เมื่อครั้งที่ Prius เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1997 ตัวเลขยอดจำหน่ายต่อปีมีเพียงเล็กน้อย แต่มาถึงวันนี้ Toyota ผลิตรถไฮบริดมากกว่า 1 ล้านคันต่อปี โดยมียอดขายคิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขาย Toyota ทั่วโลก และ 50% ของยอดขายในประเทศญี่ปุ่น
ในฐานะที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถไฮบริด Toyota เชื่อว่ารถไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดยังเติบโตได้อีกมาก ขณะที่เทคโนโลยีฟิวเซลล์ (fuel cell) ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ก็กำลังถึงยุคที่จะผลิตเป็นรุ่นโปรดักชั่นออกจำหน่ายจริงมากกว่าที่หลายคนคิด
ยักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งของโลกกำลังเตรียมความพร้อม เปิดตัวรถไฮบริดอีกอย่างน้อย 21 รุ่น รถพลังงานไฟฟ้า RAV-4 และรถพลังงานฟิวเซลล์ภายในปี 2015
ถึงแม้จะไม่มีเปิดเผยรายละเอียด แต่ Toyota เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า รถฟิวเซลล์ต้นแบบ FCV-R Concept ซึ่งเผยโฉมที่งานโตเกียว มอเตอร์โชว์เมื่อปีที่แล้ว จะขึ้นสายการผลิตจริงในปี 2015
Takeshi Uchiyamada หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็น “บิดาของ Prius” อธิบายว่า Toyota เปลี่ยนทิศทางการดำเนินงานใหม่ โดยไม่เน้นที่รถพลังงานไฟฟ้าอย่าง iQ EV เพราะว่ามันมีราคาแพงและมีระยะขับขี่ที่จำกัด ขณะที่ฟิวเซลล์ ในทางกลับกัน มีศักยภาพที่เหนือกว่าในการโลดแล่นระยะทางไกลและใช้เวลาชาร์จไฟสั้นกว่า
ยกตัวอย่าง FCV-R Concept ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกับ Prius ใช้ถังบรรจุไฮโดรเจนแรงดันสูง 70 เมกะปาสคาล (MPa) มีระยะทางขับขี่สูงถึง 700 กม. มากกว่า EV หรือรถพลังงานไฟฟ้าหลายเท่าตัว
“ความตื่นตัวและตระหนักถึงรถพลังงานทางเลือกอย่างไฮบริดและฟิวเซลล์ของสาธารณชน มีสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้มาก” Uchiyamada กล่าว พร้อมยอมรับว่า ผู้บริหารของ Toyota เองยังแปลกใจว่าผู้คนให้การต้อนรับเทคโนโลยีไฮบริดมากกว่าที่คิด เขาประเมินด้วยว่าในทศวรรษหน้า รถฟิวเซลล์จะได้รับความนิยมและมีวิ่งอยู่บนถนนทั่วโลกหลายหมื่นคัน
ในอนาคตอันใกล้ รถที่มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมสูงสุดคือปลั๊กอินไฮบริด เพราะมีการทำงานเหมือนกับรถพลังงานไฟฟ้าล้วนๆ จนกว่าไฟฟ้าในแบตเตอรี่จะหมดลงและเปลี่ยนมาใช้โหมดการขับขี่แบบไฮบริด ซึ่งช่วยประหยัดน้ำมันและลดมลพิษ ที่ผ่านมา Prius เวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริดซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ มียอดจำหน่ายแล้ว 15,600 คัน
LINE
ความคิดเห็น