เลกซัสกรุ๊ป แนะนำรถยนต์นั่งระดับหรู “เฟิร์สคลาส” เลกซัส LS460 และ LS460L รุ่นใหม่ ที่โดดเด่นด้วยความประณีต สุนทรียภาพและความรื่นรมย์ในการขับขี่ ผสมผสานไปกับความหรูหรา สมรรถนะอันทรงพลัง และระบบความปลอดภัยระดับโลกชั้นเยี่ยม เพื่อสร้างนิยามใหม่สำหรับ “รถยนต์ซีดานคันหรู ระดับเฟิร์สคลาส” รื่นรมย์ไปกับประสบการณ์ใหม่แห่งการ ขับขี่อย่างมีระดับบนทุกเส้นทาง...ในแบบฉบับของเลกซัส
[singlepic id=13562 w=490 h=360 float=center]
ในประเทศไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้นำเสนอความหรูหราสมบูรณ์แบบของ เลกซัส ให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสครั้งแรกในปี พ.ศ. 2536 ด้วยรุ่น LS 400 หลังจากนั้นจึงมี การปรับปรุงโฉมครั้งแรกในปี พ.ศ.2537 และการปรับโฉมครั้งใหญ่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2542 ด้วยรุ่น LS 430 และล่าสุดด้วยการแนะนำนวัตกรรมแห่งยานยนต์ระดับหรู LS460 และ LS460L เมื่อปี 2549 ทั้ง 4 เจนเนอเรชั่นของ LS ซีรีส์ ล้วนประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม
[singlepic id=13563 w=490 h=360 float=center]
สำหรับเลกซัส LS 460 และ LS460L ใหม่นี้นับเป็นการปรับโฉมใหม่ของ LS ซีรี่ส์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 พร้อมเผยโฉมในประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนนี้ นับเป็นยนตรกรรมที่ปฏิวัตินิยามแห่งวิศวกรรมยานยนต์ ไฟหน้า ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟหรี่แบบหลอด LED 8 ดวง ที่เน้นความโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ต ประกอบกับดีไซน์ใหม่สำหรับรอบคอนโซลกลาง พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ระดับโลก อาทิ ระบบกันสะเทือนใหม่แบบถุงลม ระบบเตรียมพร้อมรับการชนด้วยเรดาร์ ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับการนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของโลก ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด กับเครื่องยนต์ V8 4.6 ลิตร ให้สมรรถนะทรงพลังแต่นุ่มนวลในการขับขี่ ยิ่งไปกว่านั้นปรัชญาการออกแบบชั้นเยี่ยมที่รู้จักกันในนาม L-finesse ทำให้ LS เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด และเหนือชั้นกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน
[singlepic id=13565 w=490 h=360 float=center]
จุดขายหลักของ LS460 และ LS460L รุ่นใหม่นี้ ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ ได้แก่
L-Finesse การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ เลกซัส รูปลักษณ์ที่ก้าวล้ำไปข้างหน้า สอดคล้องกันทุกด้านรวมถึงการออกแบบเส้นสายที่สอดคล้องกับโครงสร้างของห้อง โดยสารที่ทันสมัยและปราดเปรียว และพบกับ
- ไฟหน้าใหม่ ไฟหรี่ LED สีขาวจำนวน 8 ดวงพร้อมกับรีเฟลกเตอร์ด้านข้างเพื่อให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
- ไฟท้ายใหม่ ไฟท้ายและไฟเบรค LED พร้อมกับกรอบไฟท้ายแบบใส ดูชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย Optical Guide เพื่อเน้นความเป็นปัจเจกบุคคล
- ไฟเลี้ยวด้านข้างใหม่ ระบบไฟเลี้ยวบนกระจกมองข้างแบบ LED จำนวน 2 ดวง เพื่อให้แสงสว่างที่กว้างขึ้นและทัศนวิสัยที่ดีจากด้านหน้า
- ดีไซน์ใหม่ สำหรับรอบคอนโซลกลางเพื่อให้มีพื้นที่กว้างขวางยิ่งขึ้น
[singlepic id=13570 w=490 h=500 float=center]
High Performance สมรรถนะเหนือความคาดหมาย เครื่องยนต์ V8 4608 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 380 แรงม้าที่ 6400 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7.วินาที สำหรับรุ่น LS460 และ 6.3 วินาที สำหรับรุ่น LS460L ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างราบเรียบ ร่วมกับ ระบบกันสะเทือนใหม่แบบถุงลม (New Air Suspension System) สามารถรองรับแรงกระแทกได้อย่างนุ่มนวล และรักษาเสถียรภาพในการขับขี่อย่างอัจฉริยะ ทั้งยังให้ความสะดวกสบายสูงสุดในทุกสภาวะทั้งผู้นั่ง และผู้ขับ
[singlepic id=13569 w=490 h=360 float=center]
Advanced Driving Assist กับเทคโนโลยีการขับขี่ระดับโลก อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยเรดาร์ (Radar Cruise Control) ซึ่งเป็นระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ โดยใช้เรดาร์ในการคำนวณระยะห่างระหว่างรถคันหน้า เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้โดยสาร ระบบจัดการรวมไดนามิคของตัวรถ Vehicle Dynamics Integrated Management (VDIM) ที่รวบรวมการทำงานของทุกระบบในการส่งถ่ายกำลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพ และความนุ่มนวลสูงสุดในการเดินทาง ระบบเตรียมพร้อมรับการชนด้วยเรดาห์ (Radar Pre-crash System) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดก่อนการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยระบบเซนเซอร์โดยใช้เรดาร์ในการคำนวณควบคุมความเสี่ยงในการชน ด้วยการเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่เกิดความเสี่ยงในการขับขี่ และระบบช่วยจอดอัจริยะ (Intelligent Parking Assist – IPA) ด้วยระบบเซนเซอร์ อัลตร้าโซนิค ด้านข้าง พร้อมกล้องมองหลัง สำหรับอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ในการจอดรถอย่างสมบูรณ์แบบ
[singlepic id=13567 w=490 h=360 float=center]
Safety and Comfort ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยใน การขับขี่ระดับโลก อาทิ Active Headrest สำหรับที่นั่งด้านหน้า เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ และสัมผัสความผ่อนคลายระดับเฟิร์สคลาสสำหรับผู้โดยสารด้วย ชุดเครื่องเสียงระดับโลก “Mark Levinson Reference Surround Sound System” ขนาด 450 วัตต์ ลำโพง 19 ตัวรอบทิศทาง ให้ประสบการณ์การฟังเพลงดั่ง Concert Hall พร้อม สัมผัสความผ่อนคลายด้วย Rear Seat Relaxation System และเบาะนั่งหลังที่ปรับเอนได้ตั้งแต่ 28-45 องศา…ระบบปรับเอนของบริเวณที่รองรับแผ่นหลังด้านบนปรับเอนลงได้ 17 องศา พัฒนาขึ้นโดย เลกซัส พร้อมที่รองต้นขา และที่วางเท้าพับเก็บได้ เบาะนั่งหลังยังสามารถเลื่อนจากหน้าไปหลังได้ประมาณ 3 นิ้ว รวมถึง ระบบนวดมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบนวดแบบ “Shiatsu”…ฟังก์ชั่นสำหรับการยืดลำตัว และระบบสั่นเพื่อความสบาย และผ่อนคลายของผู้โดยสารในแบบลีมูซีน ที่สามารถปรับระดับความแรงของการนวดได้ตามต้องการ
[singlepic id=13572 w=490 h=360 float=center]
สีภายนอก
- Frosty Pearl Mica
- Black
- Sleek Ecru Metallic
- Lapis Lazuli Mica
- Dark Grey Mica
- Premium Silver
- Deep Peridot Mica
- White Pearl Crystal Shine
- Red Mica Crystal Shine
- Sable Mica Metallic
สีภายในห้องโดยสาร
- Ivory
- Black
- Light Grey
สีลายไม้
- Medium Brown (Walnut)
- Grey (Bird’s-eye maple)
[singlepic id=13575 w=490 h=360 float=center]
เลือกเป็นเจ้าของความหรูหรา สมบูรณ์แบบ...ของ เลกซัส LS460 และ LS460L ได้แล้ววันนี้
- LS 460 (Short Wheel Base 5 ที่นั่ง) ราคา 9,240,000 บาท
- LS 460L (Long Wheel Base 5 ที่นั่ง) ราคา 11,040,000 บาท
- LS 460L (Long Wheel Base 4 ที่นั่ง) ราคา 11,140,000 บาท
สัมผัสประสบการณ์ใหม่ กับ LS460 และ LS460L
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
1. L-finesse design
เป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีชั้นสูงกับความละเอียดอ่อนของความงามแบบญี่ปุ่นซึ่ง
เรียบง่าย โดดเด่น ก้าวล้ำสมัย และสวยงามอย่างศิลป์
[singlepic id=13579 w=490 h=360 float=center]
รูปลักษณ์ภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลง
- ไฟหน้าใหม่ ไฟหรี่ LED สีขาวจำนวน 8 ดวงพร้อมกับรีเฟลกเตอร์ด้านข้างเพื่อให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
- ไฟท้ายใหม่ ไฟท้ายและไฟเบรค LED พร้อมกับกรอบไฟท้ายแบบใส ดูชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย Optical Guideซึ่งคล้ายกันกับเส้นสาย Optical ในรุ่นปัจจุบัน เพื่อเน้นความเป็นปัจเจกบุคคล
- ไฟเลี้ยวด้านข้างใหม่ ระบบไฟเลี้ยวบนกระจกมองข้างแบบ LED จำนวน 2 ดวง เพื่อให้แสงสว่างที่กว้างขึ้นและทัศนวิสัยที่ดีจากด้านหน้า
รูปลักษณ์ภายในที่มีการเปลี่ยนแปลง
- มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์รอบคอนโซลกลาง ให้ความรู้สึกโอ่อ่ากว้างขวางของห้องโดยสารมากยิ่งขึ้น
[singlepic id=13573 w=490 h=360 float=center]
2. HIGH PERFORMANCE
เครื่องยนต์ V8 พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบกันสะเทือนแบบถุงลมรุ่นใหม่
ด้วยพละกำลังของเครื่องยนต์แบบ V8 ความจุ 4.6 ลิตร กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบกัน สะเทือนแบบถุงลมรุ่นล่าสุด ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ของการขับขี่ที่นุ่มนวล ประหยัดน้ำมันและลดมลพิษต่อธรรมชาติ
- แรงม้า: 380/6400 แรงม้า/รอบต่อนาที
- แรงบิด: 493/4100 นิวตัน-เมตร/รอบต่อนาที
- 0-100 km/h: 5.7 sec (รุ่นช่วงล้อสั้น) / 6.36 (รุ่นช่วงล้อยาว)
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง:
รุ่นช่วงล้อสั้น (km/L) รุ่นช่วงล้อยาว (km/L)
ในเมือง 6.1 5.8
นอกเมือง 12.7 12.0
เฉลี่ย 9.0 8.8
[singlepic id=13568 w=490 h=360 float=center]
ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมรุ่นใหม่สำหรับ รุ่น LS460L สปริงแบบถุงลมรุ่นใหม่ที่สามารถรองรับแรงกระแทกอย่างนุ่มนวลจากถนนเวลารถ แล่นและปรับระดับความสูงของตัวรถให้คงที่ได้เอง ไม่ว่าจะมีผู้โดยสารกี่คนหรือบรรจุสัมภาระมากแค่ไหน รถยนต์ยังสามารถแล่นไปได้อย่างมั่นคง เป็นผลให้การขับขี่ได้อย่างมั่นใจและพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย
3. Advance Driving Assist กับเทคโนโลยีการขับขี่ระดับโลก
ระบบช่วยการขับขี่ Advanced Driving Assist
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยเรดาร์ (Radar Cruise Control)
โดยการนำข้อมูลของรถยนต์คันหน้าที่ตรวจจับได้โดยมิลลิเวฟเรดาร์ มาทำการประมวลผล เพื่อทำการควบคุมทั้งควมเร็วและระยะห่างจากคันหน้าให้เหมาะสมที่สุดเพื่อ ความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร.
- ระบบจัดการรวมไดนามิคของตัวรถ (VDIM) + ระบบพวงมาลัยแบบอัตราทดแปรผัน (VGRS)
ในขณะออกตัว เบรก หรือเข้าโค้งอย่างกะทันหันบนพื้นถนนที่มีการลื่นไถลของล้อซ้ายและขวาไม่เท่า กัน แรงหมุนของล้อหรือแรงเบรกของล้อซ้ายและขวาที่แตกต่างกันทำให้เกิดการปัดและ ลื่นไถล ระบบจัดการรวมไดนามิคของตัวรถ (VDIM) + ระบบพวงมาลัยอัตราทดแปรผัน (VGRS) จะช่วยควบคุมกำลังเครื่องยนต์ + อัตราทดของพวงมาลัยเพื่อให้การขับขี่มีเสถียรภาพมากขึ้นและยังช่วยให้การควบ คุมพวงมาลัยเป็นไปได้ง่ายดายอีกด้วย ทำให้ผู้ขับขี่สามารถบังคับรถให้ถูกทิศทาง ขับขี่อย่างมีเสถียรภาพสูงสุดและเพลิดเพลินกับการขับขี่
- ระบบเรดาร์ป้องกันความปลอดภัยก่อนการชน
มิลลิเวฟเรดาร์ของระบบป้องกันความปลอดภัยก่อนการชน สามารถกำหนดได้ว่าจะมีความเสี่ยงของการชนเกิดขึ้นกับรถคันหน้า และเตือนมายังผู้ขับขี่ได้อีกด้วย หากผู้ขับขี่ทำการเบรกก่อนที่จะเข้าสู่ระยะการชน ระบบป้องกันความปลอดภัยก่อนการชนจะเพิ่มแรงเบรกเพื่อช่วยในการหยุดรถ
ถึงแม้ว่าผู้ขับขี่ไม่ได้เบรก ระบบป้องกันความปลอดภัยก่อนการชนจะช่วยเบรกให้ความเร็วลดลงก่อนเกิดการชน ในขณะที่ระบบเข็มขัดนิรภัยก่อนการชนจะดึงกลับอัตโนมัติก่อนการชนเกิดขึ้น เพื่อลดอาการบาดเจ็บของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Intelligent Parking Assist)
ระบบนี้ช่วยให้การหมุนพวงมาลัยเวลาจอดรถง่ายขึ้น
ระบบนี้มีเซนเซอร์ด้านข้าง เซนเซอร์บริเวณกันชนหน้าทั้งด้านซ้าย-ขวา และบริเวณกันชนหลังมีกล้องเพื่อให้มองเห็นด้านหลังซึ่งภาพจะแสดงที่หน้าจอ ทัชสกรีน
4. SAFETY AND COMFORTABLE
ปฏิวัติระบบความปลอดภัยและสุทรียภาพในการขับขี่
- พนักพิงศีรษะแบบนิรภัย
ในกรณีที่เกิดการชนจากด้านหลังด้วยความเร็วต่ำ ส่วนหน้าของพนักพิงศีรษะนิรภัยจะเลื่อนมาด้านหน้าเพื่อป้องการอาการบาดเจ็บที่ต้นคอ
- ระบบเบาะหลังแบบ Rear Seat Relaxation System มอบความสะดวกสบายอย่างสูงสุดด้วย:
ชุดเครื่องเสียง Mark Levinson Reference Surround Sound System:
ลำโพง ตัว, แอมปลิฟายเออร์ 450 วัตต์, เครื่องเล่น DVD
ระบบ 5.1 home entertainment พร้อมกับสามารถเล่น CD, DVD, MP3 และ WMA
o เบาะนั่งหลังแบบผ่อนคลายใหม่ พร้อมระบบนวดแผ่นหลัง ในรุ่นช่วงล้อสั้น
o สำหรับรุ่นช่วงล้อยาว มี ให้เลือก 2 รุ่นคือ 5 ที่นั่ง และ 4 ที่นั่งพร้อมกับเบาะแบบ Ottoman
o พนักพิงศีรษะหลังแบบใหม่ (สามารถพับด้านข้างเพื่อรองรับศีรษะได้) เพื่อการรองรับศีรษะที่ดีกว่า
[nggallery id=892]
ที่มา: Toyota Motor (Thailand)
ความคิดเห็น