เดิมที BMW มีแผนจะเปิดตัว Series 6 Convertible รุ่นใหม่ในงาน LA Auto Show แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ส่งตัวจริงไปอวดโฉมที่งานแต่อย่างใด แต่เลือกที่จะเผยโฉมทางอินเตอร์เน็ทมากกว่าโดยมาพร้อมกับภาพชุดใหญ่ 100 กว่าภาพและคลิปวิดีโอตามแผนการตลาดที่ใช้มาตลอด ตอกย้ำการเป็นค่ายรถยนต์ที่ให้ความสำคัญกับการทำตลาดออนไลน์มากที่สุดในวงการก็ว่าได้
[singlepic id=32569 w=490 h=360 float=center]
BMW Series 6 Convertible ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Concept Series 6 Coupe มีฝากระโปรงหน้าที่ยาวและจมูกรถยื่นยาวออกมากว่ารถรุ่นอื่นๆของ BMW ไฟหน้าซีนอน แถบไฟตัดหมอก LED ดูแตกต่างไม่เหมือนใคร ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว โดยเป็นขอบ 19 นิ้วสำหรับรุ่น 650i และเพื่อคงความเบาของตัวรถ BMW ยังคงใช้หลังคาแบบ soft top แบบเดิมของ Series 6 รุ่นมาตรฐาน โดยสามารถพับเก็บได้ภายในเวลา 19 วินาที และใช้เวลา 24 วินาทีในการปิดครอบเป็นหลังคาที่สามารถทำได้ในระดับความเร็วรถไม่เกิน 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง
[singlepic id=32540 w=490 h=360 float=center]
ภายในห้องโดยสาร BMW ยังใช้รูปแบบเดิมๆจาก Series 6 รุ่นมาตรฐาน แต่จะเน้นการใช้วัสดุคุณภาพสูงเป็นพิเศษรวมถึงปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆที่เน้นให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้งานกับผู้ขับขี่มากขึ้น Series 6 เปิดประทุนรุ่นนี้หรูเป็นพิเศษด้วยการใช้ชุดหุ้มหนัง Dakota โดยมีอ็อปชั่นเป็นหนัง Nappa พร้อมเทคโนโลยีสะท้อนรังสีจากแสงแดด SunReflective มีจอแสดงผล iDrive ขนาด 10.2 นิ้วที่สามารถแสดงอีเมล์จากสมาร์ทโฟน BlackBerry ผ่านบลูทูธได้
[singlepic id=32536 w=490 h=360 float=center]
ในช่วงแรกของการเปิดตัว จะมีเครื่องยนต์ทางเลือก 2 รุ่นเครื่องยนต์ โดยรุ่น 640i จะมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ 6 สูบ แถวเรียง 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ซึ่งทำให้รถทำความเร็วจาก 0-100 ภายในเวลา 5.7 วินาที ในขณะที่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 35.8 ไมล์/แกลลอน และมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 185 กรัม/กิโลเมตร
[singlepic id=32534 w=490 h=360 float=center]
สำหรับรุ่น 650i จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 4.4 ลิตร 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร โดยมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 5.0 วินาที ก่อนที่จะทำความเร็วสูงสุดที่ระดับ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนอัตราสิ้นเปลืองฯอยู่ที่ 26.4 ไมล์/แกลลอน และมีอัตราการปล่อยไอพิษอยู่ที่ 249 กรัม/กิโลเมตร
[singlepic id=32601 w=490 h=360 float=center]
รถทั้งสองรุ่นเครื่องยนต์จะมีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยมีอ็อปชั่นเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แต่ในบางตลาดอย่างสหราชอาณาจักรจะมีเกียร์อัตโนมัติเพียงอย่างเดียว
[singlepic id=32602 w=490 h=360 float=center]
เพื่อให้มั่นใจว่าการควบคุม Series 6 เปิดประทุนคันนี้ทำได้ง่ายและมีเสถียรภาพที่ดี วิศวกรของ BMW ได้ทำการติดตั้งระบบกันสะเทือนที่มีความทันสมัยมากขึ้นโดยมีการใช้เพลาหน้าแบบ Double Wishbone อลูมิเนียมและเพลาหลัง Multi Link มีระบบ Dynamic Damper Control เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยมีอ็อปชั่นเป็นระบบ Active Roll Stabilization ซึ่งจะช่วยสร้างความเสถียรในขณะเข้าโค้งและยึดเกาะถนน นอกจากนั้นยังมีระบบ Integral Active Steering ให้เลือกด้วยซึ่งเป็นระบบที่มีการรวมเอาระบบควบคุมการหักเลี้ยวเพลาหน้าเข้ากับเพลาหลังแบบใหม่ที่สามารถหักเลี้ยวได้ ส่งผลให้ Series 6 รุ่นนี้มีความเสถียรในระดับความเร็วรถที่สูง และควบคุมได้ง่ายในการเข้าจอดซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเมือง
[singlepic id=32609 w=490 h=360 float=center]
และถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ Series 6 ใหม่ยาวกว่า 74 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 39 มิลลิเมตร แต่เตี้ยลง 9 มิลลิเมตร ทำให้มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังมากขึ้นและมีพื้นที่จุสัมภาระมากขึ้นที่ 350 ลิตร แต่จะลดลงเหลือ 300 ลิตร หากมีการพับหลังคาลงมา
[singlepic id=32610 w=490 h=360 float=center]
BMW เตรียมจำหน่าย Series 6 Convertible นี้ที่ยุโรปในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยจะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยจะมีการเปิดเผยราคาในช่วงที่จะเริ่มจำหน่ายครับ
[nggallery id=2107]
ที่มา: BMW
ความคิดเห็น