หลังจากที่เราได้ทดสอบรถตรวจการณ์ไซด์คอมแพ็ค สุด Hot จากค่าย Subaru ในรุ่น XV ไปเมื่อ 2 เดือนก่อน วันนี้ทางบริษัท Motor Image Subaru ประเทศไทย ได้ส่งเจ้าป่าตัวพี่ Forester โมเดลใหม่ล่าสุดปี 2013 มาให้เราได้ลองสมรรถนะกันอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า SUV ที่โดดเด่นทั้งขุมพลัง Boxer และระบบขับเคลื่อน อย่าง Forester 2.0i Premium คันนี้ "จะเจ๋งสักแค่ไหน"
Forester History
สำหรับ Forester ยานยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งจากค่าย Subaru นั้น ได้เริ่มต้นในเจนเนอเรชั่นแรก ตั้งแต่ปี 1997 บนรหัสตัวถัง SF ก่อนจะ Model Change ในปี 2003 ในรหัส SG ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกที่ทำให้คนไทยรู้จัก Forester มากขึ้น ส่วนโมเดลที่ 3 รหัส SH นั้นเผยโฉมครั้งแรกเมื่อ ปี 2008 ซึ่งมาพร้อมกับเส้นสายที่โค้งมนและดูทันสมัยมากขึ้น
จนมาถึงโมเดลล่าสุด รหัสตัวถัง SJ ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกไปเมื่อช่วงปลายปี 2012 ในงาน Guangzhou Motor Show ตามด้วยการเปิดตัวสู่ตลาดอเมริกาในช่วงต้นปี 2013 ก่อนจะถึงคิวเปิดตัวที่ประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในงาน Fast Car Auto Show โดยมีให้เลือกอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น สำหรับบ้านเรา คือรุ่นท็อปตัว 2.0XT ราคา 2.42 ล้านบาท และรุ่น 2.0i-L Premium ค่าตัว 1.89 ล้าน รุ่นที่เราได้นำมาทดสอบในวันนี้..ซึ่งต้องขอขอบคุณทาง Motorimage มา ณ ที่นี้ด้วย
Design&Interior
สำหรับรูปร่างหน้าตาของเจ้า Forester ใหม่ ถ้าเทียบกับโมเดลก่อนแล้ว ถือว่ามันใหญ่โตขึ้นในทุกๆมิติ ซึ่งยาวขึ้นจากเดิม 36 มม. เป็น 4,595 มม. และกว้างขึ้น 14 มม. ที่พิกัด 1,795 มม. รวมถึงระยะฐานล้อที่ยืดออกอีก 24 มม. กับตัวเลข 2,640 มม. ซึ่งส่งผลให้ภายในกว้างขึ้นตามไปด้วย และทำให้ Forester ใหม่ ดูโตเต็มวัย พร้อมหน้าตาที่เฉียบคมขึ้น บนผลงานการออกแบบที่ถ่ายทอด DNA มาจาก รุ่น XV ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้านัยตาเหยี่ยวที่ส่องสว่างด้วยไฟแบบ HID พร้อมระบบเปิด/ปิดอัตโนมัติ ซึ่งเพิ่มความโดดเด่นด้วยไฮไลท์ที่ดูแปลกตา ด้วยไฟ LED Daytime Running แบบลายเส้นส่องสว่างเป็นไฟสีขาวล้อมกรอบเป็นทรงเหลียมอยู่ในโคมเดียวกัน
รับกับกระจังหน้าทรงเหลี่ยมที่ดูเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดตัวและมัดกล้ามที่ Fit&Firm ขึ้น ตั้งแต่กันชนหน้าอวบๆ พร้อมการ์ดกันกระแทกสีดำด้าน และไฟตัดหมอก ตามด้วยโป่งล้อขนาดใหญ่ ที่ทำให้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลาย 5 ก้านดูเล็กและจีดไปถนัดตา ถ้าเปลี่ยนเป็นแม็กปัดเงาไซด์ 18 แบบรุ่น XT คงดูหล่อดุขึ้นเยอะ ส่วนบั้นท้ายนั้นดีไซน์มาแบบเรียบๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้น พร้อมไฟเบรคขนาดใหญ่และสปอยเลอร์ทรงสปอร์ตบนขอบประตูบานหลังซึงมีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ก่อนจะจบด้วยไฮไลท์คือหลังคาแบบ Power Glass Sunroof ขนาดใหญ่ที่ทำให้มันดูเท่กว่าคู่แข่ง ซึ่งมีให้เฉพาะ รุ่น 2.5XT กับ 2.0i Premium เท่านั้น
สรุปแล้วในส่วนของดีไซน์ภายนอกนั้น Subaru Forester ใหม่ ดูเหมือนจะยังหล่อใกล้เสร็จ ซึ่งถ้าลองเติมปากนิดจมูกหน่อยรับรองว่าหล่อขึ้นอีกเป็นกอง ไม่เชื่อลองดูตัวอย่างในรุ่น XT ที่ผ่านการ Make Over ออกมาได้ค่อนข้างลงตัว ตามค่าตัวที่สูงกว่าราว 5 แสนกว่าบาท ส่วนในเรื่องของฟังชั่นต่างๆ ภายนอกถือว่ามาตรฐานใกล้เคียงรุ่นท็อป ไม่ว่าจะเป็นประตูแบบ Smart Entry กุญแจ Keyless ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ รวมถึงกล้องส่องหลังที่มีในคันนี้ด้วย
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นช่องวางขาหรือ Head-Room ที่สูงโปร่งนั่งสบายไม่อึดอัด ทั้งด้านหน้าบนเบาะนั่งปรับไฟฟ้าและด้านหลังแบบพับได้ พร้อมออฟชั่นต่างๆ ที่มีมาให้ครบ บนดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูดุดันในสไตล์สปอร์ต ด้วยโทนสีดำสลับกับสีเงินเมทัลลิก และแสงไฟสีแดงจากมาตรวัดและเครื่องเล่น CD พร้อมพอร์ต AUX และ USB ที่คอนโซลกลาง แอร์ออโต้แบบแยกซ้าย/ขวา พร้อมหน้าจอแสดงผลการขับขี่ High-grade Muti-function Display ที่ขนาดค่อยข้างเล็ก แต่แสดงค่าต่างๆได้มากเกินตัว ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ตอนที่มันโชว์ภาพการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ X-Mode รวมกับผลอัตราสิ้นเปลือง อุณหภูมิของระบบปรับอากาศ และแสดงผลระบบเครื่องเสียงอยูุ่ในจอเดียวกัน ที่สั่งการผ่านพวงมาลัยมัลติฟังชั่นดีไซน์เท่ๆได้ถนัดมือ พร้อม Cruise Cobtrol และ Paddle Shift มาให้ครบเซ็ท
Engine&Performance
ขุมพลังใต้ฝากระโปรง Forester ใหม่นั้น ในตลาดโลกจะมีอยู่ 4 รุ่น คือเครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร ตามด้วยเครื่องเบนซินพิกัด 2.5 และ 2.0 ลิตร รวมถึงบล็อกแรง 2.0 Turbo FA20 ซึ่งประการอยู่ในตัวท็อป 2.0XT ที่พกพาความแรงสูงสุดกว่า 240 แรงม้า ส่วนในคันที่ทดสอบนี้เป็นเครื่องบล็อกเล็กแบบสูบนอน Boxer เจนฯ3 รหัส FB20 พื้นฐานเดียวกับเครื่องของ XV ที่ใช้ร่วมกับ Forester รุ่นมาตรฐาน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบเบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุ 1,995 ซีซี พร้อมวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย AVCS ที่ให้กำลังสูงสุดเท่ากับ XV คือ 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 198 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที
และส่งถ่ายกำลังผ่านเกียร์ CVT แบบ Lineartronic หรือแบบอัตราทดแปรผันแบบตามยาว ซึ่ง Subaru เป็นผู้คิดค้นและนำมาใช้กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นเจ้าแรก พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift นอกจากนี้ Forester ใหม่ ยังมีฟังชั่นปรับโหมดการขับขี่ได้อีก 3 โหมด เพื่อให้เหมาะกับสภาพที่แตกต่าง ซึ่งในการขับใช้งานทั่วๆไปจะเป็น Inteligent Mode แต่ถ้าอยากซิ่งบนทางเรียบ Sport Mode ช่วยคุณได้ด้วยการเรียกแรงบิดพร้อมจัดการรอบเครื่องยนต์ให้ตอบสนองได้เร็วและไวขึ้น ก่อนจะปิดท้ายด้วยโหมดลุยๆอย่าง X-Mode ซึ่งเราจะไปลองกันในช่วงท้าย
จากการทดสอบอัตราเร่งบนทางเรียบ Forester ใหม่ มีอาการออกตัวค่อนข้างช้าจากน้ำหนักตัวที่มาก และจะกระชับกระเฉงขึ้นตั้งแต่ช่วง 3,000 รอบและไหลยาวต่อเนื่องจนถึงความเร็วปลายสูงสุดแตะ 190 กม./ชม.ได้เลยทีเดียว ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ซึ่งทำได้ดีที่สุดใน Sport Mode ด้วยเวลา 11.7 วินาที ซึ่งถือเป็นเวลาที่ไม่ขี้เหร่เลยทีเดียวสำหรับรถตรวจการณ์ไซท์ L
ส่วนผลการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองนั้น โดยการขับในโหมด Intelligent จะช่วยปรับรอบให้ต่ำและทำให้ประหยัดได้ 9.7 กม./ลิตร ช่วงการจราจรคับคั่งและยิ่งเซฟมากขึ้นตอนขับทางไกลที่ความเร็วเฉลี่ย 100 กม./ชม. บนระยะทางกว่า 120 กม. ผลคือประหยัดได้ 11.4 กม./ลิตร ด้วยรอบเครื่องยนต์ ที่ 1,850 รอบ/นาที ช่วงความเร็ว 80 กม./ชม. 2,050 รอบ/นาที ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำกว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All Wheel Drive ทั่วๆไป
Handling&Ride&Brake
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือการขับมันเข้าป่าให้สมกับชื่อ Forester หลังจากที่ได้ลองขับบนถนนปกติ ซึ่งให้ความนุ่มนวลในระดับกลางๆ ไม่กระด้างจนเกินไป แต่จะเด่นด้วยแฮนลิ่งที่เหนียวหนึบไว้ใจได้ ตอนสาดโค้งซึ่งลองมาแล้วในช่วงลงสะพานที่ผิวถนนเป็นลอนคลื่นแบบไม่แสดงอาการใดๆ พร้อมพวงมาลัยที่ให้น้ำหนักหน่วงกำลังดี แต่จะหนักนิดตอนจอดเท่านั้น ด้วยพื้นฐานระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ และด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ Double Wishbone ซึ่งถูกเซ็ทมาให้ดูดซับแรงสะเทือนได้ค่อนข้างดีและให้การทรงตัวที่นิ่งสนิทกว่า SUV ทั่วไปชัดเจน
จากนั้นมาต่อกันที่กับด่านลุยๆ บนสภาพถนนหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบ Croos Country และ Off-Road ช่วงหน้าฝนที่ทำให้มีด่านน้ำท่วมเพิ่มเข้ามา โดยเราเริ่มขับบนพื้นดินและกรวดหยาบสีส้ม พร้อมหลุมขนาดย่อมตลอดทาง ซึ่ง Forester ผ่านไปแบบ ชิล ชิล และรู้สึกได้ถึงความ Smooth ของล้อทั้ง 4 ล้อที่กระจายกำลังได้ดี โดยเฉพาะช่วงโค้งที่มีหินลอยแบบไม่มีอาการแฉลบลื่น จนต้องดึงพวงมาลัยแก้ทางเหมือน SUV ทั่วๆไปที่เคยนำมาทดสอบที่นี่
ก่อนจะขับไปเลื่อยๆจนพบกับถนนที่มีน้ำท่วมขังจนเป็นผืนเดียวกับบึงด้านข้าง และดูเหมือนจะไปต่อไม่ได้ เพราะนอกจากน้ำที่ท่วมสูงกว่าครึ่งล้อแล้ว พื้นดินด้านล่างยังนิ่มและเหลว แน่นอนว่าถ้าไม่มีแรงตะกุยอย่างต่อเนื่องจากล้อทั้ง 4 น้ำหนักกว่าตันครึ่งของตัวรถก็จะค่อยกดให้รถติดหล่มแน่นอน ซึ่งเจ้า Forester ใหม่ คันนี้ มีไม้เด็ดคือระบบ X-mode ที่ช่วยให้ลุยผ่านไปได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และพาเราเข้าสู่เส้นทาง "สไตล์ครอส" ที่ ทั้งแคบ ทั้งลื่น โดยมีต้นหญ้าสูงท่วมหัวเป็นตัวกำหนดทิศทาง ซึ่งด่านนี้เราใช้ความเร็วกว่า 70 กม./ชม. วิ่งฝ่าไปเพื่อดูว่าจะยังเกาะอยู่หรือจะออกไปกินหญ้าช่วงสาดโค้ง และคำตอบก็เหมือนเดิมคือมันโชว์เหนือและผ่านฉลุยแบบมีลื่นนิดๆแต่ยังอยู่ในเลนได้สบายๆ
ก่อนจะจบด้วย Station สุดท้ายกับการปีนป่ายเนินชันและหลุมลึกซึ่งงานนี้มีทั้งล้อติดและแขวนลอย ซึ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Symmetrical All Wheel Drive นั้นโชว์ประสิทธิภาพในการถ่ายเทแรงบิดได้อย่างเหมาะสมในสภาวะที่แตกต่าง เช่นตอนติดหล่มล้อที่กำลังติดจะหมุนด้วยแรงที่น้อยลงและส่งกำลังให้ล้อเหลือช่วยดึงและดันผ่านไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก แถมช่วงลงทางชันยังมีระบบ HDC มาช่วยชะลอความเร็วทำให้ขับลงเนินได้ง่ายขึ้นด้วย
นอกจากนี้ Forester ยังจัดมาตรฐานความปลอดภัยมาให้สมราคา ตั้งแต่ ABS,EBD,BA ที่มาพร้อมกับระบบเบรกแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ ไปจนถึงระบบควบคุมเสถียรภาพ VDC ซึ่งมีโอกาสใช้งานน้อยมาก ถ้าไม่ขับโหดจริงๆระบบนี้คงต้องเหงาแน่ๆ
Tester Verdict
ถึงตอนนี้หลายคนคงเห็นแล้วว่า Forester ใหม่คันนี้ แกร่งขึ้น เก่งขึ้น และหล่อขึ้นเมื่อเทียบกับโมเดลก่อนอย่างชัดเจน ซึงถ้าเทียบคู่แข่งไม่ว่าจะเป็น Honda CRV , Captiva หรือ Mazda CX-5 ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ Forester ไม่เป็นรองใครแน่นอนโดยเฉพาะระบบขับเคลื่อน ถึงขั้นกล้าท้าชน กับระบบตะกลุย 4 ล้ออย่าง X-Drive ของ BMW ได้เลย ประกอบกับสมรรถนะโดยรวมและออฟชั่นอำนวยความสะดวกที่ทำคะแนนได้ในระดับ B ติดเพียงค่าตัวที่ที่โดดจากคู่แข่งแดนปลาดิบอยู่พอสมควร ในระดับเดียวใกล้เคียง SUV รุ่นประหยัดจากฝั่งยุโรป จนอาจทำให้เกิดการช่างใจอยู่บ้างตรงจุดนี้ มิหมำซ้ำย้งถูกน้องชายตัวดีอย่าง XV ขโมยซีนโกยยอดขายเป็นกอบเป็นกำให้กับ Subaru บ้านเราอย่างต่อเนื่อง และทำให้ Forester ใหม่ ต้องเหนื่อยมากขึ้นอีกนิด ซึ่งเราเชื่อว่าของดียังไงก็ต้องมีคนเห็นค่าแน่นอน
Specification : Subaru Forester 2.0i-Premium
รายละเอียดการผลิต
รุ่นปี: 2013
ผู้จำหน่ายในประเทศไทย: บริษัท Motor Image Subaru (Thailand) จำกัด
ประเภทรถยนต์: SUV
ราคา (ล้านบาท) 1.89
Dimension:
Length: 4,595
Width: 1,795
Height: 1,695
Wheelbase: 2,640
Front track / Rear track 1,547/1,552
Weight: 1,590
Engine
รหัส FB20
แบบ แบบสูบนอน 4 สูบ, 16 วาล์ว,DOHC
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,995 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก 84 x 90 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1
ระบบจ่ายเชื่้อเพลิง Multi-Point Sequential Injection
กำลังสูงสุด(Hp@Rpm) 150 @ 6,200
แรงบิดสูงสุด (Nm@rpm) 198 @ 4,200
ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร
Drivertrain
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD)
เกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT
Suspension
หน้า อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงก
หลัง อิสระ ปีกนกคู่ (Double Wishbone)
Brake
หน้า ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง ดิสก์เบรก
Wheel+Tire
ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว
ยาง
Safety ABS,EBD,BA,VDC
Test Result : Subaru Forester 2.0i Premium
รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วต่างๆ
km./h rpm.
80 1,850
100 2,050
120 2,450
140 2,900
Acceleration (km./h) sec.
0-100 11.7
Top Speed (km./h) 190+
Consumption (km./l.)
AVR. 10.5
ขอขอบคุณ
บริษัท Motor Image Subaru (Thailand) จำกัด
เรื่องโดย : อาณัติ สุทธิยุตร
ชมการทดสอบรถยนต์รุ่นดังกล่าวจากทีมงานออโต้สปินน์ได้ ที่นี่
ความคิดเห็น