1st Ride ขำๆ ขี่รีวิว Kawasaki Z800 วันแรก (เตรียมพบรีวิว เดือนหน้า) Share this
รีวิวมอเตอร์ไซค์
โหมดการอ่าน

1st Ride ขำๆ ขี่รีวิว Kawasaki Z800 วันแรก (เตรียมพบรีวิว เดือนหน้า)

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 11 September 2556

Kawasaki Z800 ได้สร้างกระแส ให้กับวงการ 4 สูบบ้านเราเป็นอย่างมาก เพราะเราได้นำเสนอ เกาะติดข่าวกันไป ตั้งนานนม เริ่มตั้งแต่วัน โชว์ตัวครั้งแรก ที่งานเปิดตัวหนัง Pacific Rim จนมาถึง ภาพหลุด แล้ว มายังวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการจากดีลเลอร์ ซึ่งทางผมได้ลองไปนั่งคร่อม ดูไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ลองขี่ ซึ่งน่าเสียดายที่ เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ผ่านมา ทาง Kawasaki ได้เชิญทางเราเข้าไปร่วม ทดสอบ แบบขี่เป็นคาราวาน ไปยังสนามโบนันซ่า แต่ผมไม่สะดวก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเป็นที่น่าเสียดายยิ่ง ในวันนี้ 10 กย. 2556 ทาง Kawasaki Motors ได้ปล่อยรถ Test Drive ให้แก่ลูกค้าที่สนใจ มาลองขี่กันได้ที่โชว์รูม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และทันทีที่ผมรู้ข่าว ก็ไม่รอช้า รีบบึ่งรถ มา เพื่อทดลองขี่เจ้า Z800 ในทันที

เมื่อมาถึง เราก็พบเจ้า Z800 สีดำด้าน จอดอยู่ ซึ่งคาดว่าคงโดนขี่มาทั้งวัน แทบจะไม่ได้หยุดพัก หายใจกันเลย

ก็มาโดนผมขอลองขี่เล่น สักหน่อย วนภายใน ศูนย์ นั่นแหละ หลังจากได้เสียบกุญแจ พร้อมกดปุ่ม สตาร์ท เครื่องยนต์ติดขึ้น ลองเปิดคันเร่งเล็กน้อย เสียงอันแสนนุ่มหู น่าชวนฟัง แต่เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง คำรามแบบนิ่มๆ ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยออกจาก ปลายท่อไอเสียแบบท่อสูตร มองที่หน้าจอ เราจะพบ ตัววัดรอบแบบดิจิตัล ซึ่งได้แสดงผลในแนวตั้ง คือจะมีแถบวิ่ง ขึ้นลง ตามสเกลของรอบเครื่องยนต์ ดูจะงง แปลกตาไปสักนิด กับ Model 250 และ 650 และลูกเล่นเพิ่มเติมของเจ้าหน้าจอนี้ คือ สามารถกดปุ่มค้างไว้ เพื่อ เปลี่ยนสีได้ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่ลูกเล่นอะไรที่ดูน่าจะตื่นเต้นสักเท่าใด

ลองวนๆ ขี่ดู สัก 3 รอบ พบว่า กำลังเครื่องยนต์ มีพละกำลังพอตัว ในการออกตัวเกียร์ 1 เราพบว่า เครื่องยนต์ของข้างเดินนิ่งเรียบไม่สั่น เหมือน 650 มันดูเชื่อง มือเป็นอย่างมาก คุมคันเร่งได้ไม่ยากเย็น ออกตัวเกียร์ 1 ยังพอกระแทก เปิดคันเร่งออกไปได้ ซึ่งต่างกับตัว 650 ที่เป็น 2 สูบเป็นอย่างมาก เสียงเริ่มหวานหู ช่วงรอบ 4,000rpm ขึ้นไป และจะเริ่มพบกับแรงดึงแบบให้ความสนุกสนาน แบบ ฟิน สุดๆ ทั้งเสียงสุดหวาน จากเครื่องยนต์ 4 สูบ ที่มีพละกำลัง 113 แรงม้า อยู่ในคอก ความจุ 806cc คันนี้ การเข้าเกียร์ ทำได้ Smooth นุ่มนวล ต่อเนื่อง ลื่นไหล ไม่สูญเสียเวลาในการเปลี่ยนเกียร์มากนัก แถมการใช้ E-Brake ก็ทำได้ดี ไม่มีการะสะบัดกระชาก เช่นเดียวกับตัว Ninja300 ทำให้รถไม่ส่ายคุมรถได้ง่าย บิดเปิดคันเร่งนิดเดียวเพลินๆ ความเร็วขึ้น ถึง 80 กม./ชม. เบรกเผื่อไว้ก่อนดีกว่า ลองกำเบรกแบบไม่มี ABS ซึ่งค่อนข้างให้ความหนึบแน่น ไว้ใจได้กับจาน Twin Disc ขนาด 310 มม. คู่หน้า และการที่ไม่มี ABS ยิ่งทำให้การทำงานของเบรกมีประสิทธิภาพเต็มที่ แต่ถ้าหากกำเต็มมือ แบบกระทันหัน ไม่อยากคิดน่ากลัวเป็นอย่างมาก หากรถ น้ำหนักตัว 230 กก. เกิดล้อล็อค และส่าย นั่นพับล้มลงเอาง่ายๆ ผมจึงเลือกยกคันเร่ง แต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะ หักเลี้ยว ซึ่งคิดถูกเป็นอย่างมาก เพราะ การหักเลี้ยวเข้าโค้งที่แคบๆ แบบเทเปิดโค้งไม่ได้ มันค่อนข้างยาก พอสมควรเนื่องจาก รถที่ท้ายโด่ง แต่แฮนด์บาร์ดูกว้าง และอยุ่ตำแหน่งต่ำ จึงดูจะไม่ค่อย Balance ในการกระจายน้ำหนัก หน้า-หลัง มันดูจะหักวงเลี้ยวยากกว่า แฮนด์ตำแหน่งสูง แต่มันจะช่วยให้ท่าทางการขี่เป็นไปได้อย่างสบายๆ ไม่เมื่อยปวดไหล่ กับการเดินทางไกล และด้วยน้ำหนักตัวที่หนักมาก ร่วมกับ ตัวถังน้ำมัน ที่อ้วนอวบ เอาเรื่อง จังหวะกลับรถ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย กับผมที่สูง 174 ซม. และมีน้ำหนักตัว 58 กก. ทั้งต้องเขย่ง และ คอยประคองตัวรถ ในการกลับหรือ เลี้ยวซอกแซกในวงแคบ เมื่อจะถอยรถเก็บเข้าจอด ด้วยคันให้ Test นี้ เปลี่ยนเป็นตูดมดแต่ง ใส่ชิลหน้า และกันแคร้ง เรียบร้อย การที่ผมจะลงมาเข็นรถ ถอยเข้าซอง โดยไม่มีที่จับด้านท้าย จึงเป็นเรื่องยาก จึงต้องคร่อม และค่อยถอยเข้าซองอีกครั้ง

เอาเป็นว่า หมดจบการลองขี่ในวันนี้ เสียงเครื่องยนต์ 4 สูบ ยังคงเร้าใจขายได้แน่นอน พละกำลัง เครื่องยนต์เหลือเฟือ แม้จะไม่ดิบโหด ต้นไม่ต้องจัดมาก ถึงขั้นคุมยาก แต่รอบกลาง- ปลาย มีฟิน แน่นอน เครื่องยนต์กับเกียร์ทำงานผสานกัน อย่างลงตัว ขึ้นต่อเนื่องนุ่มนวล สรุป เหมาะมาก ถ้าเอาไปขี่เที่ยวเล่น เดินทางไกล ออก ตจว. ทางโล่งๆ ยาวๆ หวดเล่น ได้สนุกๆ แต่อย่าซื้อมาเพื่อขี่ลุย รถติด ใน กทม. เลยยยยยย เราหวังว่าเดือนหน้าน่าจะได้รถ มาทำรีวิวอีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อย่าลืมติดตามกันนะ

เชิญพูดคุยสอบถามรายละเอียดรถได้กับ Admin ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ