รัฐอัพสเปกอีโคคาร์ โครงการ 2 Share this

รัฐอัพสเปกอีโคคาร์ โครงการ 2

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 30 August 2556

เปิดโปรเจกต์อีโคคาร์ 2 ของรัฐบาล อัพสเปกทั้งมาตรฐานเครื่องยนต์-ไอเสีย-ประหยัดพลังงาน ลงทุนไม่ต่ำกว่า 6,500 ล้านแลกสิทธิประโยชน์ด้านภาษี 6 ปี

รัฐบาลเอาจริง ประกาศเดินหน้าโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโคคาร์ โครงการ 2 เพื่อหวังดูดเงินลงทุน ทั้งจากผู้ประกอบการหน้าใหม่ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ลงทุนโครงการแรกสามารถลงทุนเพิ่มเพื่อยืดเวลารับสิทธิประโยชน์ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ โครงการอีโคคาร์ 2 จะมีข้อแตกต่างจากโครงการแรกเล็กน้อยในส่วนของคุณสมบัติของรถที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งในภาพรวมคือการยกระดับคุณภาพของสินค้าที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะในเรื่องของสเปกเครื่องยนต์ มาตรฐานด้านไอเสียและการประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นการเปิดโครงการเพื่อรองรับการผลิตในอนาคต

สำหรับรถยนต์ที่จะเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ 2 นั้น จะต้องใช้เครื่องยนต์เบนซินไม่เกิน 1.3 ลิตรหรือดีเซลไม่เกิน 1.5 ลิตร โดยจะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 5 หรือปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 100 กรัมต่อการวิ่ง 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ จะต้องบริโภคน้ำมันในอัตราต่ำกว่า 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร โดยกำหนดเม็ดเงินลงทุนเบื้องต้น 6,500 ล้านบาท และต้องเป็นการลงทุนผลิตแบบครบวงจร ทั้งการประกอบรถยนต์และการผลิตชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ โดยจะต้องมีกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 1 แสนคันต่อปีตั้งแต่ปีที่ 4 ของการผลิตเป็นต้นไป

เปรียบเทียบกับโครงการอีโคคาร์ครั้งแรกแล้ว จะพบว่าแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย โดยรายละเอียดของโครงการครั้งแรกที่มีผู้ร่วมลงทุน 5 รายนั้น จะต้องใช้เครื่องยนต์เบนซินไม่เกิน 1.3 ลิตรหรือดีเซลไม่เกิน 1.4 ลิตร โดยจะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 4 หรือปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 120 กรัมต่อการวิ่ง 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ จะต้องบริโภคน้ำมันในอัตราต่ำกว่า 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร โดยกำหนดเม็ดเงินลงทุนเบื้องต้น 5,000 ล้านบาท และต้องเป็นการลงทุนผลิตแบบครบวงจร ทั้งการประกอบรถยนต์และการผลิตชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ โดยจะต้องมีกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 1 แสนคันต่อปีตั้งแต่ปีที่ 3 ของการผลิตเป็นต้นไป

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า การส่งเสริมกิจการผลิตอีโคคาร์ รุ่นที่ 2 จะเป็นการสร้างโอกาสและขยายฐานการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล โดยผู้ผลิตที่ได้รับส่งเสริม จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 6 ปี และจะมีการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ผลิตอีโคคาร์สนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนรถยนต์จากผู้ผลิตของไทย ด้วยการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีให้ตามการลงทุนเพื่อพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วน

"หากผู้ผลิตรายใดมีการลงทุนหรือใช้จ่ายเพื่อพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ภายใน 5 ปี จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม 1 ปี รวมเป็น 7 ปี และหากมีการลงทุนหรือใช้จ่ายเพื่อพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาทภายใน 5 ปี จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคลเพิ่มเติม 2 ปี รวมเป็น 8 ปี ขณะที่การนำเข้าเครื่องจักรในการผลิตก็จะได้รับการยกเว้นอากรขาเข้า เช่นเดียวกับอีโคคาร์ รุ่นที่ 1"

จากข้อกำหนดดังกล่าวและมาตรการช่วยเหลือที่ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมประเมินว่าราคาจำหน่ายของรถยนต์ในโครงการที่ 2 จะไม่ถูกกว่าหรืออาจจะสูงกว่ารถนต์ในโครงงการแรก โดยกระทรวงอุตสาหกรรมประเมินว่าผู้ประกอบการรายใหม่น่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ปีในการลงทุน และทำให้น่าจะเห็นโครงการดังกล่าวเริ่มผลิตได้ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป แต่ก็ยังเร็วกว่าที่กำหนดไว้ว่าจะต้องเริ่มก่อนปี 2562

ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ ได้พิจารณาเห็นชอบให้การส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 หรือ อีโคคาร์ 2 กำหนดระยะเวลาในการยื่นขอรับส่งเสริมภายในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557 โดยผู้ได้รับการส่งเสริมต้องเริ่มดำเนินการผลิตภายในปี 2562 รวมทั้งเปิดให้ผู้ผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 ทั้ง 5 ราย ยื่นขอขยายกำลังการผลิตได้ด้วย หรือหากต้องการลงทุนใหม่เพื่อผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 จะต้องมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)

สำหรับเสียงตออบรับจากผู้ประกอบการในด้านบวกหรือลบยังคงไม่ชัดเจน แต่ที่แน่ ๆ ผู้ประกอบการที่ลงทุนโครงการอีโคคาร์ 1 ทั้ง 5 รายไม่น่าจะปลาบปลื้มกับโครงการอีโคคาร์ 2 มากนัก โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เปิดตัวรถในโครงการอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากมองในแง่ของการแข่งขัน ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ประกอบที่ตัดสินใจลงทุนเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จะออกอาการหงุดหงิด แม้รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ลงทุนเพิ่มในโครงการ 2 ได้ด้วยเม็ดเงินที่น้อยกว่าผู้ลงทุนรายใหม่ก็ตาม

คำถามสุดท้ายก็คือ จะเหลือผู้ประกอบการรายใดที่มีความพร้อมและสนใจในการลงทุนโครงการใหม่ เพราะการขยายข้อจำกัดบางประการของรัฐบาล น่าจะเป็นกุญแจที่เปิดเผยได้เป็นนัย ว่าเล็งไปที่ผู้ประกอบการรายใดเป็นพิเศษ...


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ