แม้จะเป็นผู้ที่เข้าร่วมโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล โครงการที่ 1 เป็นรายสุดท้าย และเพิ่งเปิดตัวรถยนต์ในโครงการอย่างโตโยต้า ยาริส ไปเมื่อวานนี้ก็ตาม แต่กับโครงการที่ 2 ซึ่งยังเป็นแผนงานของรัฐบาลที่ยังไม่มีความชัดเจน ดูเหมือนว่าค่ายรถยักษ์ใหญ่แห่งนี้เตรียมจะเป็นเสือปืนไว
เพราะ เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ประกาศอย่างชัดเจนว่าพร้อมที่จะเดินหน้าสนับสนุนโครงการใหม่นี้อย่างแน่นอน และอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดของแผนงานทั้งหมด โดยคาดว่าจะตัดสินใจได้อย่างชัดเจนในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2557
นายใหญ่ของค่ายรถยนต์เบอร์ 1 ของประเทศไทย ระบุว่าความจำเป็นในการขยายตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กนั้น อยู่ที่การเติบโตของตลาดรถยนต์ใหม่ในภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นเมียนมาร์ ลาว เขมรและเวียดนาม ซึ่งจะกลายเป็นตลาดที่สำคัญหลังการเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากจำนวนประชากรในประเทศไทยที่ 65 ล้านคัน ก็อาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะเปิดโครงการใหม่ แต่หากพิจารณาในภาพรวมของจำนวนประชากร 250 ล้านคนในประเทศเหล่านี้แล้ว โตโยต้ามั่นใจว่าโครงการใหม่จะสามารถรองรับความต้องการเหล่านี้ได้ในอนาคต
"หลังปี 2559 เป็นต้นไป เชื่อว่าตลาดรถยนต์จะขยายตัวตามการเปิดเออีซี ซึ่งโตโยต้าต้องมั่นใจว่าพร้อมที่จะดูแลตลาดทั้งหมด ซึ่งรายละเอียดเรื่องการลงทุนไม่ใช่ปัญหา หากรัฐบางต้องการให้ลงทุนอีก 5,000-6,000 ล้านบาท โตโยต้าก็พร้อม แต่ที่ต้องพิจารณาก็คือจะนำรถรุ่นใดมาทำตลาดภายใต้โครงการใหม่"
ตามแผนการของรัฐบาล รถยนต์ที่จะเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ 2 นั้น จะต้องใช้เครื่องยนต์เบนซินไม่เกิน 1.3 ลิตรหรือดีเซลไม่เกิน 1.5 ลิตร โดยจะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 5 หรือปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 100 กรัมต่อการวิ่ง 1 กิโลเมตร
นอกจากนี้ จะต้องบริโภคน้ำมันในอัตราต่ำกว่า 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร โดยกำหนดเม็ดเงินลงทุนเบื้องต้น 6,500 ล้านบาท และต้องเป็นการลงทุนผลิตแบบครบวงจร ทั้งการประกอบรถยนต์และการผลิตชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ โดยจะต้องมีกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 1 แสนคันต่อปีตั้งแต่ปีที่ 4 ของการผลิตเป็นต้นไป
สำหรับรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ในปัจจุบันอย่างโตโยต้า ยาริส ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวานนี้ เชื่อว่าจะตรงกับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย โดยคาดว่าจะมียอดจำหน่ายที่ระดับ 4,000-5,000 คันต่อเดือนในช่วงที่เหลือของปีนี้
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกรถยนต์โตโยต้า ยาริส รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เพื่อออกไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ โดยยังไม่สามารถระบุประเทศและปริมาณการส่งออกได้ เนื่องจากจะกระทบประเทศที่ทำตลาดรถยนต์รุ่นเดิมอยู่ 4-5 ประเทศ แต่คาดว่าจะมียอดส่งออกราว 20-30% ของการผลิตเมื่อเริ่มทำการส่งออก
นายทานาดะยังได้กล่าวถึงภาพรวมของการแข่งขันในกลุ่มรถยนต์นั่งว่าในปีนี้จะเป็นปีที่ยากลำบากของโตโยต้าในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์นั่ง เพราะในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมายังคงเป็นรองฮอนด้าอยู่ค่อนข้างมาก แต่ก็มั่นใจว่าพร้อมที่จะกลับมาทวงตำแหน่งแชมป์คืนในปี 2557 อย่างแน่นอน
"ในปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับเรา เพราะเราเปิดตัวรถยนต์นั่งใหม่ถึง 3 รุ่น เริ่มตั้งแต่วีออสที่เปิดรับจองในช่วงปลายปีที่แล้ว และมาเริ่มจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ยาริสก็มีการจำหน่ายรถในสต๊อกทั้งหมดไปแล้ว 3 เดือนก่อนเปิดตัวรุ่นใหม่ และในช่วงปลายปีที่จะมีการเปิดตัวโคโรลล่า อัลติสใหม่ รถยนต์รุ่นปัจจุบันก็จำหน่ายใกล้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นขอให้ติดตามในปีหน้า เราจะกลับมาทวงบัลลังค์อย่างแน่นอน"
LINE
ความคิดเห็น