Honda CR-V 2024 “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่” เจเนอเรชันที่ 6 เปิดตัวแล้วกระแสตอบรับดีมาก หน้าตาดี ราคาได้ เครื่องยนต์มีให้เลือกหลากหลาย ระบบความปลอดภัย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย
รีวิว Honda CR-V 2024 สุดยอดรถที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
Honda CR-V 2024 ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดรถยนต์ ในสภาวะการตลาดที่เรียกว่าการแข่งขันสูงมากๆ ทั้งรถยนต์ใหม่ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่เรียกได้ว่าลดแลกแจกแถมกันกระจายเลย แต่รถที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนืองนั้นคือ Honda CR-V นั่นเอง เรียกได้ว่ากระแสไม่มีตก ถึงจะโดนแย่งชิงส่วนแบงไปบ้างแต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นรถยอดนิยม
จุดเด่นของ Honda CR-V 2024
แล้วทำไม Honda CR-V ยังคงยืนหนึ่งได้
- การที่รถมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานย่อมทำให้ความไว้ใจเชื่อมั่นค่อนข้างดีแน่นอน ส่วนหนึ่งลูกค้าเก่าๆก็รู้สึกดี
- หน้าตาที่ต้องยอมรับว่า Honda CR-V เจเนอเรชันที่ 6 ทำออกมาได้ค่อนข้างดีลงตัว
- การพัฒนาที่ดีขึ้นในหลายๆ เรื่องทั้งการขับขี่ที่ดีขึ้น เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพให้อัตราการประหยัดที่ดี
- ภายในรถที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลายที่สำคัญกับเบาะที่สามารถปรับได้หลากหลายรูปแบบ
- การที่มีศูนย์บริการเยอะย่อมได้รับความไว้ใจมากว่ารถที่พึ่งเปิดตัว
- ราคาแม้ว่าจะสูง แต่ถ้ามองระยะยาวขายต่อก็มีราคาที่ดีเช่นเดียวกัน
ข้อดีมีเยอะแล้วข้อเสียมีไหม
- การแข่งขันสูงออฟชั่นรถใหม่ๆ จัดเต็มมากถ้ายังกั๊กออฟชั่นอยู่รุ่นใหม่จะเหนื่อยอย่างแน่นอน
- Honda CR-V มีราคาค่าตัวที่สูงแต่ยังใส่ออฟชั่นแบบไม่เต็มที่ก็มีผลต่อยอดขายอย่างแน่นอน
รุ่นย่อยและราคา Honda CR-V 2024
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ดังนี้
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- Honda CR-V รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท
- Honda CR-V รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท
เครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- Honda CR-V รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท
- Honda CR-V รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท
- Honda CR-V รุ่น E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV ใน ซีอาร์-วี ใหม่
ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 2,000 รอบต่อนาที มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่น e:HEV ES) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
มาพร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่
- โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)
- โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode)
- โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)
Honda CR-V 2024 ขุมพลังเทอร์โบ
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยใน Honda CR-V 2024
Honda CR-V 2024 มาพร้อม ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
เทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ
- ใหม่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
- ใหม่ เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
- ใหม่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
- ใหม่ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
สรุป
สำหรับ HONDA CR-V 2024-2025 เชื่อว่าก็ยังคงเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แน่นอนแต่ถ้าจะให้ดีคงต้องปรับตัวโดยการฟังเสียงของลูกค้าให้มากขึ้นในการใส่ออฟชั่นต่างๆเพราะถ้ายังคงคิดว่า ออกมาแบบไหนก็ขายได้เชื่อได้ว่ารุ่นใหม่ค่อนข้างเหนื่อยอย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม: รถ Hybrid รุ่นไหนน่าสนใจ พร้อมเปรียบเทียบราคารถไฮบริดแต่ละรุ่น
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น