หลังจาก AMG แผนกพัฒนารถสมรรถนะสูงของ Mercedes-Benz ออกมาประกาศว่าจะรีดพละกำลัง 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้นจากเดิม 330 แรงม้าไปอยู่ที่ 350 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 295 ฟุตปอนด์ นับเป็นการยกระดับรถยนต์คลาสคอมแพกต์ให้แรงขึ้นไปอีกขั้นและทำให้คู่แข่งสำคัญอย่าง Audi อยู่เฉยไม่ได้ ต้องเร่งเดินหน้าพัฒนาเครื่องยนต์ 5 สูบ เทอร์โบ ความจุ 2.5 ลิตรที่วางอยู่ในรถหลากหลายรุ่นเพื่อฉีกหนีการไล่ล่าของ Mercedes-Benz AMG
ปัจจุบันเครื่องยนต์ 5 สูบของ Audi ซึ่งขับเคลื่อนอยู่ในรถสปอร์ต TT RS และรถแฮทช์แบ็กสุดร้อนแรง RS 3 มีพละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 360 แรงม้า แรงบิด 343 ฟุตปอนด์ มากกว่าขุมพลัง AMG เพียง 10 แรงม้าทั้งที่มีความจุและจำนวนลูกสูบมากกว่า
Stephan Reil ผู้อำนวยการ Audi quattro แผนกพัฒนารถแบรนด์สี่ห่วงสมรรถนะสูงให้สัมภาษณ์กับเวบไซต์ Car Sales ว่าเครื่องยนต์ 5 สูบ เทอร์โบของ Audi มีอนาคตที่สดใสแต่ต้องได้รับการอัพเกรดครั้งใหญ่เพื่อแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“เครื่องยนต์ 5 สูบจะยังคงขับเคลื่อนในรถ Audi ต่อไปในอนาคต” Reil กล่าว “เมื่อผมได้เห็นตัวเลขพละกำลังของเครื่องยนต์ AMG แล้ว ผมคิดว่ามันน่าทึ่งมาก แรงม้าที่พวกเขารีดเค้นได้จากเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรนั้นน่าชมเชย”
การอัพเกรดแรงม้าและแรงบิดอาจไม่ใช่เรื่องยากด้วยระบบวิศวกรรมเยอรมันอย่าง Audi แต่การพัฒนาเครื่องยนต์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานไอเสีย EU6 ที่จะมีผลบังคับใช้ในยุโรปปี 2014 นั้นเป็นเรื่องยากเย็นกว่า ส่วนประกอบในเครื่องยนต์ที่ Audi จะต้องลงมือพัฒนาครั้งใหญ่นั้นมีทั้งกระบวนการเผาไหม้และการกรองไอเสียซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการปล่อยมลพิษ
LINE
ความคิดเห็น