[ลองขับ] ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทั้งหล่อและสมรรถนะดีกับรถยนต์พีพีวี ที่มีดีกรีระดับเอสยูวีหรู

จากที่กล่าวมาข้างต้นเกี่ยวกับรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ว่าเป็นรถยนต์พีพีวี ที่มีดีกรีเกินตัวคงจะไม่เวอร์เกินไปถ้าคุณได้ลองสัมผัสการขับขี่ด้วยตัวของคุณเอง สำหรับการทดสอบแบบออฟโรดทางทีมงานได้เคยทดสอบไปแล้ว วันนี้เรามาทดสอบไฮไลท์เด่นๆ และการขับขี่แบบปรกติกัน

การกลับมาของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นใหม่ครั้งนี้ จะเรียกได้ว่ากลับมาอย่างยิ่งใหญ่ก็ไม่ผิดเพราะรุ่นนี้ได้มีการปรับปรุง และพัฒนาทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่ และด้านคุณภาพรถยนต์ จนเรียกได้ว่า เกินตัวพีพีวีอย่างมาก

ด้วยการปรับเปลี่ยนมาใช้พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า การใส่เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่มากมาย อีกทั้งยังมีการออกแบบภายในด้วยวัสดุคุณภาพดีและดูใส่ใจในทุกรายละเอียด จนในระหว่างขับผมยังคิดว่านี่กำลังขับรถยนต์เอสยูวีหรูราคาแพงอยู่รึเปล่า ?

การออกแบบภายนอกเรียบหรู บึกบึน ขับไปไหนมีแต่คนมอง

ภายนอกมีการออกแบบที่ดูเรียบหรู บึกบึนตามสไตล์รถอเมริกัน ถ้ามองโดยรวมแล้วจะรู้สึกว่าตัวรถยนต์มีขนาดใหญ่มาก เมื่อมองจากด้านหน้าจะพบกับแผงกระจังหน้าโครมเมี่ยมขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่ง บวกกับชุดโคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ที่ให้ความหรูหราสไตล์รถยนต์พรีเมี่ยม

ด้านท้ายรถยนต์มีแผงโครเมี่ยมพร้อมสลักชื่อรุ่นขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางรถยนต์ และมีชุดโคมไฟท้ายแบบแอลอีดีขนาบข้าง ให้ความรู้สึกถึงรถยนต์แบบพรีเมี่ยมหรูหราแถมยังบึกบึน

ในส่วนของล้อแม็กมาพร้อมแม็กขนาด 20 นิ้วพร้อมลายแม็กที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม บึกบึน สมกับรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่

ต้องยอมรับว่าการออกแบบภายนอกน่าจะโดนใจและเป็นจุดสนใจจากผู้พบเห็นอย่างมาก เพราะจากที่ผมได้ทดลองขับไปในที่ต่าง ๆ สามารถเรียกความสนใจต่อผู้พบเห็นชนิดที่ว่าสะกิดกันดูเลยทีเดียว อันนี้ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า หล่อ เท่ เตะตามาก

เครื่องยนต์มาพร้อมเรี่ยวแรงเหลือ ๆ จะขับในเมืองก็เนียน จะบุกป่าก็ไม่หวั่น

คันที่ผมได้นำมาทดลองขับเป็น รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ เทอร์โบ ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 200 แรงม้า พร้อมแรงบิดถึง 470 นิวตันเมตร

การตอบสนองของเครื่องยนต์ด้วยขนาดตัวถังรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่เป็นปัญหาเลยเรี่ยวแรงจากเครื่องยนต์เหลือๆ แม้การออกตัวอาจจะมีอาการหน่วงนิดหน่อย ย้ำว่านิดเดียวจริงๆ แต่เมื่อถึงรอบเครื่องยนต์สามารถทำความเร็วได้ดีมากเรียกได้ว่า ไหลแบบไม่รู้ตัว กดไม่ทันไรขึ้นเป็น 100 ซะแล้ว ทั้งที่ตัวรถยนต์ยังนิ่ง ๆ

แม้การทดลองขับขี่ในเมืองในสภาพถนนที่รถยนต์ค่อนข้างมากเกือบทุกเส้นทาง แต่เอเวอเรสต์ ก็สามารถขับผ่านไปได้อย่างสนุก เรียกได้ว่าพอจะเร่งแซงก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย การเปลี่ยนเลนในช่วงรถติดก็ทำได้ดีคล่องตัว อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้พวงมาลัยไฟฟ้าที่ใส่มาใหม่ ทำให้ตัวรถขับง่ายขึ้นเยอะ

โดยรวมไม่ต้องเป็นห่วงเลยกับเครื่องยนต์ 3.2 ตัวนี้เพราะอัตราการเร่งและเรี่ยวแรงที่มีมาให้แบบเหลือๆ ขับสนุกและสามารถไว้ใจได้ใน ทุกสภาพการขับขี่แม้ตัวรถยนต์จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ก็ตาม สิ่งที่น่าจะเป็นห่วงคืออย่าขับเพลินจนลืมความปลอดภัยเพราะอัตราเร่งจี๊ดจ๊าดจริงๆ โดยเฉพาะความเร็วในช่วงปลาย

ภายในหรูหรา กว้างขว้าง ทีเด็ดอยู่ที่เบาะนั่งตอน 3

แม้การออกแบบภายในจะมาจากพื้นฐานเดียวกันกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ซึ่งในตัวเรนเจอร์ก็มีความสวยงามอยู่แล้ว แต่เมื่อมาอยู่ใน เอเวอเรสต์ ที่มีการปรับแต่งให้แตกต่าง ทำให้ดูหรูขึ้นอย่างมาก

บริเวณด้านบนของชุดแผงคอนโซลมีการตกแต่งด้วยหนังแท้พร้อมเย็บตะเข็บคู่ การเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ดีมาก ถัดลงมาจะเจอหน้าจอแบบทัชสกีนขนาด 8 นิ้ว ซึ่งอันนี้ผมต้องบอกก่อนเลยว่าการกดทัชสกีนอาจจะยากไปหน่อย ไม่ค่อยตามมือเท่าไหร่นัก

แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเท่าไหร่นักเพราะถ้ารู้สึกว่าไม่ถนัดจริงๆ ก็ยังมีปุ่มกดแบบปรกติที่สามารถควบคุมทั้ง การเล่นเพลง ระบบปรับอากาศ และฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้อยู่ด้านล่างลงมา

บริเวณคอนโซลเบาะนั่งข้างคนขับมีการตกแต่งด้วยคำว่า เอเวอเรสต์ แสดงชื่อรุ่นอย่างสวยงาม แปะลงบนแผงคอนโซลพลาสติกสีเทาเงาคุณภาพดี ให้ความรู้สึกหรูหรา พร้อมช่องแอร์ที่มีการตกแต่งกรอบด้วยโครเมี่ยมทั้งคัน

เบานั่งคู่หน้ามาพร้อมระบบการปรับแบบไฟฟ้า ในรุ่นท๊อป เบาะนั่งออกแบบมาอย่างดีให้ความสบายตลอดทุกเส้นทาง ทั้งตอนหน้า และตอนหลัง ส่วนเบาะนั่งแถว 3 ต้องยอมรับว่านั่งค่อนข้างจะสบายกว่าเจ้าอื่นๆ

เพราะบริเวณพื้นได้มีส่วนเว้าลงทำให้การวางเท้าไม่ตั้งชันเกินไปเพื่อลดอาการปวดเมื่อยเมื่อนั่งนาน ๆ ถือว่าใส่ใจในทุกรายละเอียด พร้อมกับช่องแอร์และไฟส่องสว่างให้ความสบายทุกตำแหน่งเบาะนั่ง

ในรุ่นท๊อปจะมาพร้อมหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ประตูหลังเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า เบาะนั่งแถวสามพับด้วยระบบไฟฟ้าเพียงกดปุ่ม และระบบจอดรถยนต์อัตโนมัติที่เคยฮือฮากันมาแล้วใน ฟอร์ด โฟกัส

โดยรวมประทับใจทั้งสมรรถนะ ความอเนกประสงค์ ระบบช่วยเหลือต่างๆ ในการขับขี่ และความใส่ใจในการออกแบบ

การขับขี่แม้ในรุ่น ที่ผมได้ทดลองขับ(รุ่นท๊อป) จะมาพร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50 R20 แต่ช่วงล่างยังคงนุ่มนวล รับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้ค่อนข้างดี บวกกับความหนึบแน่นขับขี่แล้วมั่นใจ การเปลี่ยนเลนกระทันหันและการเข้าโค้งในช่วงความเร็วสูง ตัวรถยังนิ่งไม่มีอาการย้วยให้เห็น

เครื่องยนต์ 3.2 พร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เรี่ยวแรงเหลือๆ ขับขี่สนุกทุกอัตราการเร่งแม้ตัวรถจะมีขนาดใหญ่ก็ตาม บวกกับพวงมาลัยไฟฟ้าที่ช่วยให้ เอเวอเรสต์คันโตคันนี้ขับง่ายมากๆ พวงมาลัยเบาในช่วงความเร็วต่ำเพราะระบบช่วยผ่อนแรงเรียกได้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็ขับได้แบบสบายๆ แม้สภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองกรุง

ทีเด็ดอยู่ที่ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อย่าง เทอร์เรน แมนเนจเมนท์ ซิสเตมส์ ที่เรียกได้ว่าเป็นระบบเด็ดของ เอเวอเรสต์เลยทีเดียว ทีสามารถช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้ไปได้ทุกสภาพพื้นผิวแบบง่ายๆ แม้จากการทดสอบครั้งนี้อาจจะไม่ได้ใช้ทุกระบบ แต่การขับขี่แบบออฟโรดหรือการขับลุยป่าฝ่าดง ทางออโต้สปินน์ ได้เคยรีวิวไว้แล้ว สามารถกดอ่านได้จากทางนี้เลย

การออกแบบภายนอกและภายในโดยรวมค่อนข้างพอใจมากในช่วงระหว่างทดสอบขับไปที่ไหนมีแต่คนมอง ด้วยการออกแบบภายนอกแสดงถึงความบึกบึนเท่ตามสไตล์รถเอสยูวียุโรปเลยทีเดียว ภายในสำหรับรุ่นท๊อปจัดเต็มและหรูหรามาก แต่สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ก็ไม่ได้แย่เพียงแต่ในรุ่น 3.2 ฟอร์ดจัดเต็มทุกระเบียบนิ้วจริงๆ

ส่วนข้อติที่พบใน เอเวอเรสต์ คือ ระบบทัชสกีนบนหน้าจอขนาด 8 นิ้วยังใช้งานค่อนข้างยากซับซ้อนนิดหน่อย ระบบยังมีอาการหน่วง เช่นการกดเปลี่ยนเพลงบนหน้าจอทัชสกีนยังมีอาการหน่วงเกือบ วินาทีเหมือนกัน มาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบดิจิตอลมีขนาดเล็กมากแถมไปซ่อนอยู่บริเวณทางขวาสุดของชุดหน้าปัดรถยนต์ทำให้ดูค่อนข้างยาก

ด้านฟังก์ชั่นการใช้งานบนพวงมาลัยปุ่มค่อนข้างเยอะไปบวกกับฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ใช้งานบ่อยเช่นการควบคุมชุดเครื่องเสียง หรือครูซคอนโทรล บนพวงมาลัยกลับถูกย้ายมาไว้เป็นชุดปุ่มด้านล่าง แต่กลับนำชุดควบคุมและเปลี่ยนระบบบนหน้าจอเล็กในชุดแผงหน้าปัดที่ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่มาเป็นปุ่มใหญ่ด้านบน ถ้าสลับกันได้จะดีกว่านี้

สรุปแล้วประทับใจแทบจะทุกอย่างจาก ฟอร์ด เอเวอเรสต์ คันนี้มีเพียงนิดหน่อยที่ผมคิดว่าไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตอะไรเท่าไหร่นัก ด้วยการแลกที่ได้ขับรถยนต์ พีพีวี ที่มีสมรรถนะ และความหรูหราสวยงามเทียบชั้นกับ เอสยูวี หรูๆ ได้อย่างสบาย