แม้ว่า BMW จะตัดสินใจเลิกทำตลาด ActiveHybrid X6 ในสหรัฐอเมริกา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ค่ายรถหรูจากเมืองมิวนิครายนี้จะเลิกคิดเกี่ยวกับการพัฒนารถไฮบริด เพราะจากรายงานข่าวล่าสุด BMW ตัดสินใจเดินหน้าลุยตลาดรถไฮบริดอย่างเต็มตัวด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Toyota เจ้าแห่งเทคโนโลยีไฮบริดที่จะได้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลที่เลื่องชื่อของ BMW เป็นการตอบแทน ล่าสุดกว่านั้นและถือว่าเป็นการตอกย้ำกับกลยุทธ์ทางธุรกิจรถไฮบริดอีกครั้ง BMW ได้ทำการเปิดตัว ActiveHybrid 5 เป็นครั้งแรกในโลกที่งาน Tokyo Motor Show ในปีนี้
ถ้ามองผ่านๆอาจจะไม่พบความแตกต่างระหว่าง ActiveHybrid 5 และ 5-Series รุ่นมาตรฐาน นอกจากตราสัญลักษณ์ ActiveHybrid 5 บนเสา C แผงกระจังหน้า และกาบบันได แต่สิ่งที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกลับถูกซ่อนไว้ภายใต้ตัวถัง ActiveHybrid 5 มีระบบขับเคลื่อนไฮบริดซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ 6 สูบ ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ได้มาจากรุ่น 535i โดยจะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 55 แรงม้า ที่มีแหล่งจ่ายไฟเป็นชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนที่ถูกจัดเก็บไว้ในพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ
ระบบไฮบริดดังกล่าวให้กำลังสูงสุดรวม 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร โดยกำลังจะถูกส่งไปยังล้อหลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ActiveHybrid 5 สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 5.9 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนจะทำการขับเคลื่อนซีดานหรูรุ่นนี้โดยใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ในระดับความเร็วสูงสุด 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่ง BMW เผยว่า หากทำการขับขี่ที่ระดับความเร็วเฉลี่ย 35 กิโลเมตร/ชั่วโมงในโหมดไฟฟ้า รถรุ่นนี้จะสามารถแล่นไปได้ไกลถึงเกือบ 4 กิโลเมตร
ในกรณีที่มีการเบรคหรือชะลอความเร็ว มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จะทำการชาร์จแบตเตอรี่ นอกจากนั้น หากรถแล่นในระดับความเร็ว 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในโหมดการขับขี่แบบ Eco Pro เครื่องยนต์เบนซินจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อการประหยัดน้ำมัน และแม้ว่ารถรุ่นนี้จะมีสมรรถนะที่ไม่ธรรมดา แต่ในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกลับทำได้ดีที่ 6.4-7.0 ลิตร/100 กิโลเมตร ในขณะที่อัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 149-163 กรัม/กิโลเมตร
ความคิดเห็น