เอ็มจีซี-เอเชียเล็งดันธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน สร้างรายได้ 5 หมื่นล้านในปี 2561

มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) ประกาศแผนธุรกิจ 4 ปี ดันกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ภูมิภาคอาเซียน หวังเพิ่มรายได้เป็น 5 หมื่นล้านบาท เริ่มจากรถเช่าซิกท์เป็นหัวหอกแรกบุกประเทศลาวปีนี้

สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการกลุ่ม บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจว่าภายในปี 2561 หรืออีก 4 ปีนับจากนี้ จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับภูมิภาคอาเซียน โดยจะต้องขยายธุรกิจออกไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค

ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ในปีดังกล่าวที่ไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่บริษัทฯ ทำรายได้จากธุรกิจค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยไป 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 25% และคาดว่าในปี 2556 นี้จะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง 17-18% อย่างแน่นอน

"ในปีนี้จะเป็นปีแรกที่เราเริ่มเดินหน้าขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศ โดยจะเริ่มต้นจากธุรกิจรถเช่าระยะสั้น ซึ่งบริษัทฯ เป็นพันธมิตรกับผู้บริการระดับโลกอย่างซิกท์ เร้น อะ คาร์ จากประเทศเยอรมนี ซึ่งจะขยายสาขาไปที่สนามบินเวียงจันทร์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นที่แรกสำหรับตลาดต่างประเทศ จากการที่บริษัทได้สิทธิ์ในการบริหารงานใน 7 ประเทศในภูมิภาคนี้"

สำหรับภาพรววมของธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2556 ที่ผ่านมานั้น พบว่ามีการเติบโตในทุกธุรกิจ รวมถึงมีการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในกลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถยนต์หรูหราที่ได้สิทธิ์เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์แอสตัน มาร์ติน ในประเทศไทย ควบคู่กับการที่ได้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์โรลส์-รอยซ์ไปก่อนหน้านั้น ทำให้สามารถดูแลกลุ่มลูกค้ารถยนต์ซูเปอร์พรีเมียมในประเทศไทยได้

ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ใหม่ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมิลเลนเนียม ออโต้ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ มียอดจำหน่ายรวมกันกว่า 3,000 คัน โดยอยู่ระหว่างการปรับโฉมโชว์รูมพระราม 4 คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงครึ่งปีแรก และพัฒนาการ ฮอนด้า ออโตโมบิล ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าที่เปิดให้บริการเพียง 9 เดือนก็มียอดจำหน่ายมากกว่า 1,000 คัน

ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มือสองที่ได้รับผลกระทบจากโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ก็สามารถทำยอดจำหน่ายได้ที่ระดับ 1,200 คัน ซึ่งบริษัทฯ มีธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มือสองบีเอ็มดับเบิลยู มินิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มัลติแบรนด์ รวมไปถึงธุรกิจจำหน่ายรถซูเปอร์คาร์มือสองที่สามารถรองรับความต้องการลูกค้าได้ทุกกลุ่ม

ในกลุ่มธุรกิจรถเช่ามีการขยายฟลีตรถเพิ่มเป็นกว่า 5,000 คัน โดยรถเช่าระยะยาวเติบโต 12% และรถเช่าระยะสั้นที่ร่วมมือกับซิกท์เติบโต 35% เป็นผลจากการขยายพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ โดยในปีนี้มีแผนที่จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 6 สนามบิน ได้แก่ อุบลราชธานี พิษณุโลก นครศรีธรรมราช ตรัง ภูเก็ตและดอนเมือง รวมถึงศึกษาแผนการขยายไปต่างประเทศเพิ่มเติมที่พม่าและเวียดนาม

นอกจากนี้ มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส ซึ่งดูแลธุรกิจบริการซ่อมบำรุงรถยนต์ก็มียอดขายไปมากกว่า 300 ล้านบาท ธุรกิจให้บริการด้านประกันภัยแบบครบวงจรก็สามารถสร้างเบี้ยประกันภัยเติบโต 25% เพิ่มเป็น 800 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ขณะที่ธุรกิจสนับสนุนในเครือก็มีการขยายงานเพื่อรองรับการเติบโตขององค์กรอย่างต่อเนื่อง

"เรามั่นใจว่าดำเนินธุรกิจมาอย่างถูกทางและพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจการค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียนตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งแผนงานที่เราวางไว้จะเห็นการเติบโตที่สมบูรณ์ในช่วงปี 2561 ซึ่งคาดว่าจะเป็นปีที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนขยายตัวอย่างเต็มที่"