได้เลย ก็คือมาพร้อมกับสีสันสดใส ผสมผสานการออกแบบแห่งอนาคต ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Light of Movement" มีเส้นสายที่เล่นแสงและเงา สะท้อนตัวตนผ่าน Lifestyle ของกลุ่มผู้ขับขี่เจเนอเรชั่นใหม่หรือ E-LOHAS (E-Lifestyle on Health and Sustainability) ที่ให้ความสำคัญกับการมีชีวิตที่ดีควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และได้มีการเปิดตัว Brand Presenter อย่างเป็นทางการก็คือน้องๆ กลุ่ม 4EVE นั่นเอง ที่ตอบโจทย์คาแรคเตอร์ได้อย่างเพอร์เฟค นอกจากนี้ยังใส่ความล้ำสมัยในการออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ของ Daytime Running Light ล้ออัลลอยด์ 5 ก้าน แบบทึบตามสไตล์ของรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังออกแบบให้หลังคาสโลปลงไปจรดกับฝาท้าย ทำให้ดูโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตมากขึ้นอีกด้วย
ในส่วนของ BYD ATTO 3 รุ่น Extended Range MY2024 ได้รับการติดตั้ง D Pillar สีดำใหม่ ผสานกับดีไซน์ภายนอกได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกทรงพลังมากขึ้น มาพร้อมกับ Wing Feather Dragon Crystal LED Combination Headlights และติดตั้งระบบปิดไฟ Daytime Running Light อัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์ P หลังคาเป็นแบบ Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ ล้ออัลลอยด์ลายกังหันขนาด 18 นิ้ว ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ ใส่ยางขนาด 235/50 R18 ดีไซน์ด้านหลังสโลปลงและมีสปอยเลอร์ให้ด้วย ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าแบบ One-Touch กระจกมองข้างพับและปรับด้วยไฟฟ้าเช่นเดียวกัน มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ด้านหลังเป็นตัวอักษร BYD จากเดิมที่ใช้ Build Your Dreams ตัวถังมีสีขาว Frost White สีเทา Graphite Grey และเพิ่มสีดำ Quantum Black มาให้ด้วย
สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของเลดี้ BYD ATTO 3 ในการปรับเปลี่ยนสีของ D Pillar หรือเสา D เป็นสีดำใหม่ ถือว่าสวยขึ้นมากหากเทียบกับในรุ่นก่อน เพราะส่วนนี้บอกตรงๆ ว่าเป็นส่วนที่เลดี้ไม่ชอบที่สุด แต่ถ้าให้เลือกในส่วนของดีไซน์ภายนอก เลดี้ขอเลือก OMODA C5 EV เพราะดูมีอะไรมากกว่า ล้ำกว่า สนุกกว่า
การออกแบบดีไซน์ภายใน
ภายในของ OMODA C5 EV รุ่น Long Range Ultimate มีสีให้เลือก 2 สี คือ Black และ Blue&White (เมื่อเลือกสีตัวถังเป็นสี Lunar White-Black Roof) มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานครบครันรวมถึงสุนทรียภาพภายในห้องโดยสาร ติดตั้งไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 เฉดสี เบาะนั่งของผู้ขับขี่ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนของผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบปรับอากาศเป็นแบบแยกอิสระ 2 โซน ติดตั้งกระจกแบบลดเสียงรบกวนภายนอก Privacy Glass กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบทัชสกีนขนาด 24.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Apple CarPlay™ และ Android Auto เครื่องเสียงใช้ของ SONY 8 ตำแหน่ง และมี Wireless Charger 50 วัตต์มาให้ด้วย
สำหรับ BYD ATTO 3 รุ่น Extended Range MY2024 ห้องโดยสารตกแต่งสไตล์ Rhythmic Interior ที่มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยเหนือชั้นให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มาพร้อมกับโทนสีใหม่ สีน้ำเงิน-เทา และสีน้ำเงิน-ดำ ผสานความหรูหราและทันสมัยเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ชุดเครื่องเสียง Dirac HD Sound พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง ให้เพลิดเพลินไปกับแอปพลิเคชันคาราโอเกะใหม่ และเชื่อมต่อ Apple CarPlay® ผ่านสาย USB และ Android Auto™ แบบไร้สาย หน้าจอกลางใหม่ใหญ่กว่าเดิม จาก 12.8 นิ้ว เป็น 15.6 นิ้ว สามารถปรับหมุนได้รอบทิศทางเช่นเดิม ในส่วนของหน้าจอแสดงผลด้านคนขับแบบดิจิทัลมีขนาด 5 นิ้ว จัดเต็มกับฟีเจอร์อัจฉริยะทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง และสวิตซ์ควบคุมหน้าจอ นอกจากนี้ยังได้มีการเปลี่ยนระบบ Start เป็นอัจฉริยะ ใช้วิธีการแบบเหยียบเบรก แทนการกดปุ่ม Push Start
ส่วนตัวเลดี้ชอบภายในของ BYD ATTO 3 มากกว่า เพราะว่ายังคงชอบหน้าจอที่หมุนได้ของเขาอยู่ แล้วก็ชอบการตกแต่ง Layout บริเวณคอนโซลตรงกลาง แต่ไม่ชอบอย่างเดียวเลยคือ สายพิณสีแดงตรงประตูนางยังไม่หายไปจ้า อันนี้ไม่ชอบเลยอะ่ เอาออกไปได้ไหมพรีสสส ส่วนของ OMODA C5 EV มันดูเพลนๆ เรียบเกินไปนิส แต่หากใครที่ชอบเรียบหรูอันนี้เหมาะเลย
ขุมพลังขับเคลื่อน
OMODA C5 EV รุ่น Long Range Ultimate ติดตั้งขุมพลังด้วย Single Motor ที่มาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 61 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ผลิตพละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุด 505 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) โดยใช้ระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% - 80% ภายใน 28 นาที ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 7.2 วินาที แตะ Top Speed สูงสุดได้ที่ประมาณ 172 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ทางด้าน BYD ATTO 3 รุ่น Extended Range MY2024 มาพร้อมกับมอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor 1 ตัว ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ความจุ 60.48 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 7 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 88 kW สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 7.3 วินาที ส่วน Top Speed ทำได้ประมาณ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อันนี้ถ้าดูแค่ระยะทางในการขับขี่ แต่ยังไม่ได้พูดถึงในเรื่องของสมรรถนะ เลดี้ก็คงเลือก OMODA C5 EV เพราะว่าสามารถขับได้ไกลกว่า BYD ATTO 3 ประมาณ 25 กิโลเมตร / การชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ก็ถือว่าตัวเลขห่างกันพอควรนะ อันเนื่องมาจากความจุแบตเตอรี่ที่ต่างกันนิดหน่อย แถม OMODA C5 EV ยังทำ Top Speed ได้มากกว่าอีกด้วย
เทคโนโลยีความปลอดภัย
OMODA C5 EV รุ่น Long Range Ultimate มาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม อาทิ กล้องแสดงภาพรอบทิศทางแบบ 540 องศา, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบการเตือนออกนอกเลน LDW, ระบบป้องกันการออกนอกเลน LDP, ระบบช่วยเหลือเพื่อเปลี่ยนเลน LCA, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ELK, ระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน ICA, ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา BSD, ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA, ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง RCTB, ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW, ระบบเตือนการชนด้านหลัง RCW, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC, ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ TJA, ระบบแจ้งเตือนการออกตัว, ระบบเตือนมีเมื่อรถวิ่งเข้ามาขณะเปิดประตู DOW และระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ DMS ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก Euro-NCAP นอกจากนี้ยังมีระบบจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ภายนอก หรือ V2L ขนาด 3.3 กิโลวัตต์ มาให้ด้วย
ต่อกันที่ BYD ATTO 3 รุ่น Extended Range MY2024 มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่มากมาย อาทิ กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปนผันทุกย่านความเร็ว (ACC with Stop & Go), ระบบเบรกอัตโนมัติด้านหน้า AEB, ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW, ระบบเตือนการชนด้านหลัง RCW, รบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง BSD, ระบบเตือนมีเมื่อรถวิ่งเข้ามาขณะเปิดประตู DOW, ระบบเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาขณะถอยหลัง RCTA, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหลัง RCTB, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน LDW และ ระบบรักษารถให้อยู่ในเลน LKA
ในส่วนของราคาจำหน่าย OMODA C5 EV รุ่น Long Range Ultimate มีราคา 949,000 บาท BYD ATTO 3 รุ่น Extended Range MY2024 มีราคา 959,900 บาท ต่างกันเพียง 10,900 บาท เท่านั้น จากคะแนนรวมที่เลดี้ให้ ขอสรุปง่ายๆ ว่า หากใครเบื่อ BYD แล้ว หันมาทาง OMODA ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ละม้ายคล้ายกันมากๆ ในส่วนของสมรรถนะ ฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึง Segment และพื้นที่การใช้สอย ทีนี้เรื่องที่ต้องวัดกันในอนาคตก็คือบริการหลังการขายที่จะใช้มัดใจผู้บริโภคต่อไป
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น