Ford focus 2.0 ..เด่นในสมรรถนะ ล้ำหน้า ด้วยเทคโนโลยี Share this

Ford focus 2.0 ..เด่นในสมรรถนะ ล้ำหน้า ด้วยเทคโนโลยี

Admin
โดย Admin
โพสต์เมื่อ 17 June 2556

เรื่อง และขับทดสอบ โดย  ณัฐยศ ชูบรรจง

ช่วงปีกลายที่ผ่านมา เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่สร้างกระแส จนไม่ว่าคุณจะต้องสนใจ  ยิ่งกับความล้ำหน้าที่แตกต่างแล้ว ไม่มีรถคันไหน ที่จะดูแล้วล้ำยุคไปกว่ารถยนต์จากค่ายวงรีสีน้ำเงิน  Ford Focus  ที่เข้ามาตราตรึงใจ ด้วยการให้ความลำสมัยที่แม้แต่รถยนต์หรู ชั้นนำยังต้องอาย

แนวทางการพุดถึง Ford Focus  ใหม่ ค่อนข้างจะเป็นไปในทางที่ดีค่อนข้างมา โดยเฉพาะ เรื่องของเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ยิ่งเมื่อบวกกับสมรรถนะในการขับขี่ และความปลอดภัย ที่มีอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว มันยิ่งทำให้ หลายคนสนใจกับความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครในรถยนต์คอมแพ็คคาร์

เรือนร่างขนาดปานกลางไม่ได้ใหญ่มาก หรือแล้วดูเล็กเกินงาน เป็นสิ่งที่ทำให้คนทั่วโลก ชื่นชอบรถยนต์ในกลุ่มนี้ และ ในการพัฒนา  Ford Focus  ใหม่ ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว ด้วยความยาว  4,354  ม.ม. กว้าง 1,823  ม.ม. และ สูง 1,484 ม.ม. แล้วให้ความมั่นใจในการขับขี่ผ่านระยะฐานล้อ  2,648 ม.ม.

ทรวดทรง Ford Focus  ใหม่ เน้นการให้รายละเอียดที่ดูทันสมัย ตลอดรอบคัน และเช่นเดียวกันมันยังมาพร้อมความสปอร์ตในการออกแบบ โดยทั้งหมดเป็นผลจากการออกแบบที่เรียกว่า  Kinetic Design  ซึ่งเน้นให้ความลื่นไหล ประดุจรถเคลื่อนไหว ตลอดเวลาแม้ยามหยุดนิ่ง

เราแปลกใจมากที่  ford  ไม่ค่อยได้เน้นรายละเอียดมากในเรื่องการสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นมากมายอะไรนัก ซึ่งแม้จะดูเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ มากมายนักในแง่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์  ทว่ากับลูกค้ามันคือเรื่องที่สำคัญมากจน ค่ายรถยนต์อาจจะคิดไม่ถึง

Ford_Focus_201255

เรื่องนี้ต้องเท้าความไปสักหน่อย เพราะ  2-3  เดือนก่อนมีโอกาสได้ลองขับรถรุ่น 1.6  ลิตร 5 ประตู ที่เหมือนกัน  แต่เกือบทุกอย่างดูแล้วอยู่ไม่มีความแตกต่างกันมากมายจนเป็นนัยยะสำคัญนัก เท่าที่สังเกต สิ่งที่ต่างออกไปเป็นการติดตั้งชุดสปอร์ยเลอร์หลัง รวมถึงโคมไฟหน้าที่มาในแบบโปรเจ็คเตอร์ ให้ระบบไฟส่องสว่างยามกลางคืนกำลังสูง HID Xenon  มาพร้อมระบบปรับไฟหน้าสูงต่ำอัตโนมัติ  รวมถึงไฟหรี่ LED  ในโคม ซึ่งความจริงไฟหรี่ที่ว่านี้จะดีกว่านี้อีก ถ้า ทำมันเป็น ไฟ  Daytime  ตามสมัยนิยม

สิ่งที่ชื่นชอบมากจนต้องออกปากชม ก็เป็นชุดล้ออัลอย ขนาด   17  นิ้ว ที่จัดมาเสร็จสรรพ พร้อมชุดยางที่มั่นใจได้ทุกสภาพการณ์ขับขี่ซีรี่ย์  215 /50  R17 ลงตัวและมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไปมากมายนักสำหรับคอสปอร์ต และเมื่อเราออกมายืนครุ่นคิดริมหาดแม่ริม ที่เดินทางมาไกล มาก นี่คือรถยนต์ที่หล่อเอาการ สำหรับคอสปอร์ตจริงๆ แถมท้ายด้วย ซันรูฟ เบ็ดเสร็จในตัว

จริงๆแล้ว ในเรื่องภายนอก  Ford  ทำได้ดีเกินคาด ทั้งการให้รายละเอียดในการพ่นสีที่มีความลึกเงางามมากกว่าค่ายรถยนต์อื่นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึง การนำเสนอสีใหม่ๆ มาให้เลือกสรร เราเปิดแคตตาล็อกดู พบสีใหม่ โดยเฉพาะ 3  สี เจ็บ  Candy Red , Winning Blue   หรือจะเป็นสีที่เรานำมาในวันนี้  Mustard Olive  จะมีอยู่ในตัว   2.0  ลิตรเท่านั้น

ภายในห้องโดยสาร   Ford Focus  ใหม่ เริ่มต้น ด้วยการเปลี่ยนตัวเองให้มีบุคลิกที่แตกต่าง เริ่มตั้งแต่ที่คุณเลือกตัวตนของรถระหว่างรุ่น  4  และ   5 ประตู ที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน ตั้งแต่สีภายใน โดยใน รุ่นสี่ประตู จะเลือกใช้สีเบจ ส่วนในรุ่นแฮทช์แบ็คจะใช้สีดำ

การตบแต่งที่เคร่งขรึม ด้วยสีดำในรุ่นแฮทช์แบ๊คช่วยให้รถมีความสปอร์ตที่ชัดเจน  มาพร้อมกับการออกแบบที่ให้อารมณ์ความรู้สันสมัยไปพร้อมกัน ตั้งแต่ก่อนที่คุณจะก้าวเข้ามาในรถเสียด้วยซ้ำจากกุญแจรีโมทอัจฉริยะ

คอนโซลหน้าที่ดูทันสมัย จะว่าขัดความรู้สึกเล็กน้อย เมื่อคิดว่าภายนอกนั้นดูมีความสปอร์ตที่ลงตัว ซึ่งการนำเสนอที่เน้นในตัวตนที่ทันสมัย อาจจะช่วยให้ไม่น่าเบื่อ และกลมกลื้นไปกันได้ในความรู้สึกสปอร์ตของตัวรถ ยิ่งการให้รายละเอียดการตบต่างสีเงินในตัวรถ ก็ยิ่งชัดเจนว่า ในห้องโดยสารเน้นสื่อความทันสมัย

Ford_Focus_201223

Ford_Focus_201225

ถ้ามองโดยรอบจอแสดงผลที่หน้าปัด และตรงกลางคอนโซลหน้า อาจจะทำให้รู้สึกว่า มันเหมือนยานอวกาศไปบ้าง โดยเฉพาะตรงกลาง ที่มาพร้อมเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมจากค่าย Sony  และระบบปรับอากาศแยกอุณหภูมิอิสระ ซ้าย-ขวา รวมถึงพวงมาลัยสี่ก้าน ที่ดูเข้าทีในความทันสมัยแต่ไม่ค่อยสปอร์ตเท่าไรนัก ที่น่าชื่นชมคือ การจัดวางปุ่มระบบต่างๆที่ทำออกมาได้ดีเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนจนเกินไป

แม้จะรวมเอาระบบต่างๆไว้มากมายบนพวงมาลัย และทำได้ดี  แต่ที่ขัดใจจริงๆก็เป็นเจ้าสวิทช์ที่อยู่บนคันเกียร์ ซึ่งมีมาให้สับขับมันส์ๆ ได้ใช้งานกัน แต่เมื่อเอาเข้าจริ งก็ต้องยอมรับว่า การกระดิกนิ้วเปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ง่ายนัก และ ยิ่งเมื่อเอาเข้าจริงในการขับขี่ คุณจะพบว่ามือหนึ่งถือพวงมาลัย มือหนึ่งจับคันเกียร์ พร้อมสั่งนิ้วกระดิกไปพร้อมกัน มันยากมากๆ

เบาะนั่งเองก็ออกแบบมาให้มีความสปอร์ตในตัว นั่งได้สบายและกระชับไปพร้อมกัน ในสไตล์กึ่งเบาะ  Bucket Seat   วัสดุผ้ากึ่งหนังดูขัดๆ เมื่อ มองจากโบว์ชัวร์แล้วน่าจะทำให้สาวกช้ำใจว่า ใยรุ่นสี่ประตูได้ใช้เบาะหนัง นั่นยังไม่เท่ากับ รถคันละล้านบาทที่ไร้เบาะไฟฟ้าในรุ่น  5  ประตู ทั้งที่มีให้ในสี่ประตู..เอ หรือจะพูดว่า  Ford Focus 2.0 hatchback  เป็นลูกเมียน้อย

Ford_Focus_2012106

แม้ข้อเท็จจริงเรื่องหนึ่งที่สามารถยอมรับได้คือ การที่  Ford Focus 2.0 hatchback  อยากจะเน้นในความสปอร์ตมากกว่า แต่เมื่อรุ่นหนึ่งมีมาให้ อีกรุ่นไม่มีมาให้ มันย่อมก่อให้เกิดคำถามว่า ทำไม ทั้งที่ราคาก็เท่ากัน ...

ออพชั่นที่เปลี่ยนไปตามรุ่นรถระหว่างรุ่น  4  และ  5  ประตู อาจจะทำให้เราสงสัยว่าอะไรอยู่ในความคิดของค่ายวงรีสรน้ำเงินในการเลือกที่จะให้ออพชั่นที่แตกต่างกับตัวรถ แต่เมื่อมามองถึงเรื่องสมรรถนะในการขับขี่ มันก็มีความแตกต่างระหว่างกันอย่างชัดเจน

เครื่องยนต์แบบ 4  สูบแถวเรียง ขนาด  2.0 ลิตร  พร้อมเทคโนโลยีวาล์วอัจฉิยะ  TI-VCT  พร้อมแก๊สโซลีนไดเร็คอินเจ็คชั่น ให้กำลังสูงสุด  170  แรงม้า ที่ 6,000  รอบต่อนาที ตอบสนองด้วยแรงบิด  202  นิวตันเมตร ที่  4,450  รอบต่อนาที

ขุมพลังบล็อกนี้ ถือเป็นตัวชูโรงของค่ายวงรีสีน้ำเงินก็ไม่ปาน ถ้าไม่นับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด  Ecoboost  ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้น เทคโนโลยี  GDI  ช่วยให้เครื่องมีความประหยัดมากขึ้น โดยในโบว์ชัวร์เองบอกกล่าวว่า  ในสภาวะการขับขี่จำลอง Ford Focus 2.0 สามารถ ทำอัตราประหยัดเฉลี่ย ได้มากถึง  14.9  กิโลเมตรเลยทีเดียว

Ford_Focus_2012101

ในความเป็นจริง อาจจะเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันพอสมควร ด้วยความที่มันเป็นเครื่อง  2.0 ลิตร ที่มีความสนุกสนานในการขับขี่ ทำให้หลายครั้งยากที่ห้ามใจให้ขับประหยัด ... ข้อเท็จจริงนี้เป็นกันทุกคน แม้แต่กับเรา โดยเฉพาะในเย็นวันศุกร์ ที่รถคับคั่ง การได้   Ford Focus 2.0 ลิตร มาครองเพื่อพร้อมในการออกทดสอบ ถือว่าเป็นฝันร้ายชัดๆ

รถติดยามเย็นในกรุง ไม่ว่า ใครก็คงโจษจันไปแล้วว่า เมืองไทย รถติดวันศุกร์ นี่ยิ่งเจอฝนตกด้วยนะเรียกว่า จบข่าว มีลูกมีหลาน ศัพท์ว่า “โตในรถ” ยังใช้ได้ดี

ตีวงออกจากโกดังลับของค่ายวงรีสีน้ำเงิน แล้วมุ่งหน้าตามถนนสุขุมวิทเพื่อเริ่มต้นการทดสอบในเมือง อย่างเป็นทางการ เพื่อให้รู้ลึกรู้จริงไม่ดราม่า ว่าเอาผลการทดสอบมายังไง

ช่วงแรกของการขับจี่ยามเย็น ต้องยอมรับว่า ศุกร์นี้เส้นทางเป็นใจพอสมควร รถมากเคลื่อนตัวช้า แต่สามารถไปได้ เรื่อย มีติดขัดบ้างตามสี่แยกไฟแดง โดยเฉพาะอโศก สี่กั๊กแห่งนี้ติดนาน จนแทบหลับไปข้าง แต่เมื่อสัญญาณมาแบบไฟโปร สองล้อพุ่งทะยาน เราก็เพิ่มน้ำหนักเท้าเหนี่ยวคันเร่งลงไป เครื่อง 2.0 ลิตร ก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวัง พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วเกินคาด โดยเฉพาะเมื่อก่อนหน้านี้เคยขับรุ่น 1.6  ลิตรมา  รุ่น  2.0 ลิตร จะดูกระฉับกระเฉงกว่าชัดเจน

Ford_Focus_201221

เสาเหตุหนึ่งที่เครื่องยนต์  2.0 ลิตร  ใน  Ford Focus   มีความกระฉับกระเฉงมากเป็นพิเศษ ยิ่งกับในเมือง ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้มากมายนัก ก็มาจากการวิศวกรรมเครื่องยนต์ ที่เน้นการทำงานอย่างรวดเร็ว  เป็นข่าวดีที่เราจะพูดว่า ขุมพลังของ  Ford Focus  2.0 เป็นเครื่องยนต์ที่ออกแบบให้มี อัตราช่วงชักกระบอกสูบแบบ  Over Square  หรือมันมีลูกสูบใหญ่ และมีช่วงชักที่สั้น ในอัตรา   87.5 X83.1  ม.ม. ช่วงชักที่สั้นช่วยให้ มันตอบสนองได้อย่างรวดเร็วมาก รวมถึงการให้อัตรากำลังอัดมากถึง 12:1 ในเครื่องยนต์บล็อกนี้

เส้นทางในเมืองอาจจะให้เรารู้เรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์มากมายอะไรนัก แต่ที่น่าประทับใจที่สุด คงจะยกให้พวงมาลัยไฟฟ้า ที่เบาหวิวจนเทียบชั้นรถยนต์ซับคอมแพ็คคาร์ และมันช่วยมากในเรื่องความคล่องตัวในการขับขี่

การแหวกไปตามการจราจรในเมืองช่วยยามเป็นกับพวงมาลัยไฟฟ้าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ช่วยให้เราเริ่มรู้สึกชอบ  ford focus  และไม่ใช่เพียงแค่เราเท่านั้น แต่ยังรวมถึง คนอื่นๆที่ได้ลองขับด้วย อย่างเช่นแฟนเราเอง ที่แอบขอลองขับดูบ้าง ก็ยังชอบอกชอบใจ นึกถึงหญิงสาวตัวเล็กๆ  มีความสูงประมาณหญิงไทย  160  ซ.ม. โดยประมาณ อย่างสามารถบังคับ  ford focus  ได้ง่ายสบาย

ในเมืองรถติดหนักวันศุกร์ เรามาสรุปผลเรื่องความประหยัดในวันรุ่งขึ้น  โดยจากข้อมูลการขับขี่เราขับรถโดยใช้น้ำมันโดยเฉลี่ย  8.8  ก.ม./ลิตร ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าคุณขับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดนี้ ถามว่าในบรรทัดฐานแล้วสรุปกินมากหรือไม่  มันก็แค่กลางๆ

วันที่สองของเราได้เวลาเดินทางในการทดสอบสมรรถนะเพิ่มเติม โดยเฉพาะ เส้นทางที่หวานหอม สำหรับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เป็นถนนหลวง  ที่ใช้ความเร็วพอสมควร

Ford_Focus_201261

Ford_Focus_201210

ปัจจัยการทดสอบนอกเมือง เรามีคนในรถสามคน รวมผมด้วย พร้อมสัมภาระติดตัวเล็กน้อย  เพื่อมุ่งหน้าสู่ระยอง เส้นทางในวันนี้ใช้ทางด่วน พุ่งตรงบูรวิถี ตัดออกบายพาส ซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางที่หลายคนใช้กัน

สภาพอากาศในวันทดสอบ แดดร้อนเปรี้ยง มีเงาเมฆบ้างเล็กน้อย ถือว่าเป็นปกติของบรรยากาศฤดูร้อน และเมื่อล้อแตะทางด่วนออกสู่ชลบุรี เราใช้ความเร็ว กดเปรี้ยง !!! Cruise Comtrol  120 ก.ม./ช.ม. แล้วล็อกตลอกทาง ด้วยฟังชั้น  Speed Limiter   ช่วยป้องกันได้ ดีในเรื่องของการตรวจจับความเร็ว

ช่วงระหว่างเส้นทาง   Ford Focus Hatchback 2.0  ให้ความประทับใจด้วยระบบช่วงล่างที่เซทมาอย่างลงตัว ไม่บ่อยนักที่เราจะพบรถยนต์ที่มีช่วงล่างที่สปอร์ต แต่ยังให้ความนิ่มนวล และหนึบแม้ในยามความเร็วสูงคุณก็ยังมั่นใจได้ว่าไม่ได้เอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นด้านบางๆ ระหว่างความเป็นและความตาย

ช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท  คอยย์สปริง  พร้อมเหล็กกันโคลง  ทางด้านหน้ากลายเป็นมาตรฐานที่เราเห็นบ่อยมากในรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ แต่สิ่งที่น่าจะสร้างความแตกต่างให้กับ ford focus  ใหม่ อยู่ที่ระบบช่วงล่างทางด้านหลัง ที่มีความแตกต่างอย่างมาก จนเรียกว่า น่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นในกลุ่ม ที่ใช้ระบบช่วงล่างแบบ อิสระคอนโทรลเบลด มัลติลิงค์ คอยสปริง

ระบบกันสะเทือน แบบอิสระที่ตอนหลัง ช่วยให้รถมีการซับแรงกระแทกที่ดี และยังคงความคล่องตัว โดยแนวคิดของ  ford  ในการใช้ระบบช่วงล่างอิสระ แม้จะมีความซับซ้อนมาก แต่มีเป้าหมายเดียว คือการให้ระบบเป็นหนึ่งเดียวในการซับแรงที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นป้องกันไม่ให้สูญเสียเรื่องใด เรื่องหนึ่งออกไป โดยไม่จำเป็น ล้อแต่ละล้อยังสามารถดิ้นได้อย่างอิสระระหว่างที่มันผ่านถนน ขุรขระ ซึ่งให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ ในขณะที่ชุดระบบปีกนกช่วยให้ระบบกันสะเทือนมีความคล่องตัว แล้วยังเกาะถนน และท้ายสุด ความหนึบแข้งบ้างเล็กน้อยของระบบช่วงล่างแบบมัลติลิงค์ ช่วยให้วางใจได้ ทุกครั้งที่ขับขี่

จากที่อธิบายทั้งหมด จะพบว่า  Ford focus ได้ระบบกันสะเทือนที่มีความแตกต่างจากรถยนต์คอมแพ็คคาร์คันอื่นๆ ที่เริ่มหันไปคบระบบทอร์ชั่นบีม ตามสมัยนิยม ช่วงล่างกึ่งอิสระที่ช่วยให้ง่ายในการออกแบบหรือปรับตั้งง่ายไม่ต้องเปลืองแรงมากมาย นัก แต่ใน  ford focus  ช่วงล่างแบบอิสระ มัลติลิงค์ คือความสำเร็จที่ล้ำหน้าที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

ช่วงที่ขับขี่นอกเมือง พวงมาลัยมีน้ำหนักมากขึ้น และด้วยช่วงล่างที่มั่นใจได้ แม้ในยามใช้ความเร็ว มันก็เป็นรถที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพในการขับขี่ อาจจะดูอันตราย แต่ถนนเรียบพอและศูนย์ล้อตรง คุณแทบจะปล่อยพวงมาลัยได้เลย และ เมื่อรวมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติมันก็เป็นรถที่แทบจะวิ่งได้เอง ...

ความสบายที่เหนือชั้นของ  Ford Focus   ทั้งหมดมาจากสมรรนถะในการขับขี่ล้วนๆ ที่สามารถวางใจได้จนน่าทึ่ งเมื่อมองดูรอบเครื่องยนต์ที่ ความเร็ว 120  ก.ม./ช.ม. เครื่อง 2.0 ลิตร กลับใช้เพียง 2,600 รอบต่อนาทีต้องขอบคุณระบบเกียร์ Power Shift   6 สปีด ที่มากับฟังชั่น  Selected shift  ช่วยให้บนทางหลวงที่เปิดกว้างมันมีความประหยัดอย่างมากจนเราได้ตัวเลขที่น่าชื่นชม  11.3  ก.ม./ลิตร  อาจจะไม่ได้มากอย่างที่หวังเอาไว้ แต่นี่คือความจริงเมื่อคุณเดินทางสามคน แต่ที่เราไม่รู้คือ  Ford   ให้น้ำมันอะไรเรามา ...

Ford_Focus_201259

สิ่งที่ไม่ประทับใจเลย ก็เป็นเรื่องมที่เราคาดการณ์เอาไว้แล้ว กับระบบ  Select Shift  ซึ่งให้ความสามารถในการเลือกเกียร์ทั้ง 6  กลับใช้ยากในความเป็นจริง คิดภาพตามแล้วนึกถึง คุณกางมืองออก ตามปกติเราถนัดมือขวาจะจับพวงมาลัย ส่วนมือซ้ายจะจับที่หัวเกียร์ ท่าลักษณะแบบนี้คนขับรถเกียร์ธรรมดาน่าจะคุ้น เคย แต่ตามปกติของระบบเกียร์ธรรมดาจะเปลี่ยนเกียร์ แล้วมือกลับขึ้นมาถือพวงมาลัย แต่นั่นไม่ใช่กับ Ford Focus เพราะนิ้วโป้งซ้ายคุณต้องยิกๆ ขยี้ปุ่มที่ฝังเอาไว้ที่หัวเกียร์ ซึ่งมันไม่ถนัดเอาเสียเลย และ มันก็เป็นข่าวร้ายสำหรับพวกบ้าแต่งรถ ที่ชอบเปลี่ยนหัวคันเกียร์

แม้จะมีเรื่องสะดุดเล็กๆน้อย ยิ่ง Ford Focus  ทำให้เรารู้สึกถึงช่วงแรกที่เคยพบกัน ที่มีการพยายามย้ำประโยคว่า  Hands on wheel , eyes on road  หรือมือถือพวงมาลัย ตาจ้องถนน แต่ท่าขับใน Selected shift  กลับขัดแย้งจากที่มันเป็น นั่นอาจจะเพราะว่า Ford  ไม่ได้ต้องการให้เราใช้มันตลอดเวลา แต่สำหรับคอสปอร์ตมีหรือจะไม่ทำเช่นนั้น

เรื่องการเปลี่ยนเกียร์ อาจจะทำให้มันมีความแตกต่างไปบ้าง แต่ในเร่องการเข้าโค้งเอง  ford focus  2.0 ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ส่วนหนึ่ง Ford Focus มีผู้ช่วยในการขับขี่มากมาย ตั้งแต่ระบบควบคุมการทรงตัว ESP รวมถึงระบบป้องกันการลื่นไถล  Traction control   ให้ความมั่นใจมากขึ้น

หนึ่งในผู้ช่วยที่สำคัญคงไม่พ้นระบบ  torque Vectoring Control   ซึ่งถูกติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานในทุกรุ่น มองดูหลายคนอาจจะไม่เข้าใจในการทำงาน แต่ระบบนี้จะทำงานคล้ายกับระบบเฟืองท้าย  limited slip Differential  แบบ 1 way ซึ่งจะทำงานเมื่อมีการเดินคันเร่ง แค่ครั้งจะกระจายกำลังผ่านชุดเฟืองท้ายจากเพลา ระบบนี้ ใช้การจับเบรกที่ล้อ ซึ่งอยูนอกโค้ง ทำให้มีกำลังแรงบิดที่ใกล้เคียงกัน และสามารถเข้าโค้งได้ดีขึ้น แต่นั่นหมายถึง คุณต้องเดินคันเร่งเข้าโค้ง และมันช่วยได้มากพอสมควรเลยทีเดียว ยิ่งประกอบเข้ากับระบบช่วงล่างที่เซทมาดี อย่างที่เราได้พูดไป นี่คือรถที่ล้ำหน้าที่สุด และครบครันประดุจรถสปอร์ต จากการใช้ฟังชั่นธรรมดา ให้ตอบสนองได้มากขึ้น

เมื่อพูดถึงฟังชั้น ก็แน่นอนว่า หลายคนที่ชอบ  ford focus  คงจะอดถามเราไม่ได้ว่า แล้วพวกของเล่นไฮเทคเป็นอย่างไรบ้าง แน่นอนใครจะคิดว่าของเจ๋งๆ มีอยู่ในรถราคาระดับล้านต้นๆ แถมมันไม่มีในรถตัวหรูชั้นนำหลายรุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดด้วยซ้ำไป

Ford_Focus_201235

ระบบแรกเป็นตัวช่วยในการขับขี่และใช้ได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะใครที่อ่อนทักษะเรื่องการจอดรถเทียบข้าง ระบบ Active Park assisted  เป็นผู้ช่วยที่ดีในการช่วยคุณจอดรถ เพียงเปิดระบบจากนั้น วิ่งหาที่จอด ตามข้างทางซึ่ง ระบบจะทำการตอยสนองเมื่อพบที่จอดที่มีความยาวงมากกว่าตัวรถ 20%  (120% รวมตัวรถ) หรือ ถ้าคำนวณเป็นความความยาว ตลอดคันที่ 4358 ม.ม. การที่ระบบจะทำงานต้องทีพื้นที่กว่า  5029   ม.ม. หรือเทียบเท่ารถกระบะเก่าๆหนึ่งคันเลยทีเดียว

แม้จะมีข้อจำกัดบ้างในเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งนอกจาความยาวแล้ว ระว่างมที่ระบบทำงาน ยังต้องห้ามจับพวงมาลัยด้วย เนื่องจากหากคุณสัมผัสระบบจะทำการยกเลิกทันที แต่โดยรวมมันเป็นระบบที่ทำงานได้ดีจนเกินคาด โดยเฉพาะ ถ้าคุณจี้เกียจโยกพวงมาลัย

อีกระบบที่มีดีไม่แพ้กัน และเราขอยกให้เป็นพระเอกเรื่องความทันสมัย มันคือระบบ Active city Stop   ซึ่งได้ใช้บ่อยแน่ โดยเฉพาะคนชอบเล่นมือถือขณะขับรถ คุณจะพบว่ามันมีประโยชน์มาก เพราะเมื่อคุณเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป ระบบจะทำงานเองโดยอัตโนมัติ แต่ก็ต้องใกล้ชิดจริงๆ โดยดูเข้ากับความเร็วที่ขับขี่มาในการประมวลผลด้วย ซึ่งบางครั้งคุณขับช้ามากระบบจะทำงานเมื่อเกอบจะจวนตัวจริง แต่ในบางจังหวะที่มาเร็วมันเบรกมาตั้งแต่ไก่โก่ ก็มีหัวทิ่มกันบ้าง

            Ford Focus 2.0 Hatchback  ถือเป็นรถที่เปี่ยมไปด้วยความสปอร์ตที่มาพร้อมความทันสมัยที่ลง แม้บางอย่างอาจจะยังเป็นจุดบอดไปบ้าง ทั้งในเรื่องการขับขี่ หรือข้อจำกัดในเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ลองคิดง่ายๆว่า คุณมีรถคันละล้านเศษๆ ที่สามารถโชว์เก่าได้บนถนน และยังอวดสาวในเรื่องความเจ๋ง ...นี่สิคือรถที่เหมาะกับคนที่ชอบขับรถแต่ต้องการอะไรมากกว่าแค่สมรรถนะ

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ขอบคุณรถทอสอบ  Ford Focus 2.0 Hatchback จาก  ฟอร์ด ประเทศไทย

 

ผลการทดสอบ Ford Focus  2.0 Hatchback

Ford Focus  2.0 Hatchback

ราคาจำหน่าย  1,079,000 บาท

 

ตารางแสดงการทำงานเครื่องยนต์  2.0 GDI TI-VCT  ใน Ford Focus 2.0  ที่อัตราทดเกียร์สูงสุด

ความเร็ว (ก.ม./ช.ม.) รอบเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที)
90 1900
100 2200
110 2400
120 2600
200 5400

ความเร็วสูงสุด ขณะทดสอบ  205  ก.ม. /ช.ม.

อัตราประหยัด

ในเมือง  8.9  ลิตร /100 ก.ม. = 8.8  ก.ม./ลิตร

นอกเมือง  8.9 ลิตร /100 ก.ม. = 11.2  ก.ม./ลิตร

ตารางคะแนนจากการทดสอบ  Ford Focus 2.0 Hatchback คะแนน รวม  95 คะแนน

หัวข้อ คะแนน (หมวดละ 20คะแนน) ข้อเสนอแนะ –ติชม
การออกแบบภายนอก 19 ภายนอก Ford Focus  ออกแบบมาได้น่าสนใจมากที่จริงในรุ่นท๊อปๆ ของทั้งเครื่องยนต์ 1.6 และ  2.0 ลิตร  มาพร้อมไฟท้าย  LED แต่ที่เราอยากได้มากที่สุดคือ ความแตกต่างระหว่างรุ่นมากกว่านี้ ยังไงช่วยจัดให้หน่อยก็จะดีไม่น้อย
ภายในห้องโดยสาร 17 ห้องโดยสารที่ทันสมัย เป็นสไตล์ที่เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างจะขัดในตัวเองเล็กน้อย แต่นั่นพอมองข้างได้บ้านและต้องชมเชยเรื่องการจัดวางองค์ประกอบต่างๆในห้องโดยสาร เว้นเพียงปุ่มที่หัวเกียร์ที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย  นี่รวมถึงออพชั่นบางอย่างที่ตัดไปในรุ่น 5  ประตู ทั้งที่มีให้ในรุ่น  4 ประตู ดูเหมือนมันไม่แฟร์ไปหน่อยรึเปล่า ทั้งที่จ่ายมากกว่าอีก 10,000 บาท ด้วยซ้ำ
เครื่องยนต์ 20 เครื่องยนต์ 2.0 GDI TiVCT  คือสิ่งที่เรายากจะปฏิเสธว่ามันดีที่สุดในตอนนี้ เว้นเพียงการไม่รองรับพลังงานทาเลือก ยิ่งเรื่องอัตราเร่งที่เร้าใจก็โชว์ให้เห็นสมรรถนะที่โดเด่นอย่างมาก และเราหวังว่าจะเห็นพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้นจากตระกูล  Ecoboost
ระบบกันสะเทือนและสมรรถนะการขับขี่ 19 ช่วงล่างถือเป็นอีกเรื่องที่ Ford Focus  มีความโดดเด่น ในตัวเอง ช่วงล่างอิสระหลัง คอนโทรล เบลด มัลติลิงค์เป็นความโดดเด่นที่ให้ความแตกต่าง ช่วงล่างสไตล์ หนึบ แข็งแต่ไม่กระด้าง และเข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม จากพวงมาลัย เป็นอะไรที่ไม่ว่าใครก็คงชอบ จากรถคันนี้
เทคโนโลยี 20 ความล้ำหน้าใน Ford Focus  เป็นสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างเห็นๆ เราคงไม่ต้องอธิบาย ว่า มันเจ๋งอย่างไร และ นั่นยังไม่รวมหลากผู้ช่วยในการขับขี่ที่ดีที่สุดในเรื่องความปลอดภัย
สรุป 95  Ford Focus   ใหม่เป็นรถยนต์คอมแพ็คคาร์ที่มาพร้อมความคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งความล้ำหน้าและสมรรถนะแล้ว คงไม่ต้องกล่าวถึง แต่ความเจ๋งของมันอาจจะเป็นปัญหาบ้าง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องศูนย์บริการ ที่อาจจะปฏิเสธไม่ได้


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ