รีวิว HAVAL JOLION เอสยูวี ไฮบริด ออปชั่นแน่น ราคาประหยัด

HAVAL JOLION อีกหนึ่งความคุ้มค่า ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน ในราคาไม่ถึงหนึ่งล้านบาท

ย้อนกลับไปหลายปีก่อน การที่เราจะได้เห็นฟังก์ชั่นอันล้ำสมัยในรถยนต์ ถือเป็นเรื่องที่หาเจอได้ยากมาก แถมยังมีราคาที่แพงลิบลิ่วจับต้องได้ยาก แต่ในปี 2024 นี้ ยุคแห่งเทคโนโลยี แม้ข้าวของจะแพงขึ้น แต่ราคารถยนต์ที่ขายในไทยกลับสวนทาง แข่งขันกันดุเดือดทั้งในเรื่องของราคา คุณภาพ และออปชั่นที่คุ้มค่า เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด รวมถึง GWM ค่ายรถชั้นนำจากจีน ที่เข้ามาทำตลาดในไทยเป็นแบรนด์แรก ๆ บุกเบิกตลาดยานยนต์ไทยด้วย ORA GOODCAT รถไฟฟ้ารุ่นสร้างชื่อ และหลังจากนั้นก็ทยอยเปิดตัวรถในเครือ GWM อีกหลายแบรนด์ ทั้ง ORA ,HAVAL ,TANK มีตัวเลือกที่ครอบคลุมทั้งรถไฟฟ้า 100% และรถน้ำมันไฮบริด รวมถึงรุ่นที่ออโต้สปินน์นำมารีวิวในบทความนี้ อย่าง HAVAL JOLION

ราคา HAVAL JOLION 2024

• รุ่น Sport ราคา 799,000 บาท
• รุ่น Ultra ราคา 999,000 บาท

รับชมรีวิวรูปแบบวีดีโอ ได้ที่นี่

สำหรับรุ่นที่ออโต้สปินน์ได้นำมาขับทดสอบครั้งนี้ คือ HAVAL JOLION รุ่น Ultra ราคา 999,000 บาท ซื้อตอนนี้รับส่วนลด 1 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย 0% ด้วยราคาที่น่าคบหา จึงทำให้รุ่นนี้น่าสนใจมาก ๆ แต่จะคุ้มค่ากับราคาหรือไม่ มาดูกันครับ

มิติตัวถัง Haval Jolion รุ่น Ultra

• ยาว 4,472 มม.
• กว้าง 1,841 มม.
• สูง 1,626 มม.
• ระยะฐานล้อ 2,700 มม.
• ความสูงใต้ท้องรถ 168 มม.

ดีไซน์ภายนอก Haval Jolion รุ่น Ultra

โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Star Matrix และโลโก้ HAVAL ในส่วนของไฟหน้าเป็นแบบ Intelligent LED มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ซึ่งไฟหน้าแต่ละข้าง ด้านในจะมีทั้งหมด 3 ดวง ทำหน้าที่เป็นไฟต่ำและไฟสูง พร้อม Daytime Running Light มีระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค และระบบ Follow Me Home ไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์

กล้องหน้าถูกติดตั้งที่กึ่งกลางกระจัง มีเซนเซอร์ด้านหน้า 6 จุด ที่ด้านบนของกระจกหน้าจะมีกล้อง ทำหน้าที่ในการตรวจจับเส้นเลนถนน แสงไฟ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยจะทำงานให้กับระบบความปลอดภัยหลายระบบของรถคันนี้

กระจกมองข้างปรับและพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า มีไฟเลี้ยวให้ในตัว พร้อม Blind spot และกล้อง

หลังคาซันรูฟพาโนรามิคขนาดใหญ่ เปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้า หรือจะใช้คำสั่งเสียงก็ได้ เพียงแค่พูดว่า "สวัสดีฮาวาล เปิดซันรูฟ"

รุ่น Ultra จะได้เป็นล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ต่างจากรุ่น Sport ที่เป็นสีดำทั้งวง ยางขนาด 225/55 R18 ดิสก์เบรก 4 ล้อ 

ระบบช่วงล่าง Haval Jolion

• ด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut)
• ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Vertical Arm Torsion Beam)

ไฟท้าย LED เต็มระบบ ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ชุดดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์สปอร์ต กล้องหลังติดตั้งเหนือป้ายทะเบียน พร้อมเซนเซอร์ด้านหลังอีก 6 จุด

ดีไซน์ภายใน Haval Jolion รุ่น Ultra

Haval Jolion รุ่น Ultra โดดเด่นด้วยการออกแบบภายใน ภายใต้แนวคิด “Futuristic” กว้างขวาง สะดวกสบาย ตกแต่งด้วยโทนสีดำ-เทา เบาะฝั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ฝั่งคนนั่งข้างปรับแมนนวล 4 ทิศทาง

พวงมาลัยไฟฟ้า สามารถปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ มีปุ่มมัลติฟังก์ชั่นสำหรับควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ รวมถึงปุ่มตั้งค่า Adaptive Cruise Control

หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 7 นิ้ว สำหรับดูค่าต่าง ๆ ของตัวรถ

จอ Head Up Display สำหรับแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากเลนถนน แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถเข้าไปตั้งค่าปิดหน้าจอ HUD ได้

หน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth MP3, Joox และ Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊ม และ ห้างสรรพสินค้า

เมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย หน้าจอจะตัดภาพเป็นกล้องหลัง พร้อมกล้องมุมมอง 360 องศา ความละเอียดคมชัด โดยจะแสดงภาพรถเราเป็นรูปรถจำลอง ส่วนแวดล้อมภายนอกจะเป็นภาพจริง สามารถเลือกดูกล้องแต่ละมุมได้

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา ซึ่งการปรับอุณหภูมิและระดับความแรงลม จะต้องเข้ามาปรับที่หน้าจอเครื่องเล่นตรงกลาง

ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ใช้งานง่ายเพียงแค่เอาโทรศัพท์ไปวาง

เบาะหลังนุ่มกำลังดี นั่งโดยสารทางไกลไม่รู้สึกเมื่อย พนักพิงพับได้แบบ 60:40 เมื่อพับลงไปแล้วจะเรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีแอร์ด้านหลังให้ด้วยครับ จากการทดลองนั่งโดยสารแบบนาน ๆ ถือว่านั่งได้สบายครับ ตัวฟองน้ำนุ่มกำลังดี ฐานเบาะใหญ่นั่งแล้วเต็มก้น พื้นที่วางเท้าเหลือเยอะ นั่งแล้วไม่รู้สึกอึดอัด

เมื่อมองในภาพรวมของภายใน จะเห็นได้ว่าปุ่มต่าง ๆ ในรถจะมีอยู่น้อยมากครับ เพราะเป็นการรวบรวมปุ่มทั้งหมดไปไว้ที่จอ รวมถึงโหมดการขับขี่ด้วย นั่นเท่ากับว่าเวลาเราจะตั้งค่าต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบในรถ เราจะต้องควบคุมผ่านที่ตัวหน้าจอกลางเป็นหลัก ใช้งานแรก ๆ อาจจะงง ไม่รู้ว่าเมนูไหนอยู่ตรงไหน แต่พอใช้งานไปสักพักก็จะเริ่มชินครับ

เครื่องยนต์ Haval Jolion

Haval Jolion ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 375 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด

ทดสอบขับขี่ Haval Jolion รุ่น Ultra

แม้เครื่องยนต์จะแค่ 1.5 ลิตร แต่ด้วยความที่เป็นรถไฮบริด จึงได้แรงม้าและแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วย ส่งผลให้มีแรงม้ารวมสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 375 นิวตันเมตร ซึ่งมันก็เพียงพอที่จะทำให้พุ่งทะยานจากความเร็ว 0-100 กม./ชม. โดยใช้เวลาประมาณ 9 วินาที ในโหมดสปอร์ต ถือว่าแรงใช้ได้เลยทีเดียว แต่มีข้อแม้อยู่ว่าแบตเตอรี่จะต้องมีไฟเหลืออยู่นะครับ ถ้าเมื่อไหร่ที่ไฟในแบตหมด ความแรงจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ต้องกังวลไปว่าไฟในแบตเตอรี่มันจะหมดไปได้ง่าย ๆ เพราะเจ้าคันนี้มีเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) หรือที่เราเรียกกันว่า One Pedal สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว จังหวะที่ยกคันเร่งตัวรถจะรู้สึกหน่วงราวกับว่าเราแตะเบรกเบา ๆ ซึ่งความหน่วงที่เกิดขึ้นนี้ นอกจากจะลดการใช้เบรกได้แล้ว มอเตอร์จะปั่นไฟเข้าไปเก็บในแบตได้ไวขึ้นอีกด้วย จากการทดสอบเรื่องอัตราเร่ง ก็ต้องถือว่าเป็นรถที่ขับสนุก อัตราเร่งดี เร่งแซงได้ทันใจแบบไม่ต้องลุ้นเลยล่ะครับ

โหมดการขับขี่ 4 โหมด จากการทดสอบ มีความแตกต่างดังนี้

• โหมดประหยัด (ECO) คันเร่งจะรู้สึกหน่วงกว่าโหมดอื่น ๆ เพราะเน้นประหยัด
• โหมดมาตรฐาน (Normal) คันเร่งไวกว่าโหมด Eco เป็นการขับแบบปกติทั่วไป คันเร่งตอบสนองตามเท้า
• โหมดสปอร์ต (Sport) คันเร่งไว รอบจัดขึ้น เหยียบคันเร่งในน้ำหนักเท่ากันแต่รถจะพุ่งแรงกว่าโหมดอื่น ๆ
• โหมดพื้นหิมะ (Snow) จะเหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนลื่น โดยระบบจะใช้เกียร์สูง เพื่อลดการฟรีของล้อ

นอกจากนี้ ยังมีโหมดสำหรับการขับลุยน้ำ โดยโหมดนี้เครื่องยนต์จะทำงาน 100% และจะตัดการทำงานของระบบไฮบริดเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ช่วงล่างเอาอยู่มั้ย ?

ช่วงล่างของ Haval Jolion จะออกแนวเฟิร์มแต่ไม่ถึงกับกระด้าง ซึ่งจะต่างจากรุ่นพี่ Haval H6 ที่ออกไปทางนุ่ม เมื่อต้องใช้ความเร็วในการเข้าโค้ง หรือต้องสาดโค้งแรง ๆ ให้ความรู้สึกมั่นใจในระดับนึง ช่วงความเร็วต่ำเก็บอาการของหลุมต่าง ๆ ได้ดี ในความเร็วสูงตัวรถนิ่งควบคุมได้ง่าย จังหวะที่ขับจั้มคอสะพานตัวรถไม่มีอาการดีดให้รู้สึกเสียว

ในเรื่องของการเก็บเสียงนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ จะเริ่มได้ยินเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาที่ความเร็วประมาณ 110 กม./ชม.

ทดสอบระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)

Haval Jolion รุ่น Ultra มาพร้อมกับกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ประสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ EYEQ4 ของโมบายอาย ช่วยควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในช่วงความเร็วที่กำหนดไว้ โดยจะปรับลดความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างรถยนต์คันหน้าเพื่อความปลอดภัย รวมไปถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า จากการทดสอบ ก็ถือว่าทำงานได้สมูทดีครับ จังหวะที่รถคันหน้าเบรก รถเราก็จะค่อยๆเบรกแบบไม่หัวทิ่ม โดยจะทำงานให้จนถึงจุดหยุดนิ่ง และเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ รถเราก็จะค่อย ๆ เคลื่อนที่แบบไม่กระชาก

ทดสอบระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP)

เป็นการใช้เซ็นเซอร์และกล้องในการตรวจสอบ เพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ จากนั้น ระบบจะทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ไม่ว่าจะเป็นการจอดแบบแนวตรง แนวเฉียง และการจอดเทียบข้าง จากการทดสอบ ก็ถือว่าระบบทำงานได้ดี แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขด้วยนะครับ เช่น เส้นช่องจอดต้องชัด หรือถ้าไม่มีเส้นช่องจอด ระบบก็จะตรวจจับรถคันที่จอดอยู่ก่อนหน้าเรา เป็นต้น ซึ่งระบบช่วยจอดนี้ เหมาะสำหรับมือใหม่เลยทีเดียว จอดได้ตรงเป๊ะ แต่อาจใช้เวลานิดนึงครับ

สรุปโดยรวมก็ถือว่ารุ่นนี้ ตอบโจทย์ความคุ้มค่าได้ดีครับ ราคาไม่ถึงล้าน แต่ได้ฟังก์ชั่นต่าง ๆ แบบจัดเต็ม ในเรื่องของพละกำลัง ถึงแม้เครื่องยนต์จะแค่ 1.5 ลิตร แต่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาร่วมทำงานด้วยจึงทำให้ได้พละกำลังที่ดี ขับสนุก ใช้งานได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง ในส่วนของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เท่าที่ผมได้ทดสอบ ถ้าขับแบบเน้นให้ประหยัดจะได้ประมาณ 17-19 กม./ล. แต่ถ้าขับแบบใช้งานทั่วไปจะได้ประมาณ 14 กม./ล. ซึ่งก็เทียบเท่ากับรถเอสยูวีทั่ว ๆ ไป

ราคา HAVAL JOLION 2024

• รุ่น Sport ราคา 799,000 บาท (รับส่วนลด 40,000 บาท เมื่อซื้อเงินสด)
• รุ่น Ultra ราคา 999,000 บาท (รับส่วนลด 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 0%)

HAVAL JOLION มีให้เลือก 4 สี ได้แก่

• สีดำ (Sun Black)
• สีเทา (Ayers Gray)
• สีขาว (Hamilton White)
• สีแดง (Burgundy Red)

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน