ฮุนไดเพิ่มไลน์สินค้ารุ่นอีลิทให้เอช-1

หลังจากฟันส่วนแบ่งตลาดรถตู้สำหรับครอบครัวไปอย่างมากมายด้วยฮุนได เอช-1 ล่าสุดได้มีการเพิ่มไลน์สินค้ารุ่นอีลิท ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูลเอช-1 เพื่อจับกลุ่มครอบครัวและผู้บริหารยุคใหม่ โดยวางจำหน่ายที่ราคา 1.449 ล้านบาทเท่านั้น

ฮิเดกิ ยานากิซาวา ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ฮุนได เอช-1 อีลิท เป็นอีกทางเลือกใหม่ที่รวมเอาความโดดเด่นของอุปกรณ์และสเปคมาตรฐานจากรุ่นดีลักซ์ ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด มาผสมผสานเป็นความคุ้มค่าที่ลงตัว สามารถตอบสนองความต้องการของครอบครัวพรีเมี่ยมยุคใหม่ ที่เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา ความหรูหราในราคาที่โดนใจ

รวมไปถึงการใช้งานที่ดีเยี่ยมจากเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรลขนาด 2.5 ลิตร 175 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มั่นใจได้ในสมรรถนะที่เหนือชั้น ความประหยัดน้ำมันและความคล่องตัวในการใช้งาน โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30 นี้

“เอช-1 อีลิท จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคที่ชื่นชอบรถยนต์เอ็มพีวียอดนิยม ที่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะและมากด้วยประโยชน์ใช้สอย รถคันนี้จะเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มาจากเซกเมนต์อื่น ๆ ที่ต้องการยกระดับมาสู่ความสบาย และความปลอดภัยที่เหนือกว่า เพื่อประโยชน์ในการใช้งานที่มากยิ่งขึ้น พร้อมออปชั่นและราคาที่คุ้มค่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด”

ทั้งนี้ ความโดดเด่น และความคุ้มค่าคุ้มราคาของฮุนได เอช-1 อีลิท ประกอบด้วย ประตูหลังแบบสไลด์สองข้าง เปิดปิดเบาแรง เบาะโดยสารแบบ 12 ที่นั่งหุ้มหนังแท้ รวมถึงเบาะวีไอพีที่หมุนได้ 180 องศา 1 คู่ ภายในขนาดใหญ่ รางเลื่อนนิรภัย 3 แถว ปรับตำแหน่งได้ละเอียดแม่นยำ คอนโซลกลางตกแต่งลายไม้ ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

“H-1 Elite ประกอบขึ้นที่หนึ่งในโรงงานชั้นนำของฮุนไดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นโรงงานเดียวที่ประกอบรถยนต์ฮุนไดรุ่นที่ขายดีเป็นอันดับสองในประเทศไทย คือฮุนได แกรนด์ สตาเรกซ์ ซึ่งเป็นรถยนต์ซูเปอร์ ลักชัวรี่ เอ็มพีวี 7 ที่นั่งแท้ ๆ จากโรงงาน ที่ให้ความสบายส่วนตัวที่มากกว่า”

ทั้งนี้ ฮุนได เอช-1 ถือเป็นรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายไปแล้วกว่า 1.4 หมื่นคันนับตั้งแต่การเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2551 และในปี 2556 นั้น ในช่วง 10 เดือนแรกของปีก็มียอดจำหน่ายไปแล้ว 2,161 คันเลยทีเดียว