ถ้าคุณต้องการจะขับ BMW 5-Series แต่ก็อยากจะได้รถที่แรงขึ้นอีกนิด ประหยัดน้ำมันขึ้นอีกหน่อย คุณก็ควรที่จะลองพิจารณา ActiveHybrid 5 ให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ ถ้าคุณยอมจ่ายอีกประมาณ 9,345 เหรียญสหรัฐฯจากราคาจำหน่าย 535i รุ่นมาตรฐาน วันนี้ BMW ได้ประกาศการจำหน่าย ActiveHybrid 5 ที่ประเทศสหรฐอเมริกาในเดือนมีนาคม ที่จะถึง ด้วยราคาจำหน่ายที่ 61,845 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรวมค่าขนส่ง 895 เหรียญฯและค่าจัดการต่างๆเรียบร้อยแล้ว พร้อมปล่อยภาพชุดใหม่ล่าสุดมาให้ชมกันอย่างจุใจกว่า 140 ภาพ
ในสหรัฐอเมริกา ActiveHybrid 5 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 6 สูบ แถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 ปอนด์ฟุต และระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าขนาด 54 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 155 ปอนด์ฟุต ควบคุมผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
ระบบไฮบริดให้กำลังรวมสูงสุด 335 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 ปอนด์ฟุต (340 แรงม้า 450 นิวตันเมตร ตามสเปคยุโรป) ซึ่งทำให้รถแล่นไปด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลที่สุดที่ 4 กิโลเมตร ในระดับความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 5.9 วินาที ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น 535i แล้วจะพบว่ารุ่นมาตรฐานจะทำอัตราเร่งเดียวกันได้ที่ 5.8 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการขับนอกเมืองที่ 31 ไมล์/แกลลอน อย่างไรก็ตาม BMW ยังไม่ประกาศตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองฯสำหรับเวอร์ชั่นอเมริกา แต่คาดกันว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ที่ 6.4-7.0 ลิตร/100 กิโลเมตร(หรือ 33.6-37.8 ไมล์/แกลลอน)
ในยุโรปจะมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เช่น 535d ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ผลิตกำลังได้สูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.5 วินาที ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.4-5.6 ลิตร/100 กิโลเมตร ส่วนอัตราการปล่อย CO2 อยู่ระหว่าง 142-148 กรัม/กิโลเมตร
ที่น่าสนใจก็คิอ รุ่น 535d นอกจากจะแรงกว่าแล้ว ยังประหยัดน้ำมันมากกว่า ทั้งยังมีอัตราการปล่อยไอเสียน้อยกว่า ActiveHybrid 5 เวอร์ชั่นยุโรป บางทีการเลือกซื้อรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลในยุโรปก็น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าการเลือกใช้ ActiveHybrid 5 และนั่นคงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ BMW ตัดสินใจแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลกับเทคโนโลยีระบบไฮบริดของ Toyota
LINE
ความคิดเห็น