10 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2025 พร้อมวิธีเลือกซื้อ Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

10 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2025 พร้อมวิธีเลือกซื้อ

Chuenkamon Phasuk
โพสต์เมื่อ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในยุคที่มลพิษทางอากาศเป็นภัยคุกคามสุขภาพ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ กลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่คนให้ความสนใจ บ้างก็ว่าจำเป็น บ้างก็ว่าไม่ บทความนี้จึงมาตอบคำถามว่า เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ จำเป็นไหม จำเป็นกับใคร แล้วควรเลือกยี่ห้อไหนดี

เครื่องฟอกอากาศในรถ จำเป็นจริงหรือ ?

แม้ว่าภายในรถยนต์จะเป็นพื้นที่ปิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปราศจากมลพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพการจราจรติดขัด มลพิษที่สะสมในรถยนต์มีทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ไอเสียจากรถคันอื่น สารเคมีจากชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจปะปนอยู่ในอากาศ การมีเครื่องฟอกอากาศในรถจึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับบางคน เพราะหลายรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดมลพิษเหล่านี้นั่นเอง

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จำเป็นสำหรับใคร

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เครื่องฟอกอากาศในรถจะช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้และฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้หายใจได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

  • ผู้ที่ต้องขับรถเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัด ซึ่งจะได้รับมลพิษในปริมาณมาก การมีเครื่องฟอกอากาศจึงช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพจากมลพิษได้

  • ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง การมีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จะช่วยป้องกันร่างกายจากอันตรายของมลพิษได้

  • เด็กและผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มที่เปราะบางต่อมลพิษทางอากาศ การมีเครื่องฟอกอากาศในรถจะช่วยปกป้องสุขภาพของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น

  • ผู้ที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์ในรถยนต์ แม้จะไม่ได้มีเหตุผลด้านสุขภาพเป็นพิเศษ แต่บางคนก็ต้องการเพียงแค่อากาศที่สะอาดและสดชื่นในรถยนต์ เครื่องฟอกอากาศก็สามารถตอบโจทย์นี้ได้

เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนน่าใช้ 2025

1. เครื่องฟอกอากาศในรถ Philips 

สำหรับเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Philips ขอแนะนำรุ่น Philips GoPure 7101 นอกจากดีไซน์จะสวยงาม น่าใช้ ประสิทธิภาพในการกรองยังดีอีกด้วย แผ่นกรองได้รับการรับรองจาก Airmid ขจัดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้ 90% เลยทีเดียว

  • กรอง PM 2.5: ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศในรถ Philips GoPure 7101: 6,000 บาท (โดยประมาณ)

 

เครื่องฟอกอากาศในรถ Philips

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถ Philips GoPure 7101

  • กรอง PM 2.5 ในเวลาเพียง 6 นาที ค่า CADR สูงสุดถึง 22.9 ลบ.ม./ชม.
  • ค่า CADR ในการกรองแก๊สพิษ 14 ลบ.ม./ชม. สามารถกรองควันเสียจากรถยนต์ สารเคมีจากวัสดุพลาสติก และสารส่งกลิ่นอื่น ๆ อาทิ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) สารโทลูอีน และฟอร์มาลดีไฮด์
  • ค่า CADR ในการกรองไนโตรเจนไดออกไซด์ 18 ลบ.ม./ชม. และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ 15 ลบ.ม./ชม. ซึ่งทั้งสองเป็นควันอันตรายจากการจราจรที่เลี่ยงได้ยาก
  • เช็กคุณภาพอากาศทั้งภายในและภายนอกแบบเรียลไทม์ผ่านแอปได้
  • มีสัญญาณแจ้งเตือนเปลี่ยนแผ่นกรอง และยังสามารถกดสั่งซื้อแผ่นกรองอากาศผ่านแอปได้ในคลิกเดียว

*ค่า CADR คือ ค่าที่แสดงถึงปริมาณอากาศบริสุทธิ์ที่เครื่องฟอกอากาศผลิต (ค่ายิ่งสูง ยิ่งดี)

เครื่องฟอกอากาศในรถ Philips

2. เครื่องฟอกอากาศในรถ CONOCO

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ 2025 นาทีนี้ขอแนะนำรุ่น CONOCO C8 PRO มาอุดหนุนแบรนด์ไทยกันเถอะ เพราะคุณภาพของเจ้าเครื่องนี้ไม่แพ้แบรนด์อื่นเลย นอกจากจะกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 99.99% ยังกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ แถมยังใช้งานง่าย ติดตั้งได้ 3 ตำแหน่ง ทั้งที่วางแขน คอนโซลหน้ารถ หลังพนักพิง ที่สำคัญ ราคาถูก เข้าถึงง่ายมาก ๆ

  • กรอง PM 2.5: ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศ CONOCO C8 PRO: 4,990 บาท

 

เครื่องฟอกอากาศในรถ CONOCO

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถ CONOCO C8 PRO

  • ทำงานอัตโนมัติ แค่สตาร์ตรถ อากาศก็บริสุทธิ์ทันที
  • มีฟังก์ชัน UV ฆ่าเชื้อโรค เซ็นเซอร์ตรวจจับมลพิษ พร้อมแสดงผลหน้าเครื่อง
  • ใช้ไส้กรอง HEPA H13 เกรดเดียวกับห้องผ่าตัดโรงพยาบาล
  • หน้าจอแสดงผล LED แสดงคุณภาพอากาศ พร้อมตัวเลข
  • ใช้ได้กับรถยนต์ 4-11 ที่นั่ง
  • เครื่องทำงานเงียบ
  • รับประกัน 1 ปีเต็ม ไม่ซ่อมให้ แต่เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้เลย

3. เครื่องฟอกอากาศในรถ bwell

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ไร้สาย 2025 ที่กำลังมาแรง คือ bwell G9 ดีไซน์คล้ายพัดลมจิ๋ว มีสายหิ้วพกพาได้ เหมาะสำหรับรถยนต์และห้องขนาดเล็กไม่เกิน 10 ตารางเมตร สามารถฟอกอากาศได้ครบวงจร ตั้งแต่กรองฝุ่น ดูดกลิ่น และฆ่าเชื้อโรค ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส ความจุแบตเตอรีถึง 2600 mAh เลยล่ะ

  • กรอง PM 2.5: ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศ bwell G9: 4,990 บาท

เครื่องฟอกอากาศในรถ bwell

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถ bwell G9

  • มีระบบฟอกอากาศ 5 ขั้นตอน
  • มีแผ่นกรอง HEPA เกรด H13 ละเอียด 0.1 ไมครอน
  • มี Ionizer ช่วยสลายควันบุหรี่ และแสง UVA ระบบปิดกำจัดเชื้อโรค
  • ตั้งเวลาปิดได้ 2 ชม. และ 4 ชม.
  • เปิดปิดการทำงานระบบฆ่าเชื้อโรค UVA ได้
  • รับประกันมอเตอร์ 5 ปี ตัวเครื่อง 1 ปี

4. เครื่องกรองอากาศในรถยนต์ Electrolux

เครื่องฟอกอากาศในรถแบบพกพา Electrolux ขอแนะนำรุ่น UltimateHome300 รุ่นนี้โดดเด่นเรื่องน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด อีกทั้งดีไซน์ยังเหมือนกระบอกน้ำ มีสายแขวนที่พกพาไปได้ทุกที่อีกด้วย ที่สำคัญ มาพร้อมระบบการกรอง 4 ขั้นตอน มีทั้งตัวกรองป้องกันเชื้อแบคทีเรีย PET ตัวกรอง Care Ultimate และ Ionizer มั่นใจได้ว่าอากาศสะอาศ ไร้เชื้อโรคแน่นอน

  • กรอง PM 2.5: ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศ Electrolux UltimateHome300: 3,990 บาท

 

เครื่องกรองอากาศในรถยนต์ Electrolux

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถ Electrolux UltimateHome300

  • มีเทคโนโลยี IonActive ช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย โดยการปล่อยไอออนประจุลบ 2 ล้านตัวต่อ ตร.ซม.
  • ลดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ 99.9% และเชื้อไวรัส H1N1
  • ลดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ HCoV-229E  ได้ 93%
  • มีช่องเติมน้ำหอมช่วยเพิ่มความสดชื่น
  • ปรับองศาเครื่องฟอกอากาศได้ตามที่ต้องการ
  • เสียงเบา ≤ 43 dB (ความเร็ว: lv1=24 dB, lv2=36 dB, lv3=43 dB)

5. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Sharp

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Sharp รุ่นไหนดี แนะนำ SHARP IG-NX2B รูปทรงแก้วน้ำ สามารถใช้ได้ทั้งภายในรถยนต์และสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวก มาพร้อมนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาร์ป นั่นก็คือ ‘เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์’ ที่พ่นอนุภาคไฟฟ้าพลาสม่าคลัสเตอร์บวกและลบแบบเข้มข้น เพื่อยึดเกาะและย่อยสลายเชื้อโรคในอากาศ และยังปล่อยประจุกลับเข้าไปในอากาศในรูปแบบของไอน้ำที่มองไม่เห็น เพื่อมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า ลดการเกิดไฟฟ้าสถิตได้ด้วย

  • กรอง PM 2.5: ไม่ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศ SHARP IG-NX2B: 4,190 บาท

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Sharp

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถ SHARP IG-NX2B

  • มีเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ที่ฆ่าเชื้อราและเชื้อไวรัสได้จริง
  • ทดสอบแล้วว่าสามารถทำลายเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้
  • ขจัดกลิ่นได้รวดเร็ว ทั้งกลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นเหงื่อ กลิ่นอาหาร กลิ่นเชื้อรา และกลิ่นสัตว์เลี้ยงได้
  • ใช้งานได้ยาวนานถึง 17,500 ชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่การใช้งาน 3.6 ตารางเมตร
  • ปรับระดับความแรงลมได้ 3 ระดับ
  • แผ่นกรอง PM10 ดักจับละอองเกสรดอกไม้ และฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ 80% 
  • รองรับการเชื่อมต่อ USB นำไปใช้ที่โต๊ะทำงานได้สะดวก

6. เครื่องฟอกอากาศในรถ Panasonic

Panasonic ทำเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ได้ดีไม่แพ้แบรนด์อื่น ครั้งนี้มาในชื่อ nanoe™ X generator รุ่น F-GPT01A ที่สามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสรดอกไม้ ขณะเดียวกันยังสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวไปในตัว รูปทรงคล้ายแก้วกาแฟ ใช้งานง่าย วางได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน รถยนต์ ล็อกเกอร์ หรือตู้เสื้อผ้า

  • กรอง PM 2.5: ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศในรถ Panasonic nanoe™ X generator: 3,990 บาท

เครื่องฟอกอากาศในรถ Panasonic

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Panasonic nanoe™ X generator

  • เทคโนโลยี nanoe™ X เอกลักษณ์เฉพาะของ Panasonic สามารถจับฝุ่นระยะไกลและซึมลึกลงไปในเนื้อผ้าเพื่อกำจัดกลิ่นได้
  • ผลิตอนุมูลไฮดรอกซิลได้ 9.6 ล้านล้านอนุมูลในหนึ่งวินาที ยับยั้งมลพิษและไวรัสได้รวดเร็ว
  • อนุภาคปลอดภัย ไม่ใช้สารเคมี
  • พกพาสะดวก ไม่กินเนื้อที่ น้ำหนักเพียง 0.4 กก. 

7. เครื่องฟอกอากาศพกพา Xiaomi

สำหรับเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Xiaomi รุ่นที่น่าสนใจ คือ SmartMi Car Air Purifier หน้าตาน่ารัก น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวกและจัดเก็บได้ง่าย ตอบโจทย์สายมินิมัลและรถยนต์ที่มีขนาดภายใน 4.2-7.2 ตารางเมตร ตัวเครื่องสามารถกรองอากาศเข้าได้ 3 ด้าน มีวงจรการไหลเวียนของอากาศจากหลังไปหน้า เรียกได้ว่าเป็นเครื่องกรองอากาศรถยนต์สุดอัจฉริยะที่คุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่งเลย

  • กรอง PM 2.5: ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi SmartMi Car Air Purifier: 2,290 บาท

เครื่องฟอกอากาศพกพา Xiaomi

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถ Xiaomi

  • ค่า CADR สูงถึง 70 ลบ.ม./ชม. 
  • กรองฝุ่นได้สูงสุด 0.3  ไมครอน
  • ประหยัดพลังงาน ใช้ไฟน้อยแค่ 7 วัตต์
  • กรองอากาศได้รวดเร็วด้วยมอเตอร์ DC Brushless
  • ตัวเครื่องมีปุ่ม ปิด/เปิด, ไฟสถานะการทำงาน และคุณภาพอากาศ
  • มีโหมดเงียบ เสียงเบาเพียง 55 dB

8. เครื่องกรองอากาศในรถ Clair

อีกแบรนด์ที่อดแนะนำไม่ได้ก็คือ Clair ยี่ห้อเครื่องฟอกอากาศยอดนิยมจากประเทศเกาหลี ซึ่งมี Clair B เป็นเครื่องฟอกอากาศที่พกพาไปได้ทุกที่ จะใช้ในรถยนต์ รถเข็นเด็ก คาเฟ่ หรือโต๊ะทำงานก็ได้ ช่วยลดฝุ่น ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ หายใจได้สะดวกขึ้น โดยสามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้, เกสร, เชื้อรา, ควันบุหรี่, ก๊าซไอเสีย และฟอร์มาลดีไฮด์ได้

  • กรอง PM 2.5: ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศในรถ Clair B: 2,892 บาท

เครื่องกรองอากาศในรถ Clair

 

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถ Clair

  • เสียงเงียบมาก ๆ เพียง 34 dB
  • เทคโนโลยี Exclusive MAF กรองสูงสุดถึง 3 ระดับ
  • ไส้กรอง E2F ได้รับสิทธิบัตรจาก 27 ประเทศ ดักจับฝุ่นละเอียดถึง 0.1 ไมครอน
  • ใช้ระบบ Ionizer แบบโอโซนต่ำ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  • พัดลมหมุนได้ 180 องศา
  • ควบคุมการทำงานด้วยพัดลม 3 ระดับ

Clair Air purifier

9. เครื่องกรอง PM 2.5 ในรถ MITSUTA

เครื่องฟอกอากาศในรถ MITSUTA MCA101 มาในราคาย่อมเยา แต่ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นไม่แพ้ใคร ไม่ว่าจะ PM2.5 แบคทีเรีย กลิ่นอับ กลิ่นน้ำมัน ควันรถ หรือแก๊สพิษ ก็เอาอยู่! สามารถหายใจได้เต็มปอดในรถ เพราะใช้ระบบกรองอากาศ 4 ขั้นตอน ได้แก่ Pre-Filter (กรองหยาบ) HEPA Filter (กรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก) Activated Carbon Filter (คาร์บอนกรองกลิ่นชนิดเม็ด) และ Ionizer (กรองอากาศให้บริสุทธิ์ ดักจับฝุ่นละอองและเชื้อโรคในอากาศ) 

  • กรอง PM 2.5: ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศในรถ MITSUTA MCA101: 2,490 บาท

 

เครื่องกรอง PM 2.5 ในรถ MITSUTA

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถ MITSUTA MCA101

  • ดังเพียง ≤ 30 dB เบาที่สุดในบรรดา 10 รุ่นที่แนะนำ
  • ใช้กำลังไฟฟ้าน้อยที่สุด เพียง 3 วัตต์เท่านั้น
  • กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน
  • ดักจับฝุ่นละอองและฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วยการปล่อยประจุลบ Ionizer
  • มี Pre-Filter กรองเส้นผม ขนสัตว์ และเส้นใย
  • เสียบใช้งานกับ Power Bank ได้
  • ไฟ LED แบบ Colorful เปลี่ยนสีอัตโนมัติ เพิ่มความสนุกในการใช้งาน
  • ตัวเครื่องเป็น Aluminium Aloy เกรดพรีเมียม แข็งแรง ดูทันสมัย
  • มีไฟแสดงสถานะคุณภาพอากาศ อุณหภูมิ และความชื้นในอากาศ

10. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Gmax

หากอยากได้ยี่ห้อเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ที่ราคาถูก ขอแนะนำ Gmax รุ่น Car Air Purifier HEPA H11 รุ่น AP-005 พกพาได้สะดวก สามารถใช้ในห้องขนาดไม่เกิน 15 ตร.ม. ได้ กำลังไฟฟ้า ≤ 8W มาพร้อมหน้าจอแสดงสถานะคุณภาพอากาศและความเร็วพัดลม

  • การกรอง PM 2.5: ได้
  • ราคาเครื่องฟอกอากาศ Gmax AP-005: 1,699 บาท

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Gmax

จุดเด่นเครื่องฟอกอากาศในรถ Gmax AP-005

  • ค่า CADR ในการดักจับฝุ่น PM 2.5 18 ลบ.ม./ชม. ด้วยการปล่อยประจุลบ Ionizer
  • กรองฝุ่น ควัน และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ด้วยไส้กรอง 3 ชั้น (Pre-Filter, HEPA, Carbon)
  • โหมด Auto ปรับความแรงพัดลมอัตโนมัติตามคุณภาพอากาศ
  • ระบบปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์ หรือใช้งานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
  • เพิ่มความหอมสดชื่นได้ง่าย ๆ ด้วยช่องใส่สำลีน้ำหอมในตัว
  • เสียงเบา ≤45 dB ไม่รบกวนตอนขับรถ


 

วิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถ

  1. ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น: ควรเลือกเครื่องที่มี HEPA Filter กรองได้ละเอียด ไมครอนยิ่งน้อย ยิ่งดี หากน้อยกว่า 0.3 ไมครอน ถือว่าสามารถดักจับเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส สารก่อให้เกิดภูมิแพ้ และฝุ่นละอองได้

  2. ประสิทธิภาพในการกรองกลิ่น: เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีชั้นกรอง Activated Carbon จะช่วยเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ ยิ่งกรองสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ยิ่งดี โดยเฉพาะฟอร์มาลดีไฮด์ หากสูดดมนาน ๆ อาจเสียชีวิตได้

  3. อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR): ค่า CADR บ่งบอกถึงความสามารถในการฟอกอากาศของเครื่อง ยิ่งค่า CADR สูง ก็ยิ่งฟอกอากาศได้เร็วและมีประสิทธิภาพ

  4. ขนาดและตำแหน่งที่ติดตั้ง: เลือกขนาดที่เหมาะสม ดีไซน์ที่เข้ากับภายในรถ ครอบคลุมทุกที่นั่ง และไม่เกะกะพื้นที่

  5. ระดับเสียง: เลือกเครื่องที่มีโหมดการทำงานเสียงเบา ไม่รบกวนสมาธิขณะขับรถ ความดังอยู่ในระดับ 20-55 dB

  6. การชาร์จ: ตรวจสอบวิธีการชาร์จที่สะดวกและปลอดภัย เช็กความยาวของสายว่าพอหรือไม่

  7. เทคโนโลยีพิเศษ: เลือกเครื่องที่มีเทคโนโลยีพิเศษที่น่าเชื่อถือ มีงานวิจัยรองรับ และตรวจสอบมาตรฐานการผลิตก่อนซื้อทุกครั้ง

  8. ฟังก์ชันเพิ่มเติม: บางรุ่นอาจมีระบบแจ้งเตือนเมื่อต้องเปลี่ยนไส้กรอง, ระบบควบคุมความชื้น หรือระบบฆ่าเชื้อโรค

  9. ราคา: ควรเลือกยี่ห้อตามงบที่จ่ายไหว โดยเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติของแต่ละรุ่นเพื่อดูความคุ้มค่า

เครื่องฟอกอากาศไอออนลบ ดีไหม

เรามักจะเห็นหลายแบรนด์นำเสนอเครื่องฟอกอากาศแบบปล่อยประจุลบหรือไอออนลบ เพื่อไปดักจับสิ่งแปลกปลอมที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งประจุลบนั้นจะเข้าไปจับกับอนุภาคที่มีประจุบวก เช่น เชื้อไวรัสและแบคทีเรีย รวมถึงกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ นวัตกรรมนี้น่าสนใจ สามารถกำจัดเชื้อโรคและกลิ่นได้จริง แต่ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศยังดีไม่เทียบเท่ากับแบบที่ใช้แผ่นกรอง

สรุป

การเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาใหญ่ การมีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จะช่วยกรองฝุ่นละออง PM2.5 สารก่อภูมิแพ้ และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เราต้องเผชิญขณะเดินทางได้ ซึ่งทำให้เราและผู้โดยสารได้รับอากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้น

 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com 

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ