ส.อ.ท.ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ ปี 2567 จาก 1,700,000 คันเป็น 1,500,000 คัน Share this

ส.อ.ท.ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ ปี 2567 จาก 1,700,000 คันเป็น 1,500,000 คัน

Wongsupat
โดย Wongsupat
โพสต์เมื่อ 25 November 2567

ส.อ.ท.ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2567 ลดลง 2 แสน ทั้งขายในและส่งออก จาก 1,700,000 คันเป็น 1,500,000 คัน ปรับการผลิตขายในประเทศลดลงจาก 550,000 คันเป็น 450,000 คัน และการผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1,150,000 คัน เป็น 1,050,000 คัน


ส.อ.ท.ปรับเป้าลดผลิตขายรถยนต์ในประเทศและส่งออกอย่างละแสนคัน

สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พ.ศ. 2567 (ใหม่) ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2567 จาก 1,700,000 คันเป็น 1,500,000 คัน ลดลง 200,000 คัน โดยปรับการผลิตขายในประเทศลดลงจาก 550,000 คันเป็น 450,000 คัน และการผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1,150,000 คัน เป็น 1,050,000 คัน

ตัวเลขยอดขายรถเดือนต.ค.37,691 คัน ต่ำสุดรอบ 54 เดือน

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 37,691 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 36.08 ต่ำสุดในรอบ 54 เดือนนับตั้งแต่ยกเลิกล๊อคดาวน์จากการระบาดโรคหวัด 19 เดือนพฤษภาคม 2563 จากการเข้มงวดในการให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินเป็นหลัก ส่งผลให้จำนวนบัญชีผู้กู้ซื้อรถยนต์ในไตรมาสสามมี 6,365,571 บัญชีลดลงจากไตรมาสสอง 75,377 บัญชีเท่ากับร้อยละ 1.2

และลดลงจากไตรมาสสามปี 2566 จำนวน 199,655 บัญชีหรือร้อยละ 3.0 จำนวนเงินหนี้รถยนต์ไตรมาสสาม 2,465,204 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสสองร้อยละ 2.8 และลดลงร้อยละ 5.8 จากไตรมาสสามปี 2566 รถบรรทุกลดลงจากเศรษฐกิจของประเทศที่ยังอ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำและหนี้ครัวเรือนสูง ดัชนีภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำที่ร้อยละ 0.1 ในไตรมาสสาม

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 21,814 คัน เท่ากับร้อยละ 57.67 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 33.21

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 11,562 คัน เท่ากับร้อยละ 30.68 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 27.80
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 3,717 คัน เท่ากับร้อยละ 9.86 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 49.73
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 227 คัน เท่ากับร้อยละ 0.60 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 187.34
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 6,308 คัน เท่ากับร้อยละ 16.74 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 31.23

รถกระบะมีจำนวน 10,896 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 41.65 รถ PPV มีจำนวน 2,451 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 43.33 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,270 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 33.02 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,260 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 10.57

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 140,113 คัน เพิ่มขึ้น จากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 18.86 และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 3.80

บทความที่น่าสนใจ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

 


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ