ขับรถไฮบริดอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

เคล็ดลับที่จะช่วยให้การขับรถยนต์ไฮบริดมีประสิทธิภาพสูงสุด เกิดการหมุนเวียนพลังงานและนำกลับไปใช้ใหม่ มีวิธีการอย่างไรบ้าง?  ไปชมกันค่ะ

ขับรถไฮบริดอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

ไหนมีใครใช้รถยนต์ไฮบริดอยู่ แต่เอ๋? ทำไมมันขับไม่ประหยัดเลยนะ? เหตุผลง่ายๆ เลยก็คือคุณยังไม่รู้วิธีขับ รถยนต์ไฮบริด ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดหน่ะสิ! แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้นะ คุณสามารถปรับปรุงลักษณะการขับขี่ของคุณได้ ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ที่เลดี้นำมาแชร์ในวันนี้ค่ะ  

ขับ Hybrid ให้ประหยัด ทำยังไง?

พฤติกรรมการขับขี่ของคุณส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในรถยนต์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบบ ICE หรือ Hybrid ก็ตาม แต่สำหรับ รถยนต์ไฮบริด นั้นมีความอ่อนไหวมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินแบบปกติ ดังนั้นแล้วรูปแบบการขับขี่จึงมีแนวโน้มที่ส่งผลกระทบมากกว่า โดยทั่วไปรถ Hybrid ส่วนมากมักจะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้หลากหลาย อาทิ โหมดปกติ (ใช้น้ำมันเบนซินผสมไฟฟ้า), โหมด EV (ใช้ไฟฟ้าล้วน), โหมดสปอร์ต (ใช้กำลังเครื่องยนต์เป็นหลัก) และ โหมด Eco (ประหยัดน้ำมันสูงสุด) ซึ่งคุณสามารถเลือกปรับโหมดได้ตามวัตถุประสงค์ของตัวเองในแต่ละการเดินทาง และหากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ จะช่วยเพิ่มระยะทางต่อน้ำมันหนึ่งถังให้กับรถยนต์ไฮบริดของคุณ 

• ใช้โหมด EV ในการเดินทางระยะสั้นๆ เพราะการทำงานในโหมด EV เป็นการดึงพลังงานจากแบตเตอรีเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะช่วยสร้างศักยภาพในการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น และเหมาะกับการเดินทางในระยะสั้นๆ ที่ใช้ความเร็วต่ำและคงที่ แต่ข้อควรระวังก็คือการทำงานในโหมดนี้จะกินพลังงานทันที เมื่อคุณใช้ความเร็วมากเกินกำหนด 
• เปลี่ยนเป็นโหมด ECO เมื่อขับขี่บนถนนหลัก วัตถุประสงค์ของการเปลี่ยนเป็นโหมด ECO ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนกำลังเครื่องยนต์หรือเพิ่มความเร็ว แต่จะช่วยลดระดับความไวของคันเร่ง ทำให้อัตราสิ้นเปลื่องเชื้อเพลิงลดน้อยลง พูดง่ายๆ ก็คือการใช้งานในโหมดนี้เพื่อไม่ต้องการให้คันเร่งไวเป็นพิเศษนั่นเอง 

• หลีกเลี่ยงการใช้เบรกหนัก เพราะการเบรกกะทันหันมีความเสี่ยงต่อความเสียหายของยานพาหนะทุกประเภท และสำหรับในรถยนต์ไฮบริดจะทำให้ศูนย์เสียพลังงานจากแรงเสียดทานของการเบรก รถจะดูดพลังงานไฟฟ้าไปอย่างรวดเร็ว และการทำงานอย่างรวดเร็วไม่ได้ทำให้ระบบดึงพลังงานกลับไปใช้ การเบรกที่จะช่วยสร้างพลังงานคืนคือคุณจะต้องลดแรงกดบนแป้นเบรก โดยการกะระยะให้เพียงพอที่จะสามารถดึงพลังงานกลับเข้าสู่ระบบได้ 
• ปล่อยให้รถไหลช่วย Regenerate พลังงาน ในกรณีนี้เหมือนกับการผ่อนคันเร่งในขณะที่รถเคลื่อนที่ มอเตอร์จะสร้างพลังงานที่สูญเสียไปขึ้นมาใหม่ เป็นการหมุนเวียนพลังงานไฟฟ้า และดึงกลับคืนมาเพื่อเพิ่มพลังให้กับแบตเตอรี ยิ่งสร้างความหน่วงให้กับตัวรถมากแค่ไหน ก็จะยิ่งชาร์จไฟกลับเข้ามาเก็บในแบตเตอรีมากขึ้น วิธีการที่จะช่วยให้รถมีความหน่วงสามารถทำได้หลายวิธี อาทิ ใช้เกียร์ต่ำเวลาปล่อยรถไหลลงเขา หรือ ถ้าเห็นว่าข้างหน้าเป็นไฟแดง ให้ใช้เกียร์ต่ำแล้วปล่อยให้รถไหล จะเป็นการช่วยลดการใช้เบรก ซึ่งในรถบางรุ่นจะมีฟังก์ชันให้เลือกระดับความหน่วง เช่นในรถยนต์ Honda จะมีแป้น e-Paddle ที่สามารถปรับระดับความหน่วงได้ 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณจะมีเคล็ดลับมากมาย แต่จำไว้ว่าวิธีเหล่านี้เป็นเพียงคำแนะนำทั่วไปที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะ และประสิทธิภาพการเผาไหม้เชื้อเพลิงของรถยนต์นั้นๆ ด้วย รวมไปถึงรถยนต์ไฮบริดแต่ละแบรนด์ จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันอีกด้วย  

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน