เมื่อวานนี้ทั้งวัน ผมใช้ชีวิตอยู่ใน เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี300 บลูเทค ไฮบริด เอ็กเซ็กคลูทีฟ สีน้ำตาลเข้ม ระยะเวลา 6 ชั่วโมงนิด ๆ ตลอดระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร บนเส้นทางกระบี่-หัวหิน ซึ่งแม้จะเป็นทางหลวงเกือบทั้งหมด แต่ก็มีสภาพพื้นผิวการขับขี่ให้ได้ทดลองหลายรูปแบบ
จริง ๆ แล้วทั้งอี-คลาสและเครื่องยนต์บลูเทค ไฮบริด ก็ไม่ใช่ของใหม่หมดจดจากค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย แต่ที่เพิ่งจัดการทดสอบขึ้นมานั้น เพราะว่าทีมงานเองเพิ่งจะได้รับรถยนต์ทดสอบในกลุ่มอี-คลาสแบบทั้งตระกูลมาอยู่ในครอบครอง
ทั้งตระกูลที่ว่า ก็หมายถึงมีตั้งแต่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร รุ่นบลูเทค ไฮบริด ทั้งแบบเอเอ็มจีและรุ่นพื้นฐาน รวมไปถึงรุ่นคูเป้และคาบริโอเลต์ ซึ่งในทริปของการทดสอบนั้น มีมาให้ครบทุกรุ่น แล้วแต่ใครจะโชคดีได้กุมพวงมาลัยของรุ่นใด
ซึ่งหากไล่เรียงราคาของทั้ง 5 รุ่นแล้ว จะพบว่าคันสีน้ำตาลที่ได้ทำการทดสอบนั้นอยู่ในระดับเกือบจะเป็นน้องเล็กสุด ด้วยราคาจำหน่าย 3.69 ล้านบาท จะแพงกว่าก็แค่รุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่เคาะราคาถูกกว่ากัน 3 แสนบาทเท่านั้น ที่เหลือค่าตัวจะแพงกว่าทั้งหมด ตั้งแต่ 1-4 แสนบาท
มาทีอี300 บลูเทค ไฮบริด คันนี้กันก่อน รูปร่างหนาตาเปลี่ยนไปอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟหน้าที่แม้จะออกแบบมามี 4 ตาเหมือนเดิม แต่ก็ให้ความรู้สึกหวือหวาโฉบเฉี่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของไฟเดย์ไลท์ที่ออกแบบมาอย่างสวยงามประหลาดตา
โคมไฟหน้าที่ออกแบบรวมทุกอย่างไว้ในโคมเดียวกัน ทำให้ตัวรถด้านหน้าดูทันสมัยมากขึ้น แถมในรุ่นนี้ ระบบไฟด้านหน้ายังเป็นแบบแอลอีดีทัังหมด และมีการเล่นเส้นสายของตัวรถอย่างลงตัว ไล่จากด้านหน้าไปจรดท้ายรถ ที่มีการเปลี่ยนเส้นสายในโคมไฟหลังให้ดูอ่อนช้อยมากขึ้น
ภายในห้องโดยสารก็ยังให้บรรยากาศแบบเมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่ ด้วยหนังสีสว่างที่ให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เปิดเพลงคลอเบาเบาไปบนเก้าอี้หนังที่ตัดด้วยลายไม้ และแน่นอนว่าระบบมัลติมีเดียที่ติดตั้งมาก็ครบครัน โดยในรุ่นนี้ทำได้ตั้งแต่ฟังเพลง ดูระบบต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ไปจนถึงเป็นระบบนำทางเลยทีเดียว
ในด้านระบบความปลอดภ้ยนั้น เมอร์เซเดส-เบนซ์คุยว่ามีการอัดระบบต่าง ๆ มาให้อย่างเพียบพร้อมในรถคันนี้ ซึ่งมีระบบหนึ่งที่ควรคู่แก่การกล่าวถึง เพราะผมได้ทำการทดสอบโดยไม่รู้ตัว นั่นก็คือ Lane Keeping Assist หรือระบบเตือนเมื่อขับรถออกนอกเลน
จริง ๆ แล้ว โดยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ค่อยใช้ระบบช่วยเหลือในการขับขี่อยู่แล้ว ถ้าในรถที่มีระบบติดตั้งมาเยอะ ๆ ก็จะเปิดเพื่อทำการทดสอบแล้วปิด แต่ในรถที่ได้รับกุญแจแล้วต้องออกเดินทางเลย ทำให้ไม่ได้ทำการปรับแต่งระบบต่าง ๆ ก่อนออกเดินทาง
พอออกมาขับบนท้องถนนแล้ว ก็รู้สึกว่าพอเปลี่ยนเลนแล้วจะรู้สึกว่ามีการสั่นที่พวงมาลัยสั้น ๆ 3 ครั้ง ตอนแรกก็คุยกับพี่ที่นั่งไปด้วยกันว่าเป็นแรงสะเทือนจากรถหรือเปล่า หรือเป็นระบบอะไร กว่าจะรู้ว่าเป็นการเตือนจากระบบดังกล่าวก็ผ่านไปเกือบ 300 กิโลเมตร เลยต้องมาไล่ปิดทั้งหมด
เอาจริง ๆ ระบบความปลอดภัยพวกนี้เป็นเรื่องที่ดีนะครับ อาจจะดูน่ารำคาญไปบ้าง เพราะบางทีก็เข้ามารบกวนสมาธิในการขับขี่เหมือนกัน แต่หากคำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์ ก็เป็นเรื่องที่ดีที่ค่ายรถต่าง ๆ พยายามจะนำระบบพวกนี้มาใช้งานกันมากขึ้น
มาที่เรื่องของประสิทธิภาพในการขับขี่ ที่ผมจั่วหัวเอาไว้ว่า "เธอเปรียบเป็นเหมือน 2 คนในร่างเดียว" นั้น หมายถึงระบบการขับขี่ของรถที่สามารถเลือกได้เป็นโหมด E และโหมด S ซึ่งความแตกต่างในการขับขี่นั้นค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ผมถามทีมงานของเบนซ์ถึงการเปลี่ยนแปลงของ 2 โหมดนี้ คำตอบที่ได้ก็คือการเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ จะมาจากระบบส่งกำลัง ซึ่งก็หมายถึงในโหมด E นั้น ไฮบริดจะทำงานอย่างเต็มที่กว่าในเรื่องของการช่วยเหลือในการขับขี่ ขณะที่โหมด S ไฮบริดจะทำงานในการส่งกำลังให้เครื่องยนต์ในการเร่งแซงเท่านั้น
นั่นก็หมายความว่า เมื่อขับขี่ที่โหมด E ระบบไฮบริดของรถจะทำหน้าที่เหมือนทั่ว ๆ ไป คือ มีช่วงที่วิ่งด้วยไฟฟ้าทั้งหมด มีช่วงเวลาแห่งการชาร์จไฟกลับไปที่แบตเตอรี่ และมีช่วงเวลาที่ไฟฟ้าทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ ขณะที่โหมด S จะไม่สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้
อย่างไรก็ตาม ไฮไลท์ของเครื่องยนต์จริง ๆ อยู่ที่แรงบิดที่เพิ่มขึ้นมาอีก 90 นิวตัน-เมตรในทุกช่วงความเร็วเมื่อมีการเหยียบคันเร่ง และรถรู้สึกได้ถึงความต้องการเร่งแซง มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานด้วยการส่งกำลังไปที่เครื่องยนต์ เพื่อเพิ่มความดุเดือดในการออกตัวทันที
จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เพราะด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2,143 ซีซี. ที่ให้แรงม้า 204 แรงม้าพร้อมแรงบิด 500 นิวตัน-เมตรที่รอบต่ำ 1,600-1,800 รอบต่อนาที แล้วเสริมแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 27 แรงม้าพร้อมแรงบิดที่ 280 นิวตัน-เมตร
ข้อดีของการใช้แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าก็คือ ความไวในการเรียกแรงม้าจากตัวรถทำได้อย่างนุ่มนวลและรวดเร็วกว่าการใช้กำลังของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว นั่นก็หมายถึงการออกตัวและการเร่งแซงจะทำได้ดีกว่าไปด้วย
ความแตกต่างสำหรับการขับรถในโหมด E และ S นั้น เรียกได้ว่าแทบจะเป็นรถยนต์คนละคัน โดยโหมด E ดูจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ยุคที่ยังเน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ เครื่องยนต์ไม่หวือหวามากนัก เรียกว่าไปได้เรื่อย ๆ แบบสบาย ๆ ไป
แต่ในโหมด S แล้ว เครื่องยนต์ดูเหมือนจะมีการตอบสนองที่คึกคักหนักแน่น สิ่งที่ต้องทำก็คือควบคุมรถด้วยสมาธิที่มากขึ้น เพราะไม่ว่าคุณจะแซงและเร่งแค่ไหน รถก็ยังตอบสนองได้ดีไปจนถึงย่านความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พละกำลังก็ยังไม่หมด
ในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลิองนั้น ไม่ว่าคุณจะกระทืบคันเร่ง เคียดคั้นเอาพละกำลังของรถมาใช้ขนาดไหนก็ตาม อัตราการสิ้นเปลืองที่ทำได้แบบเลวร้ายที่สุดก็ยังอยู่ที่ระดับ 14-15 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่ารับได้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากขับดีดีกว่านี้ น่าจะทำได้ใกล้เคียง 23-24 กิโลเมตรต่อลิตรตามที่สเปกว่า
ช่วงล่างของรถคือสิ่งที่ตั้งคำถามให้กับผมเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องโยนให้เป็นปัญหาของถนนที่่ทำการทดสอบด้วยส่วนหนึ่งว่าพื้นถนนไม่ค่อยดีและเป็นคลื่น แต่ตัวรถที่ออกแนวโยนตัวอย่างหนักตั้งแต่ย่านความเร็วกลางถึงสูง ก็ทำให้ต้องนำเรื่องนี้ไปคุยกับผู้รู้จากค่ายเบนซ์อยู่ดี
มีการประมาณการณ์ว่าปัญหาเรื่องของการโยนตัวของรถที่เกิดขึ้นมานั้น เกิดจาก 2 ข้อใหญ่ ๆ นั่นก็คือ น้ำหนักของตัวรถที่เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นเก่าประมาณ 100 กิโลกรัม และอีกเรื่องก็คือ ยางที่ใช้ในรุ่นเอ็กเซ็กคลูทีฟเป็นยางรันแฟลต ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อเรื่องของการขับขี่อยู่แล้ว
วิธีแก้ที่ง่ายที่สุดในเวลานี้ก็คือการกำเงินเพิ่มอีก 4 แสนบาท แล้วไปจองรุ่นเอเอ็มจี ไดนามิค ที่จะได้ยางแบบธรรมดาติดตั้งมาในรถ พร้อมด้วยชุดแต่งเอเอ็มจี และช่วงล่างแบบสปอร์ต ที่จะทำให้ตัวรถหนึบแน่นเกาะถนนมากกว่ารุ่นนี้อย่างแน่นอน
หลังจากจบการทดสอบ ผมได้ร้องขอกับทางทีมงานไปว่าอยากจะลองเปลี่ยนไปขับคาบริโอเลต์ในการเดินทางกลับ ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบนะครับว่าจะได้หรือไม่ได้ ซึ่งหากเปลี่ยนไปลองรุ่นอื่น ๆ ก็คงจะได้นำมาทำการรายงานผลการทดสอบอีกครั้ง...
ขอขอบคุณ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับทริปทดสอบแสนสนุก
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพเพิ่มเติมได้ http://photos.autospinn.com/2013-Mercedes-Benz_E300BTHB/
พบกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส มือสองคุณภาพดี ได้ที่เวบไทยคาร์ดอทคอม
ความคิดเห็น