รีวิว Royal Enfield Himalayan 450 ทัวร์ริ่งสายลุย ไปได้ทุกทาง Share this
รีวิวมอเตอร์ไซค์
โหมดการอ่าน

รีวิว Royal Enfield Himalayan 450 ทัวร์ริ่งสายลุย ไปได้ทุกทาง

Paknam536
โดย Paknam536
โพสต์เมื่อ 01 October 2567

รถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มักจะนำไปใช้งานขับขี่เดินทางไกล เนื่องจากมันสามารถไปได้ทุกเส้นทางได้ดี ทั้งทางดำและทางฝุ่น และถ้าอยากได้หน้าตาที่แตกต่างแล้ว Royal Enfield Himalayan 450 คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ


Royal Enfield Himalayan 450

Royal Enfield Himalayan 450 คือรถมอเตอร์ไซค์ประเภททัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ ที่รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวัน, การขับขี่เดินทางไกล และการเดินทางไปสู่เส้นทางออฟโรดเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ รังสรรค์โดย Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับโลก (250 ซีซี - 750 ซีซี) ที่ได้เปิดตัว THE ALL-NEW HIMALAYAN ในงาน Bangkok International Motor Show 2024 ในราคาเริ่มต้น 219,000 บาท

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

โดยครั้งนี้ Royal Enfield ได้พลิกโฉมระบบขับเคลื่อนให้กับ THE ALL-NEW HIMALAYAN รุ่นล่าสุดนี้ด้วยระบบเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ Sherpa 450 ใหม่ ที่ควบรวมกับฟีเจอร์เทคโนโลยีอีกมากมาย ช่วยยกระดับการเดินทางผจญภัย พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่ให้กับนักบิดสายลุยได้สนุกกับทุกโค้ง ทุกถนน กับตัวเครื่องยนต์ที่เบา และล้ำสมัยที่สุดของ Royal Enfield

มาพร้อมกับ 3 เฉดสี ได้แก่ HANLE BLACK, KAZA BROWN, และ SLATE HIMALAYAN SALT

 

Royal Enfield Himalayan 450 Off road

 

Himalayan 450 การออกแบบ

เมื่อพูดถึงเบื้องหลังแนวคิดการพัฒนา Royal Enfield Himalayan 450 คุณ อนุจ ดัว - หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ โรยัล เอ็นฟีลด์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (Head of Business, Royal Enfield-APAC) กล่าวว่า "ก่อนที่เราจะเริ่มพัฒนา THE ALL-NEW HIMALAYAN เราได้ร่วมขับขี่ไปกับผู้บริโภคของเรา ได้พูดคุยกับนักเดินทางรอบโลก นักสำรวจ และนักกีฬา เพื่อเก็บข้อมูลมาผนวกกับประสบการณ์ของพวกเราเอง และได้ตัดสินใจเลือก DNA ที่สำคัญที่เราจำเป็นต้องรักษาไว้

สำหรับ All New Himalayan 450 จับคู่กับระบบเครื่องยนต์ Sherpa 450 ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งเป็นครั้งแรกจาก Royal Enfield นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เรามีระบบคันเร่งไฟฟ้า ปรับได้ 4 รูปแบบ ให้การส่งกำลังและแรงบิดที่เหมาะสมสำหรับภูมิประเทศที่ท้าทาย และเป็นครั้งแรกในความร่วมมือกับ Google Maps ที่เรามี Tripper-Dash พร้อมการนำทางแผนที่เต็มรูปแบบ

 

Royal Enfield Himalayan 450 Off road

 

ความสมดุลระหว่างคน เครื่องยนต์ และสภาพภูมิประเทศ เช่นเดียวกับรุ่นดั้งเดิม All New Himalayan ไม่ได้สร้างมาเพื่อบุกทะลวงเส้นทางด้วยความดุดันและแรงม้าที่เกินพอดี แต่กลับสร้างมาเพื่อถ่ายทอดพลังของเทือกเขาหิมาลัย ผสานการเดินทางที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ และเพลิดเพลินไปกับพื้นที่อันแสนไกล ทั้งหมดคือการสร้างสมดุลระหว่างเส้นทาง ผู้ขับขี่ และสภาพแวดล้อม สร้างมาเพื่อลุยทุกเส้นทาง ตอบโจทย์การเดินทางทุกพื้นที่

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

‘น่าเกรงขามแต่ไม่น่ากลัว’ นับเป็นดีเอ็นเอที่อยู่ในตัวรถหิมาลายัน จากการปรับปรุงด้านพละกำลัง สมรรถนะ และการควบคุม All New Himalayan เป็นรถจักรยานยนต์ที่ขี่ง่าย ให้ความสมดุลขับขี่สบายแม้อยู่ในขณะความเร็วต่ำ ผสมผสานกับคลัตช์แบบใหม่ที่นิ่มลงและการตอบสนองของคันเร่งที่นุ่มนวลจากระบบคันเร่งไฟฟ้า ช่วยให้การขับขี่บนเส้นทางแคบและการจราจรคับคั่งได้อย่างง่ายดาย

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

ช่วงล่างของ All New Himalayan มีความสูงจากพื้นถนนที่สูงกว่าเดิมและระบบกันสะเทือนที่ยุบได้มากกว่า ซึ่งช่วยให้คุณรับมือกับภูมิประเทศที่มีทางขรุขระได้มากกว่าเดิม โดยไม่ต้องมีความกังวลว่าท้องรถจะกระแทกกับพื้น

เฟรมแบบใหม่ทั้งหมดได้รับการออกแบบมา เพื่อให้ประโยชน์ในทางออฟโรด โดยไม่ทำให้ตัวรถหิมาลายันสูงเกินไปหรือเสียสมดุล เฟรมใหม่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม ทำให้ประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการเข้าโค้งดีขึ้นอย่างชัดเจน โช้คหัวกลับของ Showa ใหม่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำงานในสภาพต่างๆ ตั้งแต่ถนนเรียบไปจนถึงก้นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยหิน คุณภาพของระบบกันสะเทือนไม่ใช่แค่เรื่องของสมรรถนะเท่านั้น แต่มาพร้อมกับการควบคุมที่ง่ายขึ้น เมื่อต้องรับมือกับเส้นทางภูมิประเทศที่ขรุขระ ลื่น ชัน และยากต่อการคาดเดา ทำให้ผู้ขับขี่ไม่เสียสมาธิในการควบคุมรถ ลดการออกแรงรับการกระแทกเมื่ออยู่ในทางที่ไม่เรียบ

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

การปรับปรุงหลักสรีรศาสตร์ของตัวรถเพื่อตอบสนองต่อสรีระของผู้ขับขี่ ระยะระหว่างขาที่แคบลง ช่วยให้การควบคุมดีขึ้นเมื่ออยู่ในท่ายืน และทำให้การวางเท้าเหยียบลงพื้นได้เต็มฝ่าเท้ามากขึ้น เพื่มความมั่นใจให้ผู้ขี่ไม่ว่าจะอยู่ในท่าใด

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

ส่วนด้านหลังของถังเชื้อเพลิงขนาด 17 ลิตร ได้รับการออกแบบให้เพรียวบางลงเพื่อให้มีที่วางเข่าที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นขณะขับขี่ เบาะนั่งผู้ขี่และคนซ้อนแบบแยกส่วนช่วยให้ผู้ขี่สามารถปรับเบาะขึ้นได้ 20 มม. เหมาะสำหรับคนตัวสูง

นอกจากที่นั่งแบบมาตรฐานแล้ว ยังมีที่นั่งแบบโลว์ซีท (Low Seat) เป็นอุปกรณ์เสริม ให้ผู้ขี่ปรับความสูงได้หลากหลาย เบาะนั่งมาตรฐานและเบาะนั่งต่ำที่เป็นอุปกรณ์เสริม ผู้ขี่จะมีช่วงความสูงของเบาะระหว่าง 805 มม. ไปจนถึงความสูงของเบาะนั่ง 845 มม.

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

เมื่อรวมกับโครงและถังที่แคบจะทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจทั้งช่วงที่ขับและจอด ทั้งเบาะนั่งผู้ขี่และคนซ้อน ได้รับการออกแบบให้นั่งได้สบายแม้มีการขับขี่เป็นระยะเวลานาน ไม่ว่าบนถนนหรือออฟโรด

 

Royal Enfield Himalayan 450 Fuel tank

 

All New Himalayan ยังคงใช้ชุดล้อหน้า 21 นิ้ว  และล้อหลัง 17 นิ้ว ที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพมาจากรุ่นเดิม พร้อมขอบล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ที่พัฒนาขึ้นใหม่และยางสั่งทำพิเศษเพื่อการยึดเกาะที่เหนือกว่า ให้ความมั่นใจในการควบคุมรถ และความเสถียรทั้งในสภาพถนนและทางออฟโรด นอกจากนี้ ยางหลังขนาด 140/80 ที่กว้างขึ้น ยังให้การยึดเกาะที่ดีขึ้นและเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นทั้งบนถนนลาดยางและทางออฟโรด

 

Royal Enfield Himalayan 450

Royal Enfield Himalayan 450

 

Royal Enfield Himalayan TripperDash

TripperDash จะเป็นเพื่อนร่วมผจญภัยไปกับคุณ จากโจทย์ที่ว่า 'มอบทุกสิ่งที่คุณต้องการ และตัดทุกส่วนเกินได้อย่างตรงใจ’ (‘Everything you need, and nothing you don’t’) เทคโนโลยีล่าสุดของ All New Himalayan มีจุดประสงค์เดียวคือเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ขับขี่ จุดเด่นของ TripperDash คือ หน้าจอสีตัวใหม่ รูปทรงกลมแบบคลาสสิก แต่มีคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมมากมายสำหรับผู้ขับขี่ พร้อมตัวเลือกในการเปลี่ยนจากการแสดงผลแบบ
อะนาล็อกดั้งเดิมเป็นรูปแบบดิจิทัล TripperDash นำเสนอการนำทางด้วยแผนที่เต็มรูปแบบครั้งแรกของโลกบนจอแสดงผลทรงกลมที่ใช้ Engine และข้อมูลแผนที่จากระบบ Google Maps พร้อมเสียงแนะนำในกว่า 130 ภาษา

Royal Enfield Himalayan 450 Tripper dash

Royal Enfield Himalayan 450

ตัวควบคุม Joystick ประกบแฮนด์ด้านซ้าย ช่วยให้คุณควบคุมฟังก์ชัน เพลง การโทร และข้อความ ได้โดยไม่ต้องละสายตาเพื่นค้นหา เครื่องมือสื่อสารและนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อมือถือ ผู้ขับขี่สามารถเลือกระหว่างโหมดการขับขี่ Performance และ Eco การตอบสนองของคันเร่งจะเปลี่ยนด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้าแบบใหม่ ABS ด้านหลังสามารถปิดการใช้งานได้เพื่อประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

เครื่องยนต์ Royal Enfield Himalayan 450

เครื่องยนต์ของ All New Himalayan ใช้เครื่องยนต์ใหม่รหัส Sherpa ขนาด 452cc มีกำลังและแรงบิดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ให้แรงบิดรอบต่ำที่ยอดเยี่ยม และยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Royal Enfield ด้วยกำลังสูงสุด 40.02 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที

โดยแรงบิดกว่า 90% มีมาให้ใช้งานตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ 3,000 รอบ/นาทีขึ้นไป ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นที่ต้องลากรอบให้สูงเพื่อเรียกกำลัง เพราะพละกำลังนั้นมาในช่วงรอบต่ำ ลักษณะนี้มีประโยชน์มากที่สุดเมื่อปีนขึ้นไปบนทางลาดชันที่ลื่น ช่วยให้ล้อสามารถหาจุดยึดเกาะได้ไม่ยากและถ้าเทียบกับเครื่องที่ไม่ได้แรงบิดรอบต้น ล้ออาจจะลื่นและเสียการควบคุม

นอกจากนี้ แรงบิดที่สูงยังช่วยให้การขับขี่ขับได้ง่ายและสะดวกสบายเมื่อขับขี่พร้อมผู้ซ้อนและสัมภาระ เครื่องยนต์ใหม่มีการออกแบบอ่างน้ำมันเครื่องแบบกึ่งแห้ง เพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้นสูงสุดและช่วยให้ตัวเครื่องมีรูปแบบกระทัดรัด

นี่เป็นครั้งแรกของ Royal Enfield ที่ติดตั้งหม้อน้ำระบายความร้อนและปั๊มน้ำ โดยการระบายความร้อนแบบสองทางช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการขับขี่ในเส้นทางที่ค่อนข้างวิบาก ที่ต้องไต่ระดับความชันในระดับความสูงเหนือน้ำทะเล เป็นการออกแบบใหม่เพื่อรักษาสมรรถนะของเครื่องยนต์

เกียร์แบบ 6 สปีดใหม่ มีอัตราส่วนเกียร์ที่ห่างขึ้น เหมาะสำหรับการขับขี่บนทางหลวงที่ดีขึ้น พร้อมระบบ Sliper Clutch ทำให้การทำงานของคลัตช์นิ่มลงและ ช่วยให้อายุการใช้งานของคลัตช์ยาวนานขึ้น พัฒนามาอย่างดี เหมาะกับการขับขี่สายลุย

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

ข้อมูลทางเทคนิค Royal Enfield Himalayan 450

ประเภท 1 สูบ DOHC 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 452 ซีซี
ขนาดลูกสูบ x ช่วงชัก 84 x 81.5 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1
พละกำลังสูงสุด 40.02 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที
ระบบเกียร์ แมนนวล คลัทช์มือ 6 สปีด

 

ตัวรถ Royal Enfield Himalayan 450

เฟรม เฟรมเหล็ก แบบทวินสปาร์ ทูบูล่า
โช๊คหน้า โช๊คอัพหัวกลับ ขนาดแกน 43 มม. ระยะยุบ 200 มม.
โช๊คหลัง โช๊คอัพเดี่ยวแบบลิ้งค์เอจ ปรับพรีโหลดได้ระยะยุบ 200 มม.
เบรคหน้า ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 320 มม. พร้อมปั้มเบรค 2 พอต ABS
เบรคหลัง ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 270 มม. พร้อมปั้มเบรค 1 พอต ABS
ยางหน้า 90/90 R21
ยางหลัง 140/80 R17

 

มิติรถ Royal Enfield Himalayan 450

ขนาด ยาว x กว้าง x สูง (มม.) 2,245 x 852 x 1,316
ความสูงเบาะ 825 มม.
ระยะฐานล้อ 1,510 มม.
ระยะห่างจากพื้น 230 มม.
น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน 196 กก.
ความจุถังน้ำมัน 17 ลิตร

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

Royal Enfield Himalayan 450 มีอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์จากโรงงานกว่า 30 รายการ มีมาให้เลือกติดตั้ง All New Himalayan ในแบบที่คุณต้องการ เพราะการผจญภัยและไลฟ์สไตล์ที่แต่งต่างของผู้ขับขี่ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถปรับแต่งเพื่อสร้างเอกลักษณ์ พร้อมจุดประกายและส่งต่อแรงบันดาลใจให้นักผจญภัยคนอื่นๆ ได้อีก ชุดอุปกรณ์ครั้งนี้มาใน 2 ธีม ได้แก่ แบบผจญภัย (Adventure) และแบบแรลลี่ (Rally)

อุปกรณ์ตกแต่งของเหล่านักผจญภัย มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการขับขี่ระยะไกล โดยมีกล่องเอนกประสงค์แบบอะลูมิเนียม หน้าจอแบบยกสูง ที่นั่ง Adventure Seat รวมถึงไฟตัดหมอกแบบ LED ส่วนชุดอุปกรณ์ตกแต่งแบบแรลลี่ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดให้กับ All New Himalayan อย่างแท้จริง

เมื่อจับคู่บังโคลนหลังแรลลี่ เข้ากับเบาะนั่งแรลลี่ที่เพรียวบาง ตัวรถจะดูดุดันขึ้นมาทันที มากไปกว่านั้นชุดธีมแรลลี่จะรองรับการติดตั้ง (กระเป๋าอ่อนที่ไม่ต้องการแรคในการยึด (Rackless Soft Bags) และ กระเป๋าหลัง (Tail Pack) ในขณะที่ การ์ดเบรกมือ การ์ดคลัตช์ การ์ดอ่าง และการ์ดไฟหน้าให้การปกป้องขั้นสูงสุดสำหรับภูมิประเทศที่มีทางฝุ่นที่อันตรายและมีระดับความขรุขระอยู่ในระดับสูง

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

ข้อมูลสรุป ALL-NEW HIMALAYAN

Royal Enfield Himalayan 450

 

Himalayan 450 ขับดีไหม

ในส่วนของการขับขี่ Royal Enfield Himalayan 450 คันนี้ เราขับทดสอบกันในเส้นทางทั้งบนถนนและบนทางออฟโรด โดยเน้นหนักบนออฟโรดเป็นหลัก เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพการใช้งานจริงว่าเป็นอย่างไร

ก่อนอื่น หากจะเทียบกับ Himalayan ตัวแรก บอกเลยว่าเจ้า 450 คันนี้ เหนือกว่าในทุกมิติ ทั้งกำลังเครื่องยนต์, ช่วงล่าง, ระบบเบรก และเทคโนโลยีทั้งหมด

ในทางดำ ต้องขอยกความดีความชอบให้กับช่วงล่าง ที่มีความสามารถในการซับแรงกระแทกที่ยอดเยี่ยมมากๆ ทำให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายในทุกย่านความเร็ว ซับแรงกระแทกจากหลุม ท่อ บ่อ ลูกระนาด ความไม่เรียบเนียนของท้องถนนตามสไตล์บ้านเราได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทั่วไปแล้วลักษณะช่วงล่างจะใกล้เคียงกับรถมอเตอร์ไซต์พิกัดราคา 3-4 แสนบาทเลยทีเดียว

จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ ถือว่าต่ำมากๆ ทำให้เราสามารถพลิกรถเข้าโค้งได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเป็นรถที่ใช้ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว แต่ก็ให้สัมผัสการควบคุมที่ใกล้เคียงกับรถที่ใช้ล้อหน้าหลัง 17 นิ้วเท่ากัน

 

Royal Enfield Himalayan 450 On road

 

โดยจุดด้อยของรถคันนี้ คือกำลังของเครื่องยนต์ในทางดำ ที่เน้นกำลังขับช่วงต้นถึงกลางเป็นหลัก ตามสไตล์ของรถมอเตอร์ไซต์เครื่องยนต์ 1 สูบ ทำให้ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์สองสูบเรียง ฝั่งคู่แข่งจะมีกำลังขับในทางเรียบที่กว่ามาก ทั้งอัตราเร่ง และความเร็วปลายที่สูงกว่า

ประกอบกับจานเบรคด้านหน้าที่ให้ดิสก์เบรคมาข้างเดียว แตกต่างจากคู่เปรียบเทียบ ที่ให้เป็นดิสก์เบรกคู่ หากวัดกันที่ความหล่อเหลาแล้ว ฝั่งคู่เปรียบเทียบค่อนข้างหล่อกว่า ดูให้ของครบ

 

Royal Enfield Himalayan 450 On road

 

ในส่วนของการขับขี่บนทางออฟโรด นี่แหละคือไฮไลท์เด็ดของเจ้า Royal Enfield Himalayan 450 โดยเฉพาะตัวช่วงล่างที่เซ็ตมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีระยะยุบที่สูงมาก มีระยะห่างใต้ท้องรถที่เยอะมาก ทำให้เราสามารถขับขี่ฝ่าอุปสรรคไปได้ค่อนข้างง่ายมากๆ โดยเฉพาะชุดช่วงล่างที่เซ็ตมาพร้อมให้คุณบุกตะลุยเส้นทางเถื่อนได้อย่างง่ายดายและมั่นใจ ขอเพียงคุณทำล้อให้ตรง และมีกำลังขับในมือตลอดเวลา เท่านี้ก็ผ่านไปได้ทุกอุปสรรคแบบสบายๆ

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

เครื่องยนต์ 1 สูบ มีจุดด้อยบนทางเรียบ แต่มีประโยชน์มากบนทางฝุ่น เพราะคุณไม่จำเป็นต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูง คุณก็ได้กำลังแรงบิดสูงสุดของรถมาใช้งานแล้ว ช่วงย่านกำลังของรถจะอยู่ระหว่างรอบเครื่องยนต์ 3,000 - 5,000 รอบ/นาที หากคุณมีรอบเครื่องยนต์ย่านนี้ ประกอบกับทักษะการขับขี่มอเตอร์ไซค์ออฟโรดนิดหน่อย มั่นใจได้เลยว่า คุณสามารถไปเที่ยวในเส้นทางออฟโรดระดับกลางได้ทั่วโลกแน่นอน

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

Royal Enfield Himalayan 450 เหมาะกับใคร?

ผู้ที่เหมาะกับ Royal Enfield Himalayan 450 คือคนที่อยากได้รถมอเตอร์ไซค์แบบทัวร์ริ่งที่ลุยได้ในหน้าตาที่ไม่เหมือนกับใคร เน้นมีกลิ่นอายแบบรถคลาสสิกที่สามารถเที่ยวได้ ลุยได้ คันนี้คือตอบโจทย์ มาพร้อมกับช่วงล่างเกรดเดียวกับรถมอเตอร์ไซค์หลัก 3-4 แสนบาท ในงบประมาณเริ่มต้น 219,000 บาทเท่านั้น

แต่ต้องแลกกับกำลังขับของรถที่ค่อนข้างน้อยไปสักนิด เมื่อเปรียบเทียบกับ Honda NX500 ที่ให้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 471cc ที่มีกำลังขับมากกว่า แรงกว่า วิ่งได้เร็วกว่า แต่ถ้าวัดกันเรื่องช่วงล่างในทางลุย Royal Enfield Himalayan 450 ดีกว่า ซึ่งถ้าคุณจะไปสายฮอนด้า และอยากได้ช่วงล่างแบบ Royal Enfield Himalayan 450 คุณจะต้องขยับไปหารุ่น Transalp 750 ซึ่งต้องจ่ายเงินเกือบ 400,000 บาท จึงจะได้มาครอบครอง นั่นหมายความว่ารถคันนี้มีราคาถูกกว่าครึ่งหนึ่ง แต่ก็แลกกับกำลังขับที่น้อยกว่าด้วย

อีกจุดคือ เป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบมียางใน ข้อดีคือมันสามารถลุยได้ถึงใจกว่าแบบไม่ต้องกลัวยางรั่วหรือล้อพังมากนัก แต่ในยามที่โดนตะปูตำมา อาจจะต้องเหนื่อยกว่ารถไม่มียางในสักหน่อย

และที่สำคัญคือ รถคันนี้ไม่มีระบบ Traction control มาให้ แต่ก็ไม่ต้องห่วงมาก เพราะในทางดำ แรงบิดของเค้าไม่ได้เยอะจนคุมยาก ส่วนทางเถื่อน เราไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เท่าไหร่นักอยู่แล้ว แต่การมีไว้ย่อมดีกว่าไม่มี

 

Royal Enfield Himalayan 450

 

ราคา Royal Enfield Himalayan 450

Royal Enfield Himalayan 450 เปิดตัวออกมาทั้งหมด 3 รุ่นย่อย โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้

  1. Royal Enfield Hiamalayan 450 Base 219,000 บาท
  2. Royal Enfield Hiamalayan 450 Pass 222,000 บาท
  3. Royal Enfield Hiamalayan 450 Hanley Black 226,000 บาท

 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ