ความพยายามในการบุกตลาดของ เลกซัส แบรนด์รถยนต์หรูในเครือโตโยต้านั้น มีให้เห็นอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ที่เลกซัสพยายามยกระดับแบรนด์ของตัวเองให้เทียบชั้นกับรถหรูจากค่ายยุโรป
สำหรับในประเทศไทยนั้น เลกซัสภายใต้การบริหารของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ก็ดูเหมือนว่าจะเติบโตไปได้เรื่อย ๆ แม้จะไม่ใหญ่โตเหมือนบริษัทแม่ก็ตามที แต่การออกสินค้าใหม่ รวมไปถึงยอดจำหน่ายที่ไม่เลวร้าย ก็ต้องถือว่ามีเป้าหมายการเติบโตที่น่าพึงพอใจ
ด้านตัวสินค้านั้น ต้องบอกว่าเลกซัสในประเทศไทยมีรถยนต์มาให้เลือกใช้งานกันครบทุกรุ่น สามารถเลือกได้ตามที่ต้องการ รวมไปถึงคันที่นำมาทดลองกันในวันนี้ก็คือ จีเอส250 ลักชัวรี่ ที่สนนราคาปาเข้าไป 4.59 ล้านบาท
เดินไปที่ตัวรถแล้วจะมีความรู้สึกขึ้นมาแวบหนึ่ง ว่ารถคันนี้เล็กกว่าที่คาด อาจจะเพราะด้วยเส้นสายรอบคันรถที่ดูห่อ ๆ ตัวรถเอาไว้ แน่นอนว่าในด้านของภาพลักษณ์ความสปอร์ตที่ได้มา ก็ต้องแลกกับขนาดของรถที่ดูประหนึ่งว่าจะเล็กลงไป
แต่เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในห้องโดยสารแล้ว ก็จะพบมาตรฐานความกว้างขวาง โอ่อ่า ตามแบบที่รถหรูในเซกเมนต์นี้ควรจะเป็น แถมมาตรฐานของเบาะที่นั่งที่ติดตั้งมา ก็ทำได้ดีครับ ถ้าไม่ชอบเบาะที่นั้่งแบบล็อกตัวอยู่กับที่เหมือนที่เจอในรถยุโรป เบาะของเลกซัสก็ดูนั่งสบาย มีที่ว่างให้ขยับแข้งขยับขามากกว่า
ความพยายามในการออกแบบจีเอสของเลกซัสคือ ด้านนอกให้ดูกระชับ สปอร์ต หรู ขณะที่จะต้องไม่ทิ้งความสะดวกสบายของความเป็นรถหรูลงไป และได้ออกมาเป็นรถยนต์ทรงปราดเปรียวที่ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.26
มองด้านหน้าของรถ กระจังหน้าแบบใหม่ พร้อมด้วยไฟเดย์ไลท์รูปตัวแอล ทำให้หน้ารถดูมีมิติมากขึ้น เส้นสายของรถลากต่อกันตั้งแต่ด้านหน้าไปจรดด้านหลัง ขณะที่ไฟท้ายออกแบบมายังไม่ค่อยลงตัวสักเท่าไร ในความรู้สึกส่วนตัวของผม
การเข้า-ออกห้องโดยสารทำได้ง่ายดายด้วยบานประตูที่เปิดกว้าง และตำแหน่งการนั่งของเบาะที่พอดี คือไม่ต้องย่อตัวลงมากนัก ที่นั่งมีระบบช่วยเหลือในการเข้าออก แค่ดับเครื่องยนต์ เบาะจะถอยหลังพร้อมด้วยพวงมาลัยจะยกเชิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกะกะผู้ขับขี่
การออกแบบห้องโดยสารภายในที่ใช้หนังสีดำมาสลับกับโลหะสีเงินนั้น ทำให้บรรยากาศภายในห้องโดยสารออกมาเรียบหรู ดูเงียบขรึมเกินไปกว่าที่วัยรุ่นจะเลือกมาใช้งาน แต่ก็มีดีที่นาฬิกาติดห้องโดยสารที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ลงตัว และทำให้บรรยากาศโดยรวมไม่น่าเบื่อเกินไป
การควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในตัวรถ สามารถทำได้ผ่านแป้นควบคุม ที่ผมเรียกว่าเป็นจอยสติกประจำรถ ที่ติดตั้งอยู่แถวที่วางมือตรงกลาง ขณะที่ปุ่มปรับโหมดการขับขี่เป็นแป้นกลม ๆ ที่อยู่ถัดมาทางด้านที่นั่งคนขับ สามารถเลือกได้ระหว่างโหมดอีโค โหมดธรรมดา และโหมดสปอร์ต รวมถึงมีโหมดวิ่งบนหิมะมาให้ด้วย
เอาเข้าจริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่าระบบจอยสติกของเลกซัสนั้น ใช้งานง่ายกว่าระบบที่มีลักษณะคล้าย ๆ กันของรถหรูยี่ห้ออื่น สามารถทำความเข้าใจไม่ได้ยาก เพียงแต่ว่าความน่าสนใจมันน้อยไปหน่อย และเสียงของคันโยกเองก็ทำให้รู้สึกไม่หรูหราซักเท่าไร
ในด้านของการขับขี่กันบ้าง จีเอส250 มาพร้อมเครื่องยนต์บล็อก 4GR-FSE วี6 ขนาด 2.5ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 207 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที และยังเป็นเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 เรียบร้อยแล้ว
แรงบิดมาที่รอบกลาง ๆ และกำลังสูงสุดยังมาที่รอบค่อนข้างสูงอยู่ ในด้านของการขับขี่จริง ๆ จีเอส สามารถออกตัวและทำความเร็วได้ในระดับเรื่อย ๆ ไม่หวือหวา สมรรถนะโดยรวมออกแนวเรียบ ๆ ไม่ได้มีความโดดเด่นในการขับขี่สักเท่าใดนัก
แม้คุณจะปรับโหมดการขับขี่ไปที่สปอร์ต และไฟสีแดงติดมาที่แผงหน้าปัดของคุณเพื่อเตือนว่านี่คือโหมดสปอร์ตแล้วนะก็ตาม ต่อให้คุณกดคันเร่งกระทืบลงไป ตัวรถก็ยังทำตัวเป็นคุณชาย ที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปเรื่อย ๆ รอบเครื่องสูงขึ้นมาอีกนิดนึง ไม่จี๊ดจ๊าดเหมือนรถในกลุ่มเดียวกัน
ช่วงล่างแน่นหนึบแบบไว้ใจได้ แม้ในช่วงความเร็วสูงอาจจะดูอ่อนนุ่มไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการควบคุมตัวรถแต่อย่างใด เห็นบอกว่าเลกซัสเองก็มีการปรับรายละเอียดของช่วงล่างไปเยอะมาก เพื่อให้ได้รถที่มีช่วงล่างที่ดี โดยที่ไม่ทิ้งความนุ่มนวลในโหมดรถผู้บริหารลงไป
แม้จะไปได้เรื่อย ๆ สไตล์รถคุณชาย แต่ถ้าคุณกดคันเร่งต่อเนื่อง มาตรวัดความเร็วก็พร้อมที่จะวิ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน เรียกว่าถ้าคุณเป็นเจ้านายที่ใจร้อนที่ชอบไปประชุมแบบเฉียดฉิวในแต่ละนัด เครื่องยนต์และช่วงล่างของจีเอสรุ่นนี้ ก็พอที่จะพาคุณแทรกตัวไปบนท้องถนน เพื่อไปประชุมให้ทันได้
โดยส่วนตัวมองว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้อาจจะยังตอบสนองต่อความดุเดือดในการขับไม่พอครับ ก็คงเหมือนกับรถหรูค่ายอื่น ๆ ที่เครื่องยนต์เล็กสุดมักโดนมองข้าม อย่าลืมว่าจีเอสยังมีเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร ซึ่งเป็วตัวท๊อปของเครื่องยนต์ธรรมดาให้เลือก แต่ก็ต้องบวกเงินไปอีกกว่า 2 ล้านบาท ไม่ก็ต้องหันไปเล่นไฮบริด ซึ่งราคาแพงขขึ้นไปอีก ยกเว้นแต่จะรอไฮบริดเครื่องเล็ก ที่ยังไม่รู้จะเปิดราคามาที่ย่านไหน
ถ้ารักและชอบที่จะเป็นคุณชาย เน้นความแตกต่างบนท้องถนน ทำไมจะต้องขับรถยุโรปตามใคร เลกซัสก็เป็นแบรนด์ทางเลือกที่น่าจะพร้อมดูแลคุณที่สุดแล้ว ณ เวลานี้...
ขอขอบคุณ เลกซัส ประเทศไทย ในเครือบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย สำหรับรถยนต์ทดสอบ
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพเพิ่มเติมได้ http://photos.autospinn.com/2013-Lexus_GS250/
ความคิดเห็น