TAPMA แถลงข่าวจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 ระหว่างวันที่ 3 - 5 เมษายน 2568 Share this

TAPMA แถลงข่าวจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 ระหว่างวันที่ 3 - 5 เมษายน 2568

Wongsupat
โดย Wongsupat
โพสต์เมื่อ 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) ประกาศจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 ครั้งแรก เปิดเวทีแสดงศักยภาพของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกับพันธมิตรระดับนานาชาติ เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็น ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ระหว่างวันที่ 3 - 5 เมษายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา


Future Mobility Thailand 2025

สุพจน์ สุขพิศาล รองเลขาธิการ สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) กล่าวว่า การจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยที่พร้อมก้าวไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ยานยนต์ไฮบริด (HEV, PHEV), ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Vehicles) รวมถึงเทคโนโลยีเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Connected Vehicles)

“อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยมีความพร้อมสูง เนื่องจากมีซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งและผู้ผลิตไทยมีความสามารถในการปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ ๆ งานนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการ เปิดตลาดใหม่ เชื่อมโยงกับพันธมิตรระดับโลก และขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต”
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และติดอันดับ Top 10 ของโลก ด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 1.9 ล้านคันต่อปี โดยภายในปี 2567 ประเทศไทยมีสัดส่วนการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนคิดเป็น 12% ของ GDP และมีมูลค่าการส่งออกกว่า 1.02 ล้านล้านบาท"

TAPMA เตรียมจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 2

ทั้งนี้ ในวันพิธีเปิดงานจะมี ปาฐกถาพิเศษ: "สู้ เซฟ สร้าง : อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนฯ ไทย" โดย ท่านเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อดังกล่าวจากแง่มุมของผู้ประกอบการ และภาครัฐที่ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรม ได้แก่ นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) และนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

ไฮไลต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ช่วยสร้างอนาคต

เสวก ประกิจฤทธานนท์ อุปนายกฝ่ายพัฒนาการส่งออก สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA)  กล่าวถึงไฮไลท์ของงาน Future Mobility Thailand 2025 ว่า ในงานจะมี โซนพิเศษที่ต้องห้ามพลาด คือ โซน E-Parts & Mobility Revolution เวทีนำเสนอชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ช่วยสร้างอนาคตแห่งการเดินทางที่ยั่งยืน และโซน ADAS & Entertainment Systems ที่นำเสนอเทคโนโลยีระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ

โซลูชันความบันเทิงภายในรถที่มอบประสบการณ์ขับขี่อัจฉริยะและปลอดภัย รวมถึงโซน BGC Green Product & Alternative Energy ที่จะพบกับผลิตภัณฑ์รักษ์โลกและแหล่งพลังงานทางเลือกที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โซน Performance Parts, Accessories, Maintenance & Car Care ที่จะได้สัมผัสอุปกรณ์แต่งรถ สมรรถนะสูง และโซลูชันบำรุงรักษารถยนต์ยุคใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน

โซน Parts Transform เรียนรู้แนวทางการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์สู่การประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น การผลิตชิ้นส่วนสำหรับเครื่องมือแพทย์, อากาศยาน, รถไฟและระบบราง, อุตสาหกรรมเกษตร เป็นต้น

TAPMA เตรียมจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 3

“งานนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เนื่องด้วยปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญของโลก โดยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนมากกว่า 1,800 ราย ซึ่งมีศักยภาพในการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีที่สอดรับกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต รวมถึงแนวโน้มของตลาด EV ในภูมิภาคอาเซียนว่า ประเทศไทยมีโอกาสสูงในการเป็นผู้นำตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค เนื่องจากปัจจุบัน EV มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรถยนต์จากจีนที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย งานนี้จึงเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชนยานยนต์แห่งอนาคต” 

ประเทศไทยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนส่วนยานยนต์กว่า 1,686 ราย ซึ่งแบ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำ (Tier 1) ประมาณ 476 ราย และผู้ผลิตชิ้นส่วนสนับสนุน (Tier 2-3) กว่า 1,210 ราย มีซัพพลายเชนที่ครบวงจรโดยเริ่มจากวัตถุดิบ,  การผลิต จนถึงการส่งออก และเป็นฐานการผลิตของค่ายรถยนต์ระดับโลกกว่า 30 แบรนด์

TAPMA เตรียมจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 4

แนวโน้มตลาด EV และผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิ้นส่วนปี 2567 คาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในไทยจะสูงกว่า 100,000 คัน โดยมีผู้ประกอบการจากประเทศจีนเป็นผู้นำตลาดรถ EV และมีหลายค่าย ตั้งฐานการผลิตในไทย เช่น BYD, NETA, GWM คาดว่าภายในปี 2573 รถยนต์ไฟฟ้าจะมีสัดส่วน 30% ของการผลิตรถยนต์ในไทย และด้วยนโยบาย Japan First จากรัฐบาล ที่จะช่วยผลักดันการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งรถยนต์สันดาป, รถยนต์ไฟฟ้า และไฮบริด ส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทย และนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ให้ทันสมัยไปพร้อมกัน

ด้าน ศิรพรรณ อ่อนอรรถ อุปนายกฝ่ายพัฒนา SMEs สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) เน้นย้ำถึงความสำคัญของผู้ประกอบการ SMEs ว่า ปัจจุบัน SMEs ไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ งาน Future Mobility Thailand 2025 จะเป็นเวทีที่ช่วยให้ SMEs ได้เรียนรู้แนวโน้มของตลาด เทคโนโลยีการผลิต และโอกาสทางธุรกิจในระดับสากล รวมถึงในงานนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เจรจาธุรกิจและจับคู่ทางการค้า (Business Matching) กับค่ายรถยนต์และผู้ผลิตเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย

TAPMA เตรียมจัดงาน Future Mobility Thailand 2025 1บทความที่น่าสนใจ 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ