ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ Mazda เป็นค่ายรถยนต์ที่ค่อนข้างขึ้นชื่อย่างมากในเรื่องการเปลี่ยนแปลง ทั้งการออกแบบที่ล้ำสมัย ไปจนถึงล่าสุดกับการปรับปรุงเทคโนโลยีปัจจุบันให้สดใหม่และทรงสมรรถนะ ที่หลายคน เริ่มรู้จักกันแล้วในนาม Mazda Skyactiv
โครงการพัฒนา Mazda Sky Activ ใหม่นี้ ถือเป็นมหากาพย์ความท้าทายที่ส่งให้ค่าย Mazda เปิดเผยตัวตนตามแบบที่ค่ายต้องการ ด้วยการจับการวิศวกรรมเดิมๆ มาขัดใหม่ทั้งหมด ไปพร้อมกับ การให้รายละเอียดการปรับปรุงพัฒนาที่สอดคล้องทางด้านสิ่งแวดล้อม ไปเช่นเดียวกับการให้ความประหยัดและสมรรถนะในการขับขี่ที่เร้าใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
การพัฒนาที่แหวกแนวกว่าชาวบ้านตั้งแต่เริ่มต้นที่หลายค่ายเริ่มเบนเข็มหาเทคโนโลยีใหม่ๆที่โหมโรงออกมาสร้างความสนใจตั้งแต่ช่วงปี 2010 จวบจนช่วงปีที่ 2011 ที่ยังคงความแรง แต่แล้ว Mazda Sky Activ ก็พร้อมออกสู่ตลาดด้วยรายละเอียดใหม่ที่อาจจะคุ้นเคยแต่ต้องบอกเลยว่าไม่เหมือนเดิม จากที่เราเคยได้สัมผัสกันมา
เครื่องยนต์ เกียร์ โครงสร้าง ตลอดจนระบบ ช่วงล่า งเรียกว่าไม่ใช่โครงการเล็กๆ เพราะนี้คือ การสร้างสรรค์วิศวกรรมอย่างสุดขั้วของขอบเทคโนโลยีในปัจจุบัน ซึ่งแง่หนึ่ง คือการสนับสนุนเทคโนโลยีปัจจุบันให้ไปได้ไกลขึ้น โดยไม่ต้องไปวุ้นวายความล้ำหน้าของเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งที่จริงก็เป็นภาพลวงตาของความพร้อมที่เราถูกปลูกฝังให้มองว่ามันเป็นเช่นนั้นแต่อันที่จริงยังอีกห่างไกล และแผนของ Mazda Sky Activ ใหม่ ก็ไกลถึง ปี 2020 เลยทีเดียว
น่าจะเรียกว่าเป็นโอกาสดีที่เราได้มาคุ้นเคยกับเทคโนโลยี Mazda Sky Activ ใหม่ ก่อนที่มันจะเริ่มวางจำหน่ายในไทยอย่างไม่ต้องสงสัยในรถยนต์ Mazda CX-5 ใหม่ ที่เตรียมลงทำตลาดในเดือนตุลาคม แต่ในว่าก่อนที่เราจะไปสัมผัสกันอย่างจริงจังในเวอร์ชั่นสำหรับบ้าน เรา Mazda ก็พาเราตะลุยโลกของ Mazda Skyactiv ในรถยนต์นิรนาม ห่อหุ้มผ้ามาอย่างพร้อมพะเนียง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ใต้ร่มผ้านี่คือ Mazda 6 ใหม่
เรือนร่างสปอร์ตซีดานกลางที่บ้านเราห่างหายไปนาน เป็นหนึ่งในรถยนต์ใหม่ที่บ้านเราเฝ้ารอคอย แต่วันนี้มันมาพร้อมกับการให้เราได้รู้จักในเทคโนโลยีใหม่ชั้นนำที่ใต้เรือนร่างของมันคือสุดยอดเทคโนโลยีของรถยนต์ ที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นมา
ที่จริงตั้งแต่ได้ฟังคำบรรยายที่กรุงทำ Mazda Skyactiv ไม่ใช่เทคโนโลยีธรรมดาบ้านๆ เหมือนที่เราคิด เพราะในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากการที่ค่ายรถยนต์ชั้นนำจากเมืองฮิโรชิม่า ได้มองถึงการสร้างจิตวิญญาณให้กับรถ เหมือนที่พวกเขาสร้างให้กับแบรนด์ของตัวเอง
Skyactiv – D ดีเซลที่แตกต่าง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่ายรถยนต์หลายเจ้าค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์ใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลค่อนข้างมากพอสมควร ส่วนหนึ่งก็มาจาการที่ เครื่องยนต์ดีเซลมีประสิทธิภาพในการขับขี่มากขึ้น มีอัตราประหยัดที่ลงตัวต่อสมรรถนะที่ได้มา
ความที่เครื่องยนต์ดีเซลกลายมาเป็นพระเอกของรถยนต์ในยุคนี้ จึงไม่แปลกที่ค่าย จะเครื่องยนต์ดีเซลในรถของค่ายและแม้จะวางขายมานานในต่างประเทศ แต่ในโครงการพัฒนา Sky Activ มันก็ถูกสร้างสรรค์ให้สามารถตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้นมากกว่า
เครื่องยนต์ถือเป็นหนึ่งในหัวใจของการขับเคลื่อนรถยนต์ที่สำคัญ และรถยนต์ที่ดีมักจะถูกอ้างถึงด้วยเครื่องยนต์ที่ดีก่อนอย่างอื่นเสมอ Skyactiv D เป็นชื่อรหัสของเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกใหม่ที่ถูกพัฒนาภายใต้ เทคโนโลยี Skyactiv โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือการให้สมรรนถะสูงสุดและเช่นกันยังมาพร้อมความประหยัดสูงสุดด้วย
เรื่องที่เป็นปัญหาของเครื่องยนต์ดีเซลมาโดยตลอดนั้นก็ไม่มีอะไรที่ยากไปกว่าการทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์มากขึ้น และในขณะที่หลายค่ายเบนเข็มไปทางการทำให้เครื่องยนต์แรงขึ้นเพียงอย่างเดียวจัดบูสท์หนักๆให้ขับมันส์ๆ ค่ายรถยนต์ Mazda ก็มีแนวคิดที่ต่างออกไป
จะแรงก็ได้แต่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ทิ้งควันดำให้ดูต่างหน้า นั่นคือสิ่งที่เครื่องยนต์ในปัจจุบันเป็นแต่ใน Mazda Skyactiv –D นั้นการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ที่สุด การวิศวกรรมภายใต้หลักการเดิม แต่เปลี่ยนการให้ความสำคัญที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มประสิทธิภาพเผาไหม้ และ Mazda Sky Activ-D เริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการเผาไหม้ เริ่มตั้งแต่ ช่วงเวลาการสั่งจ่ายน้ำมันที่จะฉีดเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด และยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องยนต์เบนซิน
เครื่องดีเซลส่วนใหญ่อาจจะมีกำลังอัดมากพอสมควร แต่กำลังอัดที่มากไปก็กลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในเรื่องการลดมลภาวะให้สะอาดที่สุดได้ เนื่องจาก น้ำมันและอากาศสันดาปกันอย่างรวดเร็วจากอุณหภูมิที่สูง ทำให้ยังไม่ผสมกันกันอย่างลง และ อีกหนึ่งความท้าทายของเครื่องยนต์ Mazda Sky Activ คือการลดอัตรากำลังอัดจากที่ปัจจุบันอยู่ราวๆ 16 : 1 ลงมาเหลือเพียง 14:1 เพื่อประวิงเวลาให้น้ำมันอากาศทำความรู้จักกันเป็นอย่างดีก่อนที่จะถึงเวลาจุดระเบิด เช่นเดียวกันยังเสริมทัพกับครั้งแรกของระบบเทอร์โบชาร์จสองลูกในเครื่องยนต์สายเลือดบูชิโด
สาธยายมายาว อาจจะฟังดูเป็นอะไรที่วุ่นวาย แต่เมื่อมาเป็นฟีลลิงในการขับขี่บนสนามแก่งกระจานเซอร์กิต ทุกอย่างมันก็สร้างแตกต่าง จนไม่ว่าใครก็คงจะคิดว่า นี่หรือคือเครื่องยนต์ดีเซล
เสียงที่นิ่วนวลไม่จับจุดคงจะไม่ทราบว่า ใต้การพรางตัวของ Mazda Sky Activ Car คือ Mazda 6 ที่วางจำหน่ายในต่างประเทศนั้น มันพกเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบขนาด 2.2 ลิตร ตามรายละเอียดทางเทคนิคแล้วมันมาพร้อมกำลังสูงสุด 173 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร
เมื่อเริ่มปล่อยเบรก เพื่อทดสอบอัตราความเร็วในรอบเดินเบา ค่อนข้างทำให้เราประทับใจแรงบิดที่เหลือเฟือทำให้รถสามารถเลื่อนไหลไปได้อย่างง่ายดายและไม่ต้องเร่งให้ล้อหมุน แต่ถึงคุณเร่งก็พบความดุดิบในแรงกระชากจากแรงบิดทีเหลือเฟือ แถมเทอร์โบสองจังหวะยังเป็นของเล่นของคนที่ชอบความเร้าใจ
เมื่อเริ่มวิ่งไปตามสนามเครื่องยนต์ Sky Activ D โชว์กล้ามใหญ่ๆออกมาให้เราได้สัมผัสอย่างชัดเจนมากยิ่ง โดยเฉพาะการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งไม่บ่อยครั้งที่เราจะพบเครื่องยนต์ดีเซลที่มีรอบเครื่องยนต์ที่มีเส้นยาแดงสุด ที่ 5000 รอบต่อนาที นั่นเช่นเดียวกับการบ้าระห่ำที่จะลากรอบเครื่องสูงๆ ในเครื่องยนต์กลุ่มนี้ ซึ่งแทบจะไม่มีประโยชน์ เมื่อพ้น 4000 รอบต่อนาทีขึ้นไป
ทิ้งความรู้สึกเหล่านั้นไปทั้งหมด เพราะเครื่องยนต์ Mazda Sky Activ D คือนิยามใหม่ของเครื่องยนต์ดีเซลสมัยใหม่ เมื่อคุณเหยียบลงไป เครื่องยนต์จะตอบสนองอย่างรวดเร็วจากเทอร์โบที่มีสองลูก ซึ่งลูกหนึ่งจะทำงานแทบจะทันที และเชื่อมต่อกันแบบอนุกรมทำให้รถสามารถตอบสนองได้ดีขึ้นตั้งแต่รอบต่ำและ ต่อเนื่องไม่มีอาการสะดุดให้เหนื่อยหน่ายใจ ต่อเมื่อรอบเครื่องยนต์สูง ก็ยังขับขี่ได้ดี จนเริ่มผ่าน ไปยังตัวเลข 4000 รอบต่อนาที เช่นเดียวกันมันไม่มีคำว่าเหนื่อยแรงและคุณยังสามารถจัดได้ถึง เส้นยาแดงซึ่งทีมวิศวกรบอกว่าที่จริงสามารถเร่งได้ถึง 5200 รอบต่อนาที อย่างไม่มีปัญหา และกับใครที่ชอบที่ดึงตัวแรงงๆ ออกตัวแล้วจมเบาะ คุณ...จะรักเจ้า Sky Activ D
เบนซินแตกต่าง ขุมพลังสไตล์สปอร์ต
การลองเครื่องยนต์ดีเซลเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้เราติดใจจนเรียกว่า มันเหมือนเป็นยาเสพติด เป็นรถคันเดียวที่ขับแล้วก็จะพูดแทบจะทันทีว่าขอขับอีก รอบได้ไหมถ้ามีโอกาส นั่นไม่แปลก เพราะเครื่องดีเซลของ Mazda เป็นเครื่องยนต์ที่สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะ sKy Activ D เป็นเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 6
การพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลให้มีความลงตัว ทำให้เราคาดหวังกับเครื่องยนต์เบนซินพอสมควร เพราะ การปรับวิศวกรรมจากเครื่องยนต์ที่มีหลักการมานานกว่า 100 ปี ตั้งแต่เปิดตัวออกมาครั้งแรกของเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเบนซิน คือ ความท้าทายที่สุดในการพัฒนา
จะทำอย่างไรให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดี และยังคงความประหยัดน้ำมัน คงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยที่จะตอบโจทย์ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการที่เครื่องยนต์ต้องมีความสปอร์ตกลมกลืนไปพร้อมกันด้วยในตัว
เครื่องยนต์สมรรถนะสูงในราคาที่สามารถจับต้องได้น่าจะเป็นนิยามที่ดีของ Mazda Sky Activ G เพราะตั้งแต่เริ่มต้นการถอดรหัสทุกชิ้นส่วนออกมาปรับปรุงใหม่ ตั้งแต่การอออกแบบลูกสูบ คือการเปลี่ยนแปลงที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง และนำมาสู่แนวคิดการคลุกเคล้าอัตราส่วนผสมอากาศกับน้ำมันที่ออกมาเป็นความสะอาด และโจทย์ดังกล่าวก็คือการเพิ่มกำลังอัดให้สูงประดุจดั่งเครื่องยนต์จากสนามแข่ง
แนวทางที่สวนทางจากเครื่องยนต์ Skyactiv D เพราะในเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv G มันถูกทำให้มีความเหนือชั้นมากกว่าด้วยการเพิ่มกำลังอัดจนสูงถึง 14 :1 ซึ่งน้อยคนจะเข้าใจว่ากำลังอัดสูงจะมีประโยชน์อย่างไร เพราะเรามักนึกถึงแค่แรงม้าและแรงบิดเอามาโม้กัน ว่ารถของเราแรงแค่ไหน!! แต่กำลังอัดคือการสร้างความร้อนในห้องเผาไหม้ให้สูงยิ่งขึ้นในการอัดอากาศ และเมื่อทำการจุดระเบิดมันก็จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งหมายถึงความเร็วลูกสูบที่หมุนข้อเหวี่ยงมากขึ้นไปด้วย
ในการทดสอบในสนามต้องยอมรับว่า มีปัจจัยที่ทำให้เราอาจจะรู้สึกพลาดๆไปบ้าง เพราะตามจริงแล้วไม่ควรขับเครื่องดีเซลก่อน เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ที่แรงบิดเยอะ ย่อมจะทำให้มีความรู้สึกที่ต่างกันอออกไปอย่างชัดเจน
การเข้าสู่รถยนต์ Mazda 6 อีกครั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ใต้ฝากระโปรงมาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ Sky Activ G 2.0 ที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่น โดยมาพร้อมกำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่6,000 รอบต่อนาที และตอบสนองแรงบิดสูงสุด 19.97 กก.-ม.ที่ 4,700 รอบต่อนาที โดยตามการทดสอบในโหมด JC-08 ที่ญี่ปุ่นสามารถทำอัตราประหยัดได้สูงถึง 17.4 ก.ม./ลิตร
ที่จริงแล้วก็อดสงสัยว่าทำไมทีมงาน Mazda ไม่นำเครื่องยนต์ในบล๊อกใหญ่ที่เป็นที่สุดของที่สุดครบครันตามต้นตำหรับวิศวกรรมของ Sky Activ Technology มาให้เราได้สัมผัสกัน เพราะในญี่ปุ่นยังมีเครื่องยนต์ Sky Activ 2.5 มาวางตลาด ซึ่งครบทุกองค์ประกอบของ sky Activ ไม่ว่าจะเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงสุด 13.0 : 1 นั่นยังรวมถึงการออกแบบท่อไอเสีย 4-2-1 ที่ช่วยในการเร่งเครื่องในรอบสูง ซึ่งไม่มีใน Skyactiv 2.0 ที่สำคัญในบล็อก 2.5 Mazda ยังการันตีว่าขับสนุกกว่าเดิม 10-15 % แต่กลับกันในโหมด JC-08 มันประหยัดถึง 15.6 ก.ม./ลิตร
เมื่อรู้ว่านี่เป็นเพียงเครื่อง 2.0 ลิตร ทำให้เรารู้ว่ามันไม่ใช่ที่สุดของที่สุด และเมื่อเดินคันเร่งขับไปตามสนาม สิ่งที่น่าสนใจคือเสียงเครื่องยนต์ฟังดูมีพลัง ที่จริงเสียงเหล่านี้จะคุ้นเคยสำหรับคนที่ชอบเรื่องราวของมอเตอร์สปอร์ต ด้วยความดุดันฟังดูมีพลัง แต่ก็เช่นเดิม เครื่องเบนซินยังมีนิสัยที่ต้องลากรอบ ซึ่งยิ่งลากก็ยิ่งหวานหู
เรื่องกำลัง Skyactiv G แสดงให้เราเห็นว่าเครื่องยนต์ 2.0 G ค่อนข้างอ่อนกำลังกว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร อย่างสังเกตได้ แต่เมื่อคุณเริ่มลากรอบไปยัง 3000 รอบต่อนาทีแล้วไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ มันก็ทำให้เรารู้สึกถึงความสนุกสนานในการขับขี่ เสียงไฟเราะของเครื่อง รถที่เร่งเร็วเป็นอะไรที่คอสปอร์ตจะชอบ และยังเร่งดีในรอบเครื่องยนต์สูงๆ
ที่น่าแปลกใจคือเครื่องเบนซินบล็อกใหม่ของมาสด้ามีกำลังแรงบิดเพิ่มขึ้น แต่คุณจะไม่สังเกตมากนัก แรงบิดจะมาแบบจริงจังเมื่อคุณใช้รอยเครื่องยนต์มากกว่า 4000 รอบ ขึ้นไป ซึ่งนั่นอาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ปกติ เพราะ ตามหลักกาทำเครื่องยนต์ คือยิ่งแรงบิดสูงสุดใกล้กับแรงม้าสูงสุดเท่าไร มันก็ยิ่งจะขับดีในแง่ความเร้าใจ แต่ข้อเท็จจริงการใช้รถของทุกคนคือว่า ไม่ใช่ใครจะระห่ำขับรถเร็วมันทุกวัน..อันนี้ก็น่าคิด
Sky Drive ระบบเกียร์ที่ไม่ธรรมดา
ช่วงระหว่างที่ขับขี่ทั้งในเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ในสนาม อีกส่วนที่สำคัญ ซึ่งเราจะปฏิเสธไม่ได้นั้นก็คือระบบส่งกำลังที่พัฒนาใหม่ บนพื้นฐานระบบเกียร์เดิม ซึ่ง Mazda เรียกว่า Sky Drive
อย่าไปเข้าใจผิดว่า Mazda ไปร่วมอะไรกับไมโครซอฟท์ ด้วยชื่อที่เหมือนกับราวกับแกะ แต่ที่จริงแล้ว วิศวกรมาสด้านำแนวคิดที่สุดยอดมาใช้ในการออกแบบระบบส่งกำลังที่รวมเอาข้อดีของระบบต่างๆเข้ามาทั้ง ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบทั่วไป ระบบเกียร์ CVT (Continuous Variable Transmission) รวมถึงระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น
ต่างระบบก็ต่างมีข้อดีข้อเสีย แต่จะทำอย่างไร ที่จะดีที่สุด โดย Mazda ยังเชื่อว่าระบบเกียร์อัตโนมัติ ธรรมดาแบบที่เราใช้กันปัจจุบันยังดีที่สุด ด้วยปัจจัยทางด้านความคุ้นเคยในการใช้งาน มากกว่าระบบอื่นๆที่เพิ่งมีการแนะนำเข้ามาเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้การพัฒนาเป็นไปในทิศทางที่เน้นการเอาของคุ้นเคยมาอัพเดทอีกครั้ง
ตามที่ Mazda ได้เปิดเผยมา การทำระบบเกียร์ Skydrive ใหม่ เน้นหนักไปที่การพัฒนาระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วไปให้มีการล็อกส่งกำลังมากขึ้นจากเดิม โดยเมื่อเทียบระบบทั่วไปที่มีอัตราล็อกอยู่ที่ร้อยละ 64 ใน Skydrive สามารถล๊อกกำลังได้ถึง 89%
ระบบส่งกำลังที่ล๊อกกำลังได้ดียิ่งขึ้นส่งผลให้มันตอบสนองทันในมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของการพัฒนาระบบ Torque Converter ที่มีในชุดเกียร์อัตโนมัติทุกลูกให้สามารถตอบสนองได้ดีมากยิ่งขึ้น พัฒนาชุดคลัทช์ในตัวระบบใหม่เป็นแบบหลายแผ่นซ้อน ทำให้สามารถเก็บแรงบิดมาใช้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น พร้อมกันกับการพัฒนาอัตราทดเกียร์ให้มากเป็น 6 จังหวะ ตามยุคสมัย ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน
ช่วงระหว่างที่ขับทดสอบ Sky Activ- D และ Sky Activ G ต้องยอมรับว่าเครื่องยนต์ที่ดีต้องมาพร้อมกับระบบเกียร์สามารถตอบสนองได้ และเมื่อเราแล่นไปตามสนาม ข้อแรกที่สามารถสัมผัสได้คงไม่พ้น การตอบสนองในเรื่องกำลังที่ชัดเจน ระบบเกียร์ Sky Driv ค่อนข้างให้ความรู้สึกเดียวกับเวลาที่คุณขับเกียร์ธรรมดา แต่ด้วยความเป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ ก็เลยอาจจะยังทำให้มีบางจังหวะที่รู้สึกว่ากำลังยังมาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เช่นตอนออกตัว ซึ่งมาจากลักษณะการทำงานของระบบ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันดีกว่าทั่วไปอย่างแน่นอน
ในช่วงที่อยู่ในสนามที่ความลาดชันสลับกันไป สิ่งที่เด่นชัดมาก จนต้องซูฮกเป็นความฉลาดของระบบเกียร์ ซึ่งสั่งการในการทอนกำลังหรือเพิ่มอัตราทดอย่างรวดเร็ว จนแม้แต่สลาลม ถ้าไม่มัวพะวงกับพวงมาลัย คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่าเกียร์ Sky Drive จะสลับเปลี่ยน 1 >>2 ตามสภาพการณ์ ตลอดเวลา จนไม่น่าแปลกใจที่ความฉลาดของมันบางครั้งจะทำให้บางคน งง กับการเข้าโค้ง S จนเสียจังหวะและการทรงตัวไปบ้าง
นอกจากการตอบสนอง และความฉลาดแล้ว การต่อเกียร์ในแต่ละอัตราทดยังทำได้นุ่มนวล ส่วนหนึ่งคงเป็นปัจจัยจากคลัทช์หลายแผ่นซ้อนที่ช่วยลดการสะท้านจากกำลังแรงบิดทำให้ ชุดเกียร์สามารถต่ออัตราทดได้อย่างนิ่มนวลที่สุด จนแทบไม่รู้สึกและทำได้ดีจนใกล้เคียงระบบเกียร์ CVT เสียด้วยซ้ำไป จนถ้าไม่สังเกตว่า หน้าปัดตัดกำลังรอบเครื่องยนต์ตกลง เล็กน้อยตามนิสัย ก็จะไม่รู้ว่าเกียร์ทำงานอยู่
ช่วงล่างหนึบแน่น แชสซี และโครงสร้างที่มั่นใจ
แม้เครื่องยนต์กับ เกียร์ และการออกแบบจะเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันมาพอสมควรในรถยนต์ว่า ต้องมีดี แต่ระบบช่วงล่างและการควบคุมรถ หรอที่เรียกว่า Handling ก็เป็นอีกสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ในความเป็นจริงเราอาจจะแค่คิดว่าระบบช่วงล่างจะมีอะไรมากไปกว่าโช๊คและสปริงที่พูดถึงกันอย่างหนาหู แต่ใครเลยจะรู้ว่าช่วงล่างที่ดีอาจจะมาจากการพัฒนาร่วมระหว่างโครงสร้างของตัวถัง ประจวบบรรจบเข้ากับชุดแชสซีช่วงล่าง และยังมีเรื่องของมุมต่างๆเข้ามาอีก
แค่ฟังก็ต้องยอมรับว่ากุมขมับทันที แต่นั่นคือความท้าทายที่สุดในรถยนต์ Mazda ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี skyactiv ซึ่งเน้นในการให้รายละเอียดทุกอย่างที่ผสมผสานจนเป็นสิ่งเดียวที่คลุกเคล้าเข้ามาด้วยกันในการตอบสนองการขับขี่
ระบบช่วงล่างที่ยังคงการเซทติ้งแบบที่เรารู้จักกันดีอย่างระบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านกลังใช้มัลติลิงค์ ซึ่งดูเผินๆ จะพูดถึงการเซทโช๊คคและสปริงให้หนึบแน่นก็ย่อมทำได้ง่ายๆ ตามหลักสูตรทั่วไป แต่ จุดเด่นของ Skyactiv chasis คอการลดความซ้ำซ้อนลงไป ซึ่งทำให้ม้ำหนักเบาขึ้น ไปพร้อมกับ การปรับตั้งมุมกระทำของโช๊คและสปริงใหม่
อย่างเช่นในระบบแม็คเฟอร์สตรัทนั้นมีการปรับมุม Caster หรือมุมเอียงระหว่างตัวโครงสร้างกับโช๊คและสปริงของระบบช่วงล่าง ทำให้มีความหนึบมากขึ้นและลดการสั่นสะเทือนของผิวถนนกับตัวรถ รวมถึงเพิ่มการเกาะถนนและเสถียรภาพในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
ในการปรับค่าในแบบ Multi-Link ที่เราคุ้นเคย แม้ภายใต้แนวคิดจะไม่ได้มีความแตกต่างแต่ การปรับค่าในเรื่องของจุดยึดก็ช่วยให้รถมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น การปรับยกจุดยึดให้สูงขึ้นช่วยให้แรงกระทำจากพื้นถนนไม่สะท้านย้อนเข้าหาตัวรถ เหมือนที่เคยเป็นมา
เมื่อขับขี่ Mazda Sky Activ การเปลี่ยนแปลงในหลักการเดิมที่ง่าย ทำให้เราเห็นผมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ช่วงล่างดูมีความหนึบแน่น ผิดหูผิดตา บางคนมักจะบอกว่านี่เกิดจากโช๊คและสปริง แต่ต้องไม่ลืมว่า โช๊คและสปริงที่มีความแข็งจนเกินงามจะทำให้รถมีความกระด้างไม่ว่าจะนั่งหรือขับมันก็ไม่สบาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจกันแบบง่ายๆมาโดยตลอด
หากแต่ใน Mazda Sky Activ นั่น คุณจะยังรู้สึกถึงการยุบตัวของระบบกันสะเทือนได้ อย่างชัดเจน เพียงแต่มันจะหนึบออกแนวยุบตัวน้อย ซึ่งก็มาจากการเซทมุมที่ให้มีการกระทำต่อระบบช่วงล่างที่น้อยลง และเช่นกันในช่วงล่างทางด้านหลังที่ปรับมุมยกของชุดแพร์ Multi- Link ใหม่ ก็แสดงให้เห็นถึงระบบกันสะเทือนที่ลดการที่แรงกระแทกเข้าสู่ห้องโดยสารน้อยลงกว่าเดิม อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในสนาม เรามีหลายจังหวะที่ลองกระโดดแบงค์ดู ก็มีการกระแทกบ้างแต่คุณจะยังรู้สึกมั่นใจได้เสมอ
นอกจากระบบช่วงล่างที่มีความเสถียรมากไม่ว่าจะเข้าโค้งหรือ การทรงตัวทั้งในความเร็วสูงและความเร็วๆกลางๆแล้ว การออกแบบมุมใหม่ ยังมีผลต่อการห้ามล้อหรือเบรก ซึ่งคุณจะสามารถรู้สึกถึงความมั่นคงแม้จะจัดหนักมาแรงแค่ไหน รถจะไม่มีอาการแตกแถวสะบัดเลย มันจะนิ่งเนียนแม้ยามอัดเต็มแล้วมาเบรกตรงหน้า มันก็มั่นใจได้ในการทรงตัว
ส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันนอกจากช่วงล่างแล้ว ก็คงไม่พ้นระบบบังคับเลี้ยว ที่เปลี่ยนมาใช้แร็คพวงมาลัยที่มีอัตราทดสูง 15.4 :1 ซึ่งเป็นอัตราทดที่สูงพอสมควร เมื่อเทียบกับที่เราใช้กันในปัจจุบัน ซ และเมื่อขับขี่จริงเราก็ค้นพบรถที่นั่งที่มาพร้อมพวงมาลัยที่เฉียบคมในการขับเพียงเปลี่ยนองศานิดเดียว ทิศทางก็เปลี่ยน
ในขณะที่น้ำหนักพวงมาลัยเองก็ค่อนข้างจะลงตัวในช่วงความเร็วต่ำมันจะค่อนข้างเบาทำให้ง่ายต่อการตอบสนองแต่ก็ไม่ได้เบาหวิวเหมือนรถซิตี้คาร์ไปเลย เพราะคุณยังต้องใช้แรงนิดหน่อย ครั้งจะกระแดะนิ้วก้อยควงก็คงจะไม่ได้ ต้องจับมั่นในระดับหนึ่งก่อนที่ จะควงมันไป ซ้ายหรอขวา แต่เมื่อความเร็วมากขึ้น พวงมาลัยก็จะมีน้ำหนักเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังคงความเฉียบคมเอาไว้
จะเห็นได้ชัดเจนในช่วงสถานีสลาลอม รถจะตอบสนองได้แม้จะเพิ่มความเร็วสูงขันก็ตาม พวงมาลัยก็ยังคมสะบัดเพียงเล็กน้อย รถก็เปลี่ยนทิศทาง ในยามที่เข้าโค้งก็ยังมั่นใจได้ และเมื่อรวมกับช่วงล่างและเครื่องยนต์ก็ถือว่า มันคือรถที่สมบูรณ์แบบ
อาจจะแตกต่างไปกว่าที่คือสำหรับ Mazda Sky Activ เทคโนโลยีในแนวคิดของ Mazda ที่พวกเขามองว่าการทำรถยนต์ที่ดีนั้นต้องมีส่วนร่วมของทุกสิ่งอย่าง ด้วยการพัฒนาแนวคิดใหม่ ในหลักการเดิม เสริมตัวตนเข้าไป ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน
การสร้างผลงานใหม่ที่ประจักษ์ในนาม Mazda Sky Activ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่เปลี่ยนค่าย Mazda อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การขายรถยนต์หน้าตาดี ทั่วๆไปที่ ใครก็สามารถทำได้ แต่ เราจะบอกว่า Mazda Sky Activ คือการสร้างจิตวิญญาณความสปอร์ตเร้าใจ ที่เรียกว่า Zoom- Zoom ให้กับรถตามที่พวกเขาต้องการ
แม้จะอีกไม่ช้าแล้วที่ค่ายรถยนต์ Mazda จะนำเทคโนโลยีนี้ออกสู่ตลาดในประเทศไทยในนาม Mazda CX-5 ที่คาดว่าจะมาลงตลาดในเดือนตุลาคมนี้ แต่ถึงเราอาจจะไม่ได้ขับเจ้าตัวที่จะมาขายในไทย แต่กับเจ้า Mazda 6 ที่มันอยู่ในใต้ร่มผ้าตรงหน้าเราที่ขาดหายไปจากตลาดไทยมานาน
...ในความเห็นส่วนตัวก็ค่อนข้างตรงกับกูรูรถยนต์บางท่านคือ Mazda อย่าได้รอช้ารีบนำ Mazda 6 คืนสู่อ้อมอกคนไทย ...เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะผลัดกันให้ค่ายรถยนต์ สายเลือก ซูม-ซูม อยู่ในใจคนไทยมากขึ้น
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอบคุณการขับทดสอบ จัดโดย บริษัท มาสด้า เซลล์ ประเทศไทย จำกัด และ Mazda Motor ที่สนามแก่งกระจานเซอร์กิต เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2556
ความคิดเห็น