[VDO] ขับทดสอบ Hyundai Veloster เส้นทางกรุงเทพฯ – เสียมเรียบ ราชอาณาจักรกัมพูชา Share this

[VDO] ขับทดสอบ Hyundai Veloster เส้นทางกรุงเทพฯ – เสียมเรียบ ราชอาณาจักรกัมพูชา

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 31 July 2556

มาแล้ว VDO การขับทดสอบสมรรถนะของเจ้ายานยนต์สปอร์ตคูเป้ 2+1 ที่เดิร์นสุดใน พ.ศ. นี้ อย่างเจ้า Hyundai Veloster บนเส้นทาง กรุงเทพฯ – เสียมเรียบ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อสัมผัสกับสิ่งกับดินแดนแห่งประวัติศาสตร์และมหัศจรรย์ของโลกไปพร้อมๆกับรถสปอร์ตดีไซน์น่าทึ่ง ภายใต้คอนเซ็ปการเดินทาง HYUNDAI Veloster WORLD WONDERS 2013 HISTORIC & UNIQUE PRESS CARAVAN TO ANGKOR WAT

งานนี้มีสื่อมวลชนสายยานยนต์ร่วมการเดินทางไปด้วยกันกว่า 100 ชีวิต โดยแบ่งเป็น 2 ทริ๊ป ซึ่งเราได้เดินทางไปในทริ๊ปแรก กับคาราวานใหญ่ของ Hyundai ที่มีเจ้า Veloster ทั้งรุ่น Standard กับ รุ่นเทอร์โบ ทั้งหมด 5 คัน พร้อมกับ Hyundai H-1, Elantra และ Tucson ที่ร่วมขบวนและใช้เป็นรถ Support สื่อมวลชนทั้งหมด ระหว่างทางก่อนจะได้สลับสับเปลี่ยนกันขับเจ้า Veloster กันคนละนิด..แบบพอได้ฟิวส์

Veloster-Group-Test-2

บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เปิดตัว “Hyundai Veloster” อย่างเป็นทางการ ที่เมืองไทยไปตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี 2556 บนภาพลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยการดีไซน์ตัวถังแบบ Hatchback Coupe สไตล์ 2+1 ประตู ภายใต้แนวคิด Fluidic Sculpture Design ที่ต้องการรวมความเป็นสปอร์ตเข้ากับความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น และเป็นที่มาของชื่อ Veloster ซึ่งมาจากคำว่า Velocity + Roadster ที่เน้นกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมที่ต้องการความแตกต่างอย่างชัดเจน ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน

Veloster-Group-Test-6

Veloster มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น คือตัวท๊อป Veloster Sport Turbo ราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,739,000 และ กับ รุ่นพื้นฐาน (ไม่มีเทอร์โบ) ราคา 1,299,000 บาท ซึ่งนอกจากความแรงที่แตกต่างแล้ว ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังมีออฟชั่นและดีไซน์การตกแต่งที่ต่างกันออกไปอยู่พอสมควร ตั้งแต่ภายนอก ซึ่งในรุ่น Turbo จะดูหล่อกว่าเล็กน้อยด้วย กันชนหน้าและข้างที่มีการเสริมชายร่างด้วยวัสดุเมทัลลิก และเพิ่มอารมณ์สปอร์ตมาให้ด้วยหลังคา Sunroof รวมถึงล้อแม็ก 18 นิ้วลาย 5 ก้าน โครเมี่ยม ส่วนรุ่น NA จะเป็นขนาด 17 นิ้ว เช่นเดียวกับไฟหน้า รุ่น Turbo จะเป็นโคม Projector พร้อมไฟวงแหวนที่ตกแต่งด้วยไฟ LED แต่ รุ่น NA จะเป็นหลอดแบบธรรมดาซึ่ง ก่อนจะปิดท้ายความดุดันในรุ่น Turbo ชุด Diffuser และปลายท่อคู่ออกตรงกลางกันชนหลังทรงกลม ส่วนตัว NA นั้นปลายท่อจะเป็นทรงเหลี่ยม

Veloster-Group-Test-9

ส่วนภายในที่เห็นเด่นชัดเจน คือ วัสดุเบาะแบบผ้าในตัว NA แบบปรับมือกับเบาะหนังสีดำแบบปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางในตัว Turbo และในตัว Turbo จะมีพวงมาลัย Multi-Fuction ที่ใช้ควบคุมได้แบบครบ ซึ่ง รุ่น NA จะตัด Cruise Control, Paddle Shift และ Bluetooth ออกไป ส่วนในเรื่องสมรถนะจะเป็นอย่างไรนั้นเดี๋ยวคิวขับก่อน..ได้รู้กัน

Veloster-Group-Test-4

โดยการเดินในครั้งนี้ได้เริ่มต้นออกสตาร์ทกันตั้งแต่เช้าราว 8:00 น. จากศูนย์บัญชาการใหญ่แห่งใหม่ ของ ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ บนถนนวิภาวดีขาเข้าย่านหลักสี่ โดยก่อนจะออกเดินทางได้มีการบรี๊ฟเส้นทางการเล็กน้อย ก่อนออกเดินทาง ซึ่งในช่วงแรกเราได้รับเกีรยติให้เป็นแขก VIP ที่เดินทางโดย H-1 ที่นั่งสบายจนหลับตลอดเส้นทางตั้งแต่ล้อหมุนผ่านเส้นฉะเชิงเทรา ก่อนมุ่งหน้าสู่อรัญประเทศ ตื่นมาอีกทีก็ตอนข้ามด่านที่ปอยเปต ซึ่งเป็นเวลาที่เราจะต้องพักทานอาหารกลางวันกัน ก่อนออกเดินทางในช่วงบ่ายสู่เมืองเสียมราฐเพื่อไปล่องเรือชม โตนเลสาบ แหล่งน้ำจืดสำคัญของกัมพูชา กันแบบ ชิล ชิล และจบการเดินทางในวันแรกบนเส้นทางกว่า 410 กม. ด้วยการพักผ่อนที่โรงแรม Somadevi Angkor Hotel&Spa โรงแรมหรูใจกลางเมืองเสียมเรียบ

Veloster-Group-Test-8

วันที่ 2 เริ่มต้นกันตั้งแต่เช้าตรู่กับมื้อเช้าตั้งแต่ 7 โมง เพื่อเริ่มต้นเส้นทางแห่งตำนาน กับการย้อนรอยเพื่อชมโบราณสถานที่สำคัญๆ ไปพร้อมกับ Hyundai Veloster และคารวานสื่อมวลชน โดยเริ่มต้นจุดแรกที่ปราสาทบายน และปราสาทบันทายศรี หรือปราสาทหินสีชทพู ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ก่อนจะต่อด้วย 2 ปราสาทที่เก่าแก่ไม่แพ้กันคือ ปราสาทนครธม และปราสาทตาพรมที่เราคุ้นตาจากภาพยนต์เรื่อง “ทูมไรเดอร์” นั่นเอง จากนั้นเมื่อทานมื้เที่ยงกันเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางของทริ๊ปนี้ เพื่อสัมผัสกับมหาปิรามิดแห่งเอเชีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือ อังกอร์วัด หรือ นครวัด – นครธม ซึ่งอดีตเคยเป็นราชธานีสุดท้ายของอาณาจักรเขมร ซึ่งเมื่อกว่า 1,000 ปี เคยรุ่งเรืองมากครอบคลุมพื้นที่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนปัจจุบันเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นกัมพูชา และเป็นสิ่งปลูกสร้างในอดีตที่สวยงามมากๆ ถึงแม้ว่าช่วงที่ไปจะมาการบูรณะซ่อมแซมบางจุดซึ่งอาจบดบังทัศนีภาพไปบ้างก็ตาม

Veloster-Group-Test-18

วันสุดท้ายกับการเดินทางกลับสูมาตุภูมิ และเป็นวันแรกที่ได้สัมผัสสมรรถนะของเจ้า Veloster ซึ่งเรามีโอกาสได้ขับใน รุ่น Turbo บนระยะทางกว่า 100 กม. จากโรงแรงที่พักถึงตลาดซาแจ๊ะเพื่อแวะช็อปกันก่อนจะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยที่ด่านปอยเปตเหมือนเดิม

Veloster-Group-Test-13

ซึ่งจากที่ได้ทดลองขับในช่วงสั้นๆ ขุมพลังรหัส G4FC 1.6 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมวาล์วแปรผัน D-CVVT พร้อมหัวฉีดแบบ GDI ที่ฉีดตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ และพ่วงเทอร์โบแบบ Twin Scroll ที่ช่วยปั่นแรงม้าได้ 186 ตัวที่ 5,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,500 รอบ/นาที ซึ่งให้อัดตราเร่งที่จัดจ้าน เหยียบติดเท้า เรียกว่ามันสุดๆ กระแทกคันเร่งเต็มๆเข็มวัดรอบตวัดขึ้นเร็วและลากสุดเกือบๆ Red-Line ที่ 6,500 รอบ/นาที ที่ถ่ายทอดพละกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Torque Convertor พร้อมระบบ Sequential Shift ที่ให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ขับสบายแบบไม่จำเป็นต้องดุดันตลอดเวลาเหมือนสปอร์ตพันธุ์ดุทั่วๆไป

Veloster-Group-Test-5

ส่วนในด้านของ Handling นั้น Veloster ในการบังคับควบคุมทิศทางที่ค่อนข้างแม่นยำประกอบกับระบบกันสะเทือนที่เซ็ทมาให้แบบหนึบพอตัวและแฝงด้วยความนุ่มนวลนั่งสบายไปพร้อมๆกัน เรียกว่าขับแล้วไม่เหนื่อยและสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว สำหรับ Hyundai Veloster

Veloster-Group-Test-3

สรุปแล้ว Hyundai Veloster นอกจากจะเป็นรถสปอร์ตที่แผงไปด้วยความสะดวกสบายจนตอบโจทย์ได้ตาม Concept ที่วางไว้แล้ว Veloster ยังเป็นหนึ่งในยานสปอร์ตเพียงไม่กี่คัน ที่ถ้าขับผ่านฝูงชนเมื่อไหร่รับรองว่าต้องมองกันเหลียวหลัง ยิ่งถ้าได้จอดรับรองว่าต้องมีคนเดินมาดูพร้อมเครื่องหมายคำถามว่า “ประตูหลังหายไปหนาย” พร้อมกับเสียงชมตามมาว่า “หล่อมว๊ากๆ” เท่านั้นไม่พอนอกจากจะหน้าตาดีแล้ว Veloster ยังมีสมรรถนะที่จัดจ้านและแฮนลิ่งเจ๋งๆแบบครบเครื่อง เรียกว่าถ้าใครมาแหยมอาจโดนสวนเอาง่ายๆ เลยทีเดียว

Veloster-Group-Test-16

เรื่อง : อาณัติ สุทธิบุตร


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ