ตั้งหัวชื่อให้ดูเก๋ไก๋ แต่ไม่ได้ผิดไปจากความจริงแต่อย่างใด เพราะในวันนี้ เราจะพาทุกท่านไปพบกับมาสด้า แอกเซล่า เวอร์ชั่นเจดีเอ็ม ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นสำหรับตลาดประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยทีมงานของมาสด้า ประเทศไทย ขนรถรุ่นนี้เข้ามาให้ทดลองขับเป็นน้ำจิ้มก่อนเปิดตัวมาสด้า 3 รุ่นใหม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคมนี้
ใครจะมองว่าเป็นการดักทางผู้ประกอบการรายอื่นก็ช่าง เพราะทีมงานของมาสด้าบอกว่างานนี้มีการวางแผนล่วงหน้ากันมานานมาก โดยจะมีทีมสื่อมวลชนที่มาสด้าเชิญ 30 ราย ประกอบกับตัวแทนจำหน่ายทั้งหมดซึ่งจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ทำการสัมผัสกับรถยนต์รุ่นนี้ และสถานที่ทดสอบก็คือสนามทดสอบโบนันซ่า เขาใหญ่ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ๆ ปลายหน้าหนาว
นอกจากจะจัดงานพรีวิวรถรุ่นใหม่ล่าสุดก่อนการเปิดตัวถึง 2 เดือน มาสด้ายังได้อิมพอร์ตผู้บริหารที่ทำหน้าที่ในการดูแลการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามาเพื่อให้รายละเอียดทั้งหมด พร้อม ๆ กับรถยนต์มาสด้า แอกเซล่า เจดีเอ็มอีก 6 คัน โดยมีการหุ้มสติกเกอร์ลายเสือชีตาร์ทั้งคัน 4 คัน เพื่อทำการทดสอบในสนาม ตามภาพที่เห็นทั้งหมดจากการทดสอบนี้
ขณะที่อีก 2 คันที่เหลือ ที่นำมาจัดแสดงเพื่อให้เห็นถึงรูปร่างหน้าตาและอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบเต็มคันโดยที่ไม่มีสติกเกอร์แปะให้ระคายสายตานั้น มาพร้อมสีพิเศษอย่างสีแดง โซเรด ซึ่งจะเป็นสีที่ใช้ในการเปิดตัวรถยนต์ในกลุ่มสกายแอคทีฟทั้งหมดนับจากนี้ โดยรถยนต์ที่นำมาทดสอบในครั้งนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 สกายแอคทีฟ จี ที่ติดตั้งอยู่ในรุ่นพี่อย่างซีเอ็กซ์-5 มาก่อนหน้านี้
แต่ก่อนที่จะลงสนามเพื่อขับกันอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าต้องเข้าห้องเรียนกันก่อน ซึ่งอาจารย์ของเราในวันนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นผู้ที่โอบอุ้มและพัฒนารถยนต์คันนี้ตั้งแต่แรก ได้แก่ เคนอิชิโร ซารูวาตานิ ผู้จัดการโครงการมาสด้า3 ซึ่งเป็นผู้แนะนำรถยนต์คันนี้ให้กับพวกเราอย่างเป็นทางการว่าเรากำลังจะเจอกับรถยนต์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากของมาสด้า
ความสำคัญดังกล่าวรวมไปถึงการที่มาสด้าเลือกที่จะเปิดตัวมาสด้า 3 ใหม่ในประเทศไทยเป็นตลาดลำดับต้น ๆ ของโลก หลังจากเปิดตัวไปแล้วในสหรัฐอเมริกา เยรมนีและประเทศญี่ปุ่น จากนั้นก็น่าจะเป็นตลาดออสเตรเลีย และก็จะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งตามลำดับแล้ว ประเทศไทยน่าจะเปิดตัวผลผลิตจากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์คันนี้กันในช่วงเดือนมีนาคม
มาสด้า 3 ที่กำลังจะเปิดตัวนี้ นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของมาสด้าหลังเปลี่ยนชื่อมาเรียกรถยนต์ไซส์กลางคันนี้ว่า 3 และนับเป็นรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคันเป็นรุ่นที่ 2 ของประเทศไทย โดยซารุวาตาริบอกว่าใน 2 รุ่นแรกของมาสด้า 3 นั้น มียอดจำหน่ายมากกว่า 3.7 ล้านคันตลอด 10 ปีที่ผ่านมาใน 160 ประเทศทั่วโลก และเป็นรถยนต์ที่ได้รับรางวัลรวมกันมากกว่า 136 รางวัล
"แนวคิดในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่มาพร้อมคุณค่าในการสร้างความประทับใจเมื่อแรกเห็น และคววามประทับใจตลอดอายุการใช้งานรถยนต์ ซึ่งมาสด้าเองถือเป็นผู้ริเริ่มในการพัฒนารถยนต์สปอร์ตคอมแพคท์ โดย 3 ใหม่ถือเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมกับแนวคิดโคโด ดีไซน์ เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ รวมไปถึงระบบความปลอดภัยรูปแบบใหม่ที่เรียกว่าไอ-แอคทีฟเซนส์ ที่มีระบบต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยหยุดรถ กล้องมองหลัง รวมถึงโครงสร้างตัวถังที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากการชนระดับ 5 ดาว"
มาสด้า 3 ใหม่าพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม รวมถึงการออกแบบภายในที่โดดเด่น และสมรรถนะการตอบสนองในการขับขี่ที่ทันใจ โดยการออกแบบเน้นไปที่ความปลอดภัยแบบยั่งยืนที่มาสด้าคุยว่าปลอดภัยที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน และยังมาพร้อมระบบมาสด้า คอนเนคต์ ระบบเชื่อมต่ออินโฟเทนเมนต์รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมหน้าจอทีเอฟที 7 นิ้ว ปุ่มควบคุมที่สามารถสั่งการระบบต่าง ๆ ได้ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต ระบบนำทางและเครื่องเล่นเพลงที่ให้คุณภาพเสียงในระดับดีเยี่ยม
การออกแบบรถยนต์คำนึงในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่แม้แต่จุดเล็กจุดน้อย อาทิ เสาเอที่วางตำแหน่งถอยหลังลงมาจากรุ่นเดิม 100 มม. เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ตำแหน่งของกระจกมองข้างที่ปรับย้ายไปวางที่ตำแหน่งประตูหน้า หรือแป้นคันเร่งและแป้นเบรกแบบออร์แกนไทป์ที่วางตำแหน่งยึดกับพื้นห้องโดยสาร ที่จะใช้ในการควบคุมรถได้ดีกว่าแป้นคันเร่งที่ติดตั้งแบบดั้งเดิม
รุ่นที่นำมาให้ทดสอบติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้าที่ 6,000 รอบ (สเปกของเมืองไทยจะเป็น 165 แรงม้า) และให้แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ ซึ่งมาสด้าเคลมว่าให้อัตราการประหยัดที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรรุ่นเดิม และหากเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ 2.0 เดิม จะพบว่ามีอัตราการสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น 20% และยังสามารถรองรับการใช้งานเชื้อเพลิงอี85 ในประเทศไทยได้อีกต่างหาก โดยรถยนต์รุ่นนี้จะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ-ไดร์ฟแบบ 6 สปีด ซึ่งมาสด้าบอกว่าดีกว่าเกียร์รุ่นเดิมอย่างมหาศาล
ในการทำการทดสอบนั้น ทีมงานของมาสด้าอนุญาตให้วิ่งทำการทดสอบ 3 รอบสนามโบนันซ่า เขาใหญ่ ด้วยระยะทาง 8.4 กิโลเมตร ผ่านโค้งต่าง ๆ มากมายของสนาม แม้จะไม่สามารถบอกรายละเอียดความดีงามของรถยนต์คันนี้ได้ทั้งหมด แต่ก็มากเพียงพอที่จะบอกว่ารถยนต์คันนี้ดีขึ้นกว่ามาสด้า 3 รุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน ในเรื่องของการขับขี่ที่โดดเด่นขึ้นในทุกมิติ
ว่ากันที่รูปร่างหน้าตาภายนอกของรถในคันที่ไม่ได้หุ้มสติกเกอร์ทั้งคันนั้น สีแดงโซเรดขับจุดเด่นของรถออกมาในทุกมิติ การออกแบบที่เน้นการนำหลักอากาศพลศาสตร์มาใช้ในการไล่ลมของทั้งคันรถ ส่งผลให้มาสด้า 3 มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำที่สุดในท้องตลาด ขณะที่การออกแบบห้องโดยสารภายในเน้นที่การเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่ด้วยการจัดวางอุปกรณ์ในตำแหน่งที่ใช้งานได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายที่สุด
ทันทีที่กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ จอกระจกขนาดเล็กก็จะกระเด้งขึ้นมาที่ด้านหน้าของคนขับในตำแหน่งด้านบนของแผงคอนโซลด้านหน้า ซึ่งนั่นก็คือเฮด-อัพ ดิสเพลย์ที่แสดงข้อมูลด้านความเร็วของรถให้ผู้ขับขี่เห็นอย่างชัดเจน เนื่องจากหน้าจอหลักนั้นถูกแสดงด้วยวงรอบเครื่องยนต์เสยเกือบหมด พวงมาลัยกระชับมือมากขึ้นแม้ขนาดของวงจะดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยก็ตาม
ตำแหน่งของเบาะที่นั่งเซตอัพมาอย่างลงตัว แต่ตำแหน่งของเบาะที่นั่งหลังนั้นอาจจะทำให้ผู้ที่มีความสูงมาก ๆ ลำบากเล็กน้อยในการย้ายตัวเข้าไปด้านในตัวรถ เฮดรูมมีที่ให้เพียงพอสำหรับคนที่สูงไม่มากนัก เบาะที่นั่งของคนขับให้อาการโอบกระชับดี เมื่อคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว ตัวจะไม่ค่อยเลื่อนหลุดไปจากเบาะที่นั่ง แม้ว่าจะขับขี่เข้าโค้งด้วยความเร็วระดับต่ำถึงกลางก็ตามที
ในการทำการขับขี่ช่วงสั้น ๆ ที่มีระยะเวลาที่ความเร็วในการขับขี่ขึ้นไปถึง 3 หลักน้อยมากนั้น มาสด้าพยายามที่จะแสดงศักยภาพของรถด้วยการจัดการทดสอบหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสลาลอม การเปลี่ยนเลนกระทันหัน ผนวกกับสภาพของสนามที่มีโค้งมีเนินให้เล่นอยู่แล้วหลายตำแหน่ง ถือเป็นการโชว์ของกันอย่างพอสมควร โดยเฉพาะช่วงล่างที่ให้การตอบสนองได้อย่างโดดเด่น
ถ้าคุณจำความรู้สึกของช่วงล่างแบบหนึบแน่นและกระด้างแข็ง ๆ ของมาสด้า 3 เจนแรกได้ ความรู้สึกในการขับรถรุ่นนี้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากความรู้สึกนั้น แต่สิ่งที่เพิ่มมาก็คือความนุ่มนวลและสะดวกสบายที่เพิ่มเข้ามาเอาใจลูกค้ากลุ่มที่ต้องการซื้อรถยนต์นั่งที่แท้จริง ถามว่ามันยังขับสนุกในแบบซูม-ซูมไหม คำตอบคือใช่เลย เพียงแต่มันไม่ดิบเหมือนในรุ่นที่ผ่านมาก็เท่านั้นเอง
เมื่อทำการควบคุมรถผ่านทางโค้งต่าง ๆ ก็จะพบว่าพวงมาลัยทำงานอย่างรวดเร็วกระฉับกระเฉง และให้ความแม่นยำอย่างมากในการขับขี่ ตัวรถเองก็ให้การตอบสนองต่อการขับขี่เป็นอย่างดี โดยที่ผู้ขับขี่จะรู้สึกได้ว่ารถทั้งคันช่วยเหลือกันในการพารถไปในทิศทางที่ผู้ขับขี่ต้องการอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ตำแหน่งที่ท้ายควรจะบานออกเพื่อที่จะต้องควบคุมรถกันใหม่ก็บานออกแบบไม่ฝืน และการแก้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นเกินไปสำหรับการควบคุมรถคันนี้
เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรรุ่นนี้ ผมเองยังไม่ได้มีโอกาสทดสอบแม้จะมีการติดตั้งมาในซีเอ็กซ์-5 แล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าเมื่อมาติดตั้งในรถที่เล็กกว่า เบากว่าและลู่ลมกว่าก็น่าจะให้การตอบสนองที่ดีกว่าเช่นกัน และก็ไม่ผิดหวังกับการตอบสนองของเครื่องยนต์ ที่ให้การตอบรับต่อการกดคันเร่งของผู้ขับขี่อย่างทันท่วงที และหลังจากนั้นก็คือความสนุกสนานในการขับขี่ที่เพิ่มมากขึ้นในย่านความเร็วที่สูงขึ้นไปด้วย
ต้องขอบคุณเกียร์สกายแอคทีฟของมาสด้าที่ฉลาดเกินคาด การทำงานของระบบเกียร์สอดประสานกับเครื่องยนต์และแทบจะไม่ทิ้งสมรรถนะตรงไหนไปอย่างเสียประโยชน์ แพดเดิลชิฟท์ถูกติดตั้งมาที่ตำแหน่งหลังพวงมาลัยช่วยให้การควบคุมรถในทางโค้งทำได้อย่างสนุกสนานและปลอดภัยมากขึ้น และแม้จะไม่ได้วิ่งแซงกันในสนาม แต่ก็เชื่อว่ามาสด้า 3 รุ่นนี้จะเป็นรถที่ให้อัตราการเร่งแซงที่ดีเหนือกว่าคู่แข่งหลาย ๆ คันในคลาสเดียวกันนี้
โดยสรุปแล้วต้องบอกว่ามาสด้า 3 รุ่นใหม่ถูกพัฒนามาพร้อม ๆ กับแนวทางที่ต้องการรถยนต์ที่มีสำหรับขับขี่ ด้วยโครงสร้าง เครื่องยนต์ ช่วงล่างและระบบต่าง ๆ ที่ต้องบอกว่าจัดกันมาอย่างเต็มที่ เหลือเพียงคำถามที่ว่าเมื่อถึงเวลาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะเปิดรับจองอย่างเต็มรูปแบบในงานมอเตอร์โชว์ อุปกรณ์ชิ้นใดจะถูกตัดออกไปบ้าง และสนนราคาที่จะเปิดตัวจะอยู่ที่ระดับใด
เพราะในช่วงแรกของการเปิดตัว มาสด้า 3 น่าจะมาเฉพาะเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเท่านั้น จากนั้นก็จะเป็นรุ่นเครื่องยนต์เล็กกว่าที่ตามมาในช่วงครึ่งหลังของปี และตามมาด้วยรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์พลังงานก๊าซธรรมชาติ ที่กว่าจะมาก็คงจะเห็นปีหน้ากันไปแล้ว
ถ้าเคาะราคามาเริ่มต้นสำหรับเครื่องยนต์ตัวนี้ที่ 8xx,xxx บาทไล่ไปถึงรุ่นตัวท๊อปที่สนนราคาล้านอัพ ก็ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย...
ขอขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับการทดสอบรถยนต์ครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ http://photos.autospinn.com/2014_all-new_Mazda_3_Axela/
พบมาสด้ามือสองและมาสด้า 3 มือสองคุณภาพเยี่ยมได้ที่ไทยคาร์ดอทคอม
ความคิดเห็น