ป้ายห้ามจอดรถมีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร? Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

ป้ายห้ามจอดรถมีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 30 January 2568

ทำความเข้าใจกับ ป้ายห้ามจอดรถ ว่ามีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างไร หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมายหรือไม่ และมีโทษปรับเท่าไหร่... ไปหาคำตอบกันค่ะ


ป้ายห้ามจอดรถมีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?

"ป้ายจราจร" เป็นเรื่องที่คนใช้รถใช้ถนนอย่างเราต้องทำความเข้าใจ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิบัติตาม แต่ป้ายต่างๆ เหล่านี้นอกจากจะมีหลายประเภทแล้วยังมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งในนั้นก็คือ "ป้ายห้ามจอดรถ" ที่เรามักจะพบบ่อยมากตามสองข้างทาง ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายประเภท เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เรามาศึกษาและทำความเข้าใจว่าป้ายห้ามจอดรถแต่ละชนิดมีความหมายอย่างไรกันค่ะ

ป้ายจราจร

 

ประเภทของป้ายห้ามจอดรถ

ป้ายห้ามจอดจะมีลักษณะเป็นวงกลมสีแดงสด พร้อมเส้นขีดเฉียง 45 องศาลงมา พื้นหลังของวงกลมจะเป็นสีน้ำเงิน ส่วนพื้นหลังป้ายจะเป็นสีขาว ถ้าเห็นป้ายลักษณะแบบนี้ให้เข้าใจไว้ก่อนเลยว่าบริเวณนี้เป็นโซนห้ามจอด โดยที่ป้ายห้ามจอดก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายชนิด มีท้้งป้ายบังคับ ป้ายเตือน และป้ายแนะนำ ซึ่งจะมี 3 ชนิดที่มักพบได้บ่อยๆ ดังต่อไปนี้ 

ป้ายห้ามจอดรถ

1. ป้ายห้ามจอดตลอดเวลา 

สำหรับป้ายประเภทนี้ เป็นป้ายที่ไม่ว่าจะเป็นรถประเภทไหนก็ห้ามจอดโดยเด็ดขาด ซึ่งลักษณะของป้ายจะพบลูกศรชี้ตามแนวถนนที่ห้ามจอด จะมีคำว่า "ตลอดเวลา" ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่ในบางป้ายก็อาจจะมีข้อยกเว้น เช่น ยกเว้นวันอาทิตย์ นั่นหมายความว่าเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้นที่จอดได้ นอกเหนือจากนั้นห้ามจอดทุกกรณี 

2. ป้ายห้ามจอดแบบระบุวันเวลา

ป้ายห้ามจอดประเภทนี้ จะมีการระบุเงื่อนไขค่อนข้างละเอียด โดยจะมีแนวของลูกศรระบุแนวการจอดไว้อย่างชัดเจน พร้อมระบุเงื่อนไขการจอดไว้อย่างละเอียด ซึ่งจะบอกว่าช่วงเวลาไหนจอดได้ ช่วงเวลาไหนจอดไม่ได้ เช่น ห้ามจอดวันคู่-วันคี่ หรืออาจจะระบุวันอย่างชัดเจนว่า ห้ามจอดวันอังคาร ห้ามจอดวันพุธ หรืออาจจะระบุช่วงเวลาห้ามจอดไว้ด้วย อย่างเช่น ห้ามจอดตั้งแต่ 05:00 ถึง 20:00 น. เป็นต้น

3. ป้ายห้ามจอดระบุประเภทรถ

เป็นป้ายที่มีการระบุประเภทของรถที่ห้ามจอดไว้ พร้อมด้วยระบุเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ห้ามจอดรถยนต์ที่มีขนาด 6 ล้อขึ้นไป เช่น ห้ามจอดวันคี่ เวลา 05:00 ถึง 20:00 รถ 6 ล้อขึ้นไปห้ามจอดตลอดแนวตลอดเวลา เป็นต้น ซึ่งป้ายนี้คนมักจะเข้าใจผิดว่าถ้าไม่ใช่ 6 ล้อขึ้นไปก็สามารถจอดได้ แต่จริงๆ แล้ว รถอื่นๆ ก็ห้ามจอดตามเงื่อนไขที่ระบุไว้เช่นเดียวกัน 

 

ตัวอย่างป้ายจราจรที่พบเห็นได้บ่อยๆ 

ป้ายจราจรห้ามจอดตลอดเวลา เวันวันอาทิตย์1. ห้ามจอดตลอดเวลา เวันวันอาทิตย์ : ความหมายคือ ห้ามจอดตลอดแนวทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์สามารถจอดได้ตลอดเวลา

ป้ายจราจรห้ามจอดตลอดแนวเวลา 05.00-22.00 น. เว้นวันหยุดราชการ2. ห้ามจอดตลอดแนวเวลา 05.00-22.00 น. เว้นวันหยุดราชการ : ความหมายคือ ห้ามจอดตลอดแนวช่วงเวลา 05.00-22.00 ของทุกวัน เว้นวันหยุดราชการสามารถจอดได้ตลอดเวลา

ป้ายจราจรห้ามจอดตลอดแนวทุกวันคี่3. ห้ามจอดตลอดเวลาทุกวันคี่ : ความหมายคือ ห้ามจอดตลอดแนวตลอดเวลาทุกวันคี่ ส่วนวันคู่ห้ามจอดในช่วงเวลา 06.00-20.00 น. (วันคู่คือวันที่เป็นเลขคู่ เช่น 2 4 6 วันคี่คือวันที่เป็นเลขคี่ เช่น 1 3 5 เป็นต้น)

ป้ายจราจรห้ามจอดตลอดแนวทุกวันคี่ วันคู่ห้ามจอดเวลา 06.00-09.00 น. และ 16.00- 22.00 น.4. ห้ามจอดตลอดแนวทุกวันคี่ วันคู่ห้ามจอดเวลา 06.00-09.00 น. และ 16.00- 22.00 น. : ความหมายคือ ห้ามจอดตลอดแนวตลอดเวลาทุกวันคี่ ส่วนวันคู่ห้ามจอดในช่วงเวลา 06.00-09.00 น. และ 16.00- 22.00 น. (วันคู่คือวันที่เป็นเลขคู่ เช่น 2 4 6 วันคี่คือวันที่เป็นเลขคี่ เช่น 1 3 5 เป็นต้น)

ป้ายจราจรห้ามจอดตลอดแนวทุกวันคู่ เสาร์-อาทิตย์ ห้ามจอดเวลา 05.00-20.00 น.5. ห้ามจอดตลอดแนวทุกวันคู่ เสาร์-อาทิตย์ ห้ามจอดเวลา 05.00-20.00 น. : ความหมายคือ ห้ามจอดตลอดแนวตลอดเวลาทุกวันคู่ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นวันคู่หรือวันคี่ ห้ามจอดเวลา 05.00-20.00 น. และรถ 6 ล้อขึ้นไปห้ามจอดตลอดแนวตลอดเวลา (วันคู่คือวันที่เป็นเลขคู่ เช่น 2 4 6 วันคี่คือวันที่เป็นเลขคี่ เช่น 1 3 5 เป็นต้น)

ป้ายจราจรฝั่งนี้วันคู่ห้ามจอด 06.00-18.00 น. ฝั่งตรงข้ามวันคี่ห้ามจอด 06.00-18.00 น. :6. ฝั่งนี้วันคู่ห้ามจอด 06.00-18.00 น. ฝั่งตรงข้ามวันคี่ห้ามจอด 06.00-18.00 น. : ความหมายคือ ฝั่งที่มีป้ายติดอยู่ ห้ามจอดเฉพาะวันคู่ เวลา 06.00-18.00 น.  ส่วนฝั่งตรงข้ามห้ามจอดเฉพาะวันคี่ เวลา 06.00-18.00 น. (วันคู่คือวันที่เป็นเลขคู่ เช่น 2 4 6 วันคี่คือวันที่เป็นเลขคี่ เช่น 1 3 5 เป็นต้น)

 

หากฝ่าฝืนป้ายจราจร มีโทษปรับตามกฎหมาย!

การจอดในพื้นที่ห้ามจอด มีความผิดตามกฎหมายจราจรฉบับใหม่ ปี 2567 จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผลบังคับใช้พร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีอัตราโทษปรับสูงสุดถึง 2,000 บาท เพื่อเพิ่มวินัยและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน และถึงแม้ว่าจะถูกเรียกว่า "ป้ายห้ามจอด" ก็ตาม แต่สามารถจอดได้แบบชั่วคราวเหมือนกัน โดยจะสามารถจอดได้ในระยะเวลาสั่นๆ ไม่เกิน 1-3 นาที ซึ่งผู้ขับขี่จะต้องห้ามลงจากรถเด็ดขาด เรียกง่ายๆ ก็คือ จอดเพื่อรับ-ส่ง เท่านั้น

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ