เปิดวาร์ปรถ "ซุปเปอร์คาร์ที่น่าจับตามองในปี 2025" จากแบรนด์ดังหลากค่ายหลายสไตล์ มีคันไหนเตะตาคุณได้บ้าง... ไปชมกันค่ะ
ซุปเปอร์คาร์ที่น่าจับตามองปี 2025
อย่างที่ทราบกันดีว่าโลกเราอยู่ในภาวะสงคราม ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายรถยนต์ทั่วโลกหดตัวลงอย่างมาก แต่ไม่ใช่สำหรับ "รถยนต์หรู" หรือ "ซุปเปอร์คาร์" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งพบว่ายอดขายรถยนต์หรูยังคงสามารถเติบโตสวนทางกับยอดขายรถยนต์ประเภทอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยอดขายรถหรูในตลาดประเทศจีน สำหรับในประเทศไทยบ้านเราก็เช่นเดียวกัน นอกจากจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังขยายลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย นั่นหมายความว่าศักยภาพและกำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในไทยยังคงแข็งแกร่งอยู่มากพอตัว ดังนั้นแล้ววันนี้เลดี้จะมาชี้เป้า รถซุปเปอร์คาร์ที่น่าจับตามองในปี 2025 จะมีคันไหนน่าสนใจบ้างไปชมกันค่ะ
- Aston Martin Valhalla
- Mercedes-AMG PureSpeed
- Maserati GranTurismo 110 ANNIVERSARIO
- Alfa Romeo 33 Stradale
- Lamborghini Revuelto Opera Unica
Aston Martin Valhalla
Aston Martin Valhalla ซุปเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริดเครื่อง V8 วางกลาง ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 999 คัน โดยถูกวางตำแหน่งให้ขั้นกลางระหว่าง Valkyrie และ Vanquish มาพร้อมกับโครงสร้างโมโนค็อกคาร์บอนไฟเบอร์ที่พัฒนาร่วมกับ AMPT (Aston Martin Performance Technologies) ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ซึ่งสามารถสร้างแรงกดได้มากกว่า 600 กก. ในความเร็ว 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีปีกหน้าแบบแอ็คทีฟใหม่ ทำงานร่วมกับปีกหลังแบบแอ็คทีฟที่จะยกตัวขึ้นเมื่อคุณใช้งานในโหมด Race พร้อมระบบ DRS ท่อไอเสียแยกออก 4 ท่อ โดยคู่นึงจะอยู่ด้านบนส่วนอีกคู่จะอยู่ใต้ดิฟฟิวเซอร์ ในส่วนของช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ Push Rod ด้านหลัง 5link ติดตั้งโช้คอัพ Bilstein DTX ตัวล่าสุด พร้อมจานเบรกคาร์บอนเซรามิกด้านหน้าขนาด 410 มิลลิเมตร และคาลิปเปอร์ 6 สูบ ด้านหลังขนาด 390 มิลลิเมตร และคาลิปเปอร์ 4 สูบ ล้อฟอร์จขอบหน้า 20 นิ้ว หลัง 21 นิ้ว รัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport S 5 รหัส AML
ภายในห้องโดยสารดีไซน์ดุดันแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา ติดตั้งหน้าจอแดชบอร์ดขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ตรงกลางขนาดเท่ากัน 10.25 นิ้ว ซึ่งทั้ง 2 จอนี้จะแสดงข้อมูลต่างๆ ของตัวรถแบบละเอียดยิบที่ออกแบบมาเพื่อ Valhalla โดยเฉพาะ เบาะโดยสารคาร์บอนไฟเบอร์จัดวางตำแหน่งเพียงที่นั่งเดียวสไตล์รถแข่ง F1 ร่วมสุนทรีย์ไปกับระบบเสียงรอบทิศทางของ Bowers & Wilkins พร้อมลำโพง 14 ตัว 745 วัตต์
Valhalla มาพร้อมกับขุมพลัง PHEV ปลั๊กอินไฮบริด V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ผลิตพละกำลังรวม 1,079 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,100 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 2.5 วินาที Top Speed อยู่ที่ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง ติดตั้งเกียร์ 8 สปีด DCT คลัทซ์คู่ พร้อม e-reverse โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเวลาถอยหลัง และ Electronic Limited-Slip Differential (E-Diff)
Mercedes-AMG PureSpeed
Mercedes-AMG PureSpeed เป็นรถรุ่นพิเศษคันแรกใน Mercedes Mythos Series เพิ่งเผยตัวครั้งแรกก่อนการแข่งขัน F1 Abu Dhabi Grand Prix รถยนต์สมรรถนะสูง 2 ที่นั่ง แบบไม่มีหลังคารวมถึงกระจกบังลมด้านหน้า นั่นหมายความว่ารถคันนี้เค้าไม่มีเสา A แต่แทนที่ด้วยโครงเหล็กกล้าพาดกลางตัวรถ เรียกว่าระบบ HALO ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในรถ F1 ไว้กรณีที่เกิดอุบัติเหตุจะสามารถปกป้องศีรษะของผู้ขับขี่ได้ รวมถึงมีโรลบาร์แข็ง 2 จุด ถัดจากเบาะหลังเรา พร้อมกับแถมหมวกกันน็อคที่ออกแบบพิเศษให้มาด้วย 2 ใบ ซึ่งภายในหวมกจะมีระบบอินเตอร์คอมไว้ใช้ในการสื่อสารกันระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
ตัวถังใช้โครงสร้างอะลูมิเนียมสเปซเฟรม ซึ่งประกอบไปด้วย อะลูมิเนียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์คอมโพสิต เหล็ก และคาร์บอนไฟเบอร์ ใต้ท้องรถเสริมด้านอากาศพลศาสตร์คล้ายกับ AMG GT 63 PRO เพื่อชดเชยที่ไม่มีหลังคาและเพิ่มแรงกด มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบกึ่งแอคทีฟไฮดรอลิก และให้เบรกคาร์บอนเซรามิคแบบมาตรฐาน PureSpeed ใช้เครื่องยนต์ AMG 4.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ ผลิตพละกำลังสูงสุด 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 3.6 วินาที Top Speed อยู่ที่ 315 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่งกำลังด้วยเกียร์ 9 สปีด AMG SPEEDSHIFT MCT 9G ขับเคลื่อนสีล้อ
ภายในห้องโดยสารติดตั้งด้วยนาฬิกาเข็มอนาล็อกสั่งทำพิเศษโดย IWC Schaffhausen บริเวณกลางแผงหน้าปัดยึดฐานด้วยคาร์บอนไฟเบอร์เงา เครื่องเสียงรอบทิศทาง 3 มิติ ของ Burmester พร้อมลำโพง 15 ตัว 1,170 วัตต์ บริเวณคอนโซลกลางประทับตรา "1 จาก 250" คัน
Maserati GranTurismo 110 ANNIVERSARIO
Maserati รถยนต์ซุปเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี ที่มีการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ได้เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนาน 110 ปี ของพวกเขาด้วยการเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นพิเศษ GranTurismo 110 ANNIVERSARIO ซึ่งมีให้เลือก 2 สไตล์ โดยจะแบ่งออกเป็นรุ่นละ 55 คัน มาพร้อมกับตัวถังภายนอกสีน้ำตาล Rame Folgore ห้องโดยสารสีทูโทนขาว Econyl Ghiaccio ตัดสีน้ำเงิน Denim เดินด้ายสีทองแดง ส่วนอีกรุ่นมาพร้อมกับตัวถังภายนอก สีน้ำเงิน Blu Inchiostro ห้องโดยสารสีทูโทนดำตัดน้ำเงิน ซึ่งทั้งสองรุ่นจะประดับตราตรีศูลพร้อมตัวเลข 110 ปี บริเวณเสา C ล้อและคาลิปเปอร์เบรกเป็นสีทองแดงพิเศษ
GranTurismo 110 ANNIVERSARIO หรือ GranTurismo Folgore ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ผลิตพละกำลัง 761 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,350 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับแบตเตอรี่ Lithium-ion เทคโนโลยี 800 โวลต์ ความจุ 92.5 kWh ทำให้วิ่งได้ไกลสูงสุด 450 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 2.7 วินาที Top Speed อยู่ที่ 325 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Alfa Romeo 33 Stradale
Alfa Romeo 33 Stradale ซุปเปอร์คาร์รุ่นพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียงแค่ 33 คันในโลก พร้อมส่งมอบคันแรกก่อนสิ้นปี 2024 นี้ จบการทดสอบในสนาม Nardò Technical Center ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นสนามแข่งรถวงกลมที่เร็วที่สุดในโลก เพื่อที่จะรีดเค้นประสิทธิภาพตัวรถออกมาให้ถึงขีดสุด โดยทำการตรวจสอบพารามิเตอร์พลวัตต่างๆ อย่างละเอียด อาทิ อากาศพลศาสตร์ ความเร็วสูงสุด อุณหภูมิสูงสุด ระบบระบายความร้อนขณะขับเคลื่อน และการเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร มีการทดสอบเพื่อประเมินความแม่นยำของระบบบังคับเลี้ยวและการตอบสนองของระบบเบรกในโหมดขับขี่ที่ต่างกัน ซึ่งในระยะเบรก 100-0 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถทำได้ต่ำกว่าระยะ 33 เมตร
จากการทดสอบ Top Speed ทำได้ 333 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในเวลาไม่ถึง 3 วินาที ด้วยขุมพลังขับเคลื่อน V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ผลิตพละกำลังได้ประมาณ 620 แรงม้า ติดตั้งระบบส่งกำลังด้วยเกียร์คลัทซ์คู่ 8 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง และเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์
33 Stradale เป็นผลงานสุดพิเศษจาก Carrozzeria Touring Superleggera บริษัทผู้เชี่ยวชาญงานสร้างตัวถังจากประเทศอิตาลี เป็นการดึงเอาความสมบูรณ์แบบขององค์ประกอบต่างๆ จากในรุ่นเดิมในปี 1967 มาปรับใช้ให้เข้ากับรถยนต์ยุคใหม่
Lamborghini Revuelto Opera Unica
Lamborghini เผยโฉม Revuelto Opera Unica สีแดงสุดร้อนแรง ในงาน 2024 Lamborghini Esperienza Arte ซึ่งจัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ เพื่อโชว์ลูกค้าชาวจีนให้เห็นถึงงานฝีมือ Ad Personam ของ Lamborghini ว่าสุดยอดแค่ไหน โดยที่ Revuelto Opera Unica คันนี้ผสมผสานไปด้วยความเร็ว พลัง และศิลปะได้อย่างลงตัว ตัวถังภายนอกเป็นการผสานของสีแดง Rosso Mars, แดง Arancio Dac และส้ม Arancio Apodis และยังมีงานไล่เฉดของสีดำ Nero Pegaso และสีแดง Rosso Efesto ในส่วนที่เราเห็นเป็นเส้นลายขีดๆ นั้นทำโดยช่างฝีมือพิเศษที่กินเวลามากถึง 480 ชั่วโมง
Revuelto Opera Unica มาพร้อมกับขุมพลังการขับเคลื่อนรหัส L545 ขนาด 6.5 ลิตร N/A ผลิตพละกำลัง 825 แรงม้า ที่ 9,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 725 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบ/นาที ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ที่ให้กำลังรวม 1,015 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ภายในเวลา 2.5 วินาที Top Speed มากกว่า 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ห้องโดยสารมาในโทนสีดำ Nero Ade ตัดกับสีแดง Rosso Efesto ที่ใช้เวลาในการสร้างสรรค์ผลงานถึง 53 ชั่วโมง เพื่อให้ได้งานเย็บแบบกลับด้านและขอบท่อที่ล้อมรอบ Logo แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ Opera Unica ผสานสีแดง Rosso Efesto และขาว Bianco Monocerus เข้าด้วยกัน
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ความคิดเห็น