SUZUKI ขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสี พร้อมยกระดับไปอีกขั้นด้วยงานบริการแบบ S-Solution ซึ่งเป็นการช่วยเสริมให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เตรียมจะนำมาจำหน่ายในอนาคต ประกอบไปด้วยรถประเภทไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า 100%
เปิดศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานเพิ่ม 7 สาขา รองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รุ่น ในปีหน้า
ทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า หนึ่งในแผนงานสำคัญจากแคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” คือการร่วมมือกับทางผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน เพื่อรองรับงานบริการได้อย่างครบครัน ซึ่งได้มีการแนะนำศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ไปแล้วจำนวน 32 แห่ง
เชื่อมั่นว่าลูกค้าซูซูกิ คือ คนสำคัญ จึงทำการเดินหน้าแผนงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ด้วยการเปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิเพิ่มเติมอีก 5 แห่ง ให้สามารถรองรับการดูแลลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานของซูซูกิอย่างแท้จริง
นอกจาก การขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีฯ ซูซูกิยังยกระดับไปอีกขั้นด้วยงานบริการแบบ S-Solution ซึ่งเป็นการช่วยเสริมให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เตรียมจะนำมาจำหน่ายในอนาคต โดยประกอบไปด้วยรถประเภทไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าแต่ละรุ่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน
เปิดศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานเพิ่ม 7 สาขา
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ร่วมมือร่วมใจกับผู้จำหน่ายในการพัฒนาและเดินหน้าการยกระดับงานบริการให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ซูซูกิได้ร่วมกับผู้จำหน่ายในพิธีแต่งตั้งศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิอย่างเป็นทางการ จำนวน 5 ราย แบ่งออกเป็น 7 สาขา ครอบคลุมพื้นที่บริการในหลายจังหวัดมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
ตาราง
โดยผู้จำหน่ายทั้ง 5 ราย ผ่านการรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ปัจจุบันจึงมีศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีที่ให้บริการทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 39 สาขา ซึ่ง 5 จุดแข็งอันสำคัญที่ทุกศูนย์บริการที่ผ่านมาตรฐานต้องมี ประกอบด้วย
- อะไหล่แท้ซูซูกิ : เชื่อมั่นในคุณภาพของอะไหล่แท้ที่ได้รับรองมาตรฐานของซูซูกิ
- บริการอย่างมืออาชีพ : มั่นใจในบริการและการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพเป็นมิตรและใส่ใจทุกรายละเอียดการซ่อมโดยช่างผู้มีความชำนาญที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการอบรมในการซ่อมรถยนต์ซูซูกิ
- เครื่องมือมาตรฐานซูซูกิ : ใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจากซูซูกิ ช่วยให้การซ่อมมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมั่นใจในคุณภาพงานซ่อม
- สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับรองมาตรฐานซูซูกิ : ใช้สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของซูซูกิ ทำให้สีรถสวยงามและทนทาน เหมือนใหม่จากโรงงาน
- การรับประกันงานซ่อม : รับประกันงานซ่อมว่ามีคุณภาพและมาตรฐานสร้างความอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยจะรับประกันงานซ่อม 1 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และอะไหล่รับประกัน 1 ปี หรือ 20,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ซูซูกิยังมีแผนงานที่จะขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ เพิ่มเติมให้เป็น 50 แห่ง ภายในเดือนมีนาคม 2568 เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของซูซูกิและรองรับลูกค้าพร้อมส่งมอบบริการและประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบครันอีกด้วย
นอกจากการขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ งานบริการด้านอื่นๆ ยังถูกยกระดับเพิ่มเติมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ในแบบ Real Time ซึ่งช่วยให้ทราบถึงประวัติการเข้ารับบริการของลูกค้า และสามารถประเมินความต้องการ ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ
บทความที่น่าสนใจ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น