เป็นความคืบหน้าจากมติชนของค่ายรถชื่อเก่าแต่หน้าใหม่ในตลาดอีโคคาร์บ้านเราอย่าง Suzuki ที่ยอดจองถล่มทลายเกินคาดจนต้องเพิ่มเป้ายอดขาย แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ 'ผลิตรถได้ไม่ทันส่งมอบ' ซึ่งแน่นอนว่ามีผลกระทบกับการตัดสินใจซื้อของผู้ที่กำลังสนใจอยู่ จึงเป็นที่มาของกลยุทธ์เสนอเกียร์ธรรมดาหากรุ่นเกียร์อัตโนมัติส่งมอบได้ช้า
"ซูซูกิ"ปรับเป้ายอดขาย จาก 1.5 หมื่นคันเป็น 2.4 หมื่นคัน สนองความต้องการตลาด ที่ยอดค้างส่งกว่า 1.7 หมื่นคัน ยันจัดการได้ทันในสิ้นปีนี้แน่ พร้อมงัดกลยุทธ์เสนอเกียร์ธรรมดาสู้ตลาด กรณีที่จองเกียร์ออโตแต่ได้รถช้า พร้อมส่งมอบทัน 600 คัน ด้านค่ายนิสสันยันไม่มีปัญหา ส่งมอบรถได้ 2-3 เดือน ยอดจองยังทะลัก 7-8 พันคันต่อเดือน
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าหมายยอดรถยนต์ในปี 2555 เป็น 2.4 หมื่นคัน จากเดิม 1.5 หมื่นคัน แบ่งเป็นซูซูกิ สวิฟท์ 1.7 หมื่นคัน ที่เหลือเป็นรถซูซูกิรุ่นอื่นๆ ซึ่งการปรับเพิ่มศักยภาพสายการผลิตของโรงงานโดยผลิตที่ปีละ 2.4 หมื่นคันนั้น ทำให้สามารถรองรับความต้องการของตลาดได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยอดจองของซูซูกิ สวิฟท์ ซึ่งเป็นรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ที่ลูกค้าให้ความสนใจอย่างมาก
นายวัลลภกล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดค้างส่งมอบ (แบ็กออเดอร์) ซูซูกิ สวิฟท์ อีโคคาร์ 1.7 หมื่นคัน คาดว่าจะส่งมอบทั้งหมดได้ภายในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2555 แน่นอน โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวซูซูกิ สวิฟท์ อีโคคาร์ รุ่นเกียร์ธรรมดา จำนวน 2 รุ่น กำหนดราคาขาย 4.29-4.67 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขพิเศษ หากลูกค้าจองซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นเกียร์ออโตที่สั่งจองซื้อรถยนต์ไว้ แต่ยังไม่ได้รับรถแล้ว ต้องการเปลี่ยนเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาก็สามารถทำได้ทันที ซึ่งบริษัทได้เตรียมสวิฟท์เกียร์ธรรมดาไว้ 600 คัน พร้อมส่งมอบทันที โดยเงื่อนไขดังกล่าวจะมีไปถึงวันที่ 14 สิงหาคมนี้
"บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ได้ตามเป้าหมายในปีนี้ 70 แห่ง และให้ครบ 100 แห่งทั่วประเทศภายใน 3 ปี โดยเฉลี่ยจะต้องมีโชว์รูมจังหวัดละ 1 แห่ง" นายวัลลภกล่าว และว่า การที่รัฐบาลมีความชัดเจนในนโยบายโครงการรถคันแรก ทำให้ค่ายรถยนต์สามารถวางแผนการบริหารจัดการได้คล่องตัวขึ้น โดยเฉพาะซูซูกิ สวิฟท์ อีโคคาร์ที่ประชาชนให้การตอบรับดีมาก โดยได้ตั้งเป้าหมายการผลิตปีหน้าเป็น 5 หมื่นคัน และครองส่วนแบ่งการตลาดรถเล็ก 5% ภายในปี 2558
นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทไม่ได้มีปัญหาในการส่งมอบรถยนต์ที่ล่าช้าแต่อย่างใด เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายรถยนต์คันแรก โดยปัจจุบันจะส่งมอบรถยนต์ประมาณ 2-3 เดือน และมียอดจองเฉลี่ย 7-8 พันคันต่อเดือน โดยเป็นนิสสัน มาร์ช 3 พันคัน และนิสสัน อัลเมร่า อีก 4-5 พันคัน โดยในจำนวนดังกล่าวนี้ครึ่งหนึ่งเป็นผู้ซื้อรถยนต์ที่ได้รับสิทธิคืนภาษีตามมาตรการรถยนต์คันแรกด้วย
"หลังจากที่รัฐบาลขยายเวลามาตรการให้สิทธิคืนภาษีออกไปก็ทำให้ผู้ประกอบการรถยนต์มีความคล่องตัวมากขึ้น บางค่ายที่เคยปิดรับจองรถไป เพราะไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ทันตามกำหนดเวลา ก็หันมาเปิดรับจองใหม่ ซึ่งก็อาจจะมีผลให้มายกเลิกการจองรถจากค่ายเราด้วย แต่บางส่วนก็หันมาจองเราเพิ่มขึ้นก็มี เพราะต้องการใช้รถในทันที แต่เฉลี่ยแล้วยอดขายเราก็ยังปกติดีและไม่จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ทางการตลาด เพราะคนซื้อรถบางครั้งก็มีเป้าหมายในใจอยู่แล้วว่าต้องการรถยนต์ยี่ห้ออะไร" นายประพัฒน์กล่าว
ความคิดเห็น